ระวัง! โควิด-19 ติดเชื้อในสถานที่ทำงาน ย้ำขอให้เข้มมาตรการป้องกัน - คัดกรองเข้มข้น

เตือนปชช. อย่าประมาทสถานที่ทำงาน แหล่งแพร่ระบาดโควิด-19 โดยเฉพาะการรับประทานอาหารเป็นกลุ่ม ทำประมาทเสี่ยงติดโควิดหลังพบเคสติดเชื้อในที่ทำงานช่วงที่ผ่านมา ขอผู้ประกอบการร้านค้า สถานที่ราชการกวดขันมาตรการคัดกรองโรค ย้ำนโยบายทำงานที่บ้าน ลดกิจกรรมพบปะ

เมื่อวันที่ 8 ม.ค. ที่กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ปฏิบัติหน้าที่รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงสถานการณ์การระบาดโควิดในสถานที่ทำงาน ว่า ตัวอย่างการระบาดที่ผ่านมา มีอีกกรณี คือ ในสถานที่ทำงาน เป็นการระบาดที่โรงงานเขตบางขุนเทียน กทม.22 ธ.ค.63-7 ม.ค.64 รวมผู้ติดเชื้อ 17 ราย โดยเริ่มต้นจากคนงานชาวเมียนมาเริ่มป่วยเมื่อวันที่ 17 ธ.ค. มีประวัติไปงานแต่งงานเพื่อนที่จ.สมุทรสาครเมื่อวันที่ 13 ธ.ค.2563 ซึ่งเป็นช่วงที่ใกล้กันการการระบาดเคสตลาดกลางกุ้ง หลังจากนั้นเมื่อกลับมาโรงงานก็ทำให้มีการติดเชื้อในเพื่อนร่วมงาน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวเมียนมาอายุเฉลี่ย 20 -กว่า 30 ปี ในจำนวนนี้ก็มีแรงงานไทยอยู่บ้าง โดยโรงงานแห่งนี้ได้ถูกสอบสวนควบคุมโรคและปิดตั้งแต่วันที่ 28 ธ.ค.

“การระบาดครั้งนี้น่าสนใจตรงที่มีการเดินทางไปงานแต่งงานในพื้นที่เสี่ยง และนำเชื้อกลับมาที่ทำงาน ดังนั้น ที่ทำงานทุกแห่งต้องมีการเฝ้าระวัง และสังเกตอาการคนทำงาน หลายแห่งมีมาตรการคัดกรองไข้ มีการแยกคนป่วย ก็ลดความเสี่ยง ซึ่งพนักงานทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามัย ลดกิจกรรมที่เสี่ยงติดเชื้อ ลดการรับประทานอาหารเป็นกลุ่ม เพราะตอนรับประทานอาหารไม่สวมหน้ากากก็เสี่ยงได้” นพ.โสภณ กล่าว

“มีอีกกรณีที่เชื่อมโยงกับตลาดสมุทรสาคร ที่มีคนติดเชื้อและนำไปแพร่เชื้อให้คนที่ทำงานธนาคารในกทม. จากนั้นเมื่อไปสำนักงานก็มีการแพร่เชื้อต่อไปยังพนักงานผู้หญิงอายุ 24 ปี และมีการไปสังสรรค์ในช่วงวันที่ 25 ธ.ค. ต่อมาก็มีการติดเชื้อเพิ่มขึ้น ซึ่งกิจกรรมปาร์ตี้จึงต้องระมัดระวัง เพราะเป็นกิจกรรมที่มีความเสี่ยง ความปลอดภัยในสถานที่ทำงานจึงเป็นที่สำคัญมากในระยะนี้ ไม่ว่าสถานที่ใดก็ตาม เพราะเราเริ่มพบการติดเชื้อในสถานประกอบการ บริษัทห้างร้าน หรือสถานที่ทำงานที่มีพนักงานหลายคน หากมีคนใดคนหนึ่งติดเชื้อ แล้วไม่มีการป้องกันก็จะมีการแพร่เชื้อได้ จึงแนะนำว่าทุกสถานประกอบการ รวมทั้งสถานที่ราชการต้องเข้มเรื่องการตรวจคัดกรองอาการ สังเกตการณ์เจ็บป่วยของพนักงาน หากพบใครเจ็บป่วยต้องรีบแยกออกจากคนไม่ป่วย ส่วนมาตรการที่ทำอยู่ ทั้งสวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่างยังต้องทำ หลีกเลี่ยงการคลุกคลีการรับประทานอาหารร่วมกัน และขอให้เร่งรัดนโยบายการทำงานที่บ้าน หรือ Work From Home” นพ.โสภณ กล่าว

นพ.โสภณ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ กรณีผู้ป่วยโควิดเกี่ยวข้องกับสถานบันเทิงย่านปิ่นเกล้า ขณะนี้มีติดเชื้อ 121 ราย มีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้ 1 ราย ซึ่งเป็นชายอายุ 44 ปี เสียชีวิตเมื่อวันที่ 31 ธ.ค.2563ที่ผ่านมา กรณีนี้มีการนำเชื้อไปติดกับสมาชิกในครอบครัว ส่วนการระบาดโควิดที่เกี่ยวข้องสนามชนไก่ จ.อ่างทอง ล่าสุดมีผู้ติดเชื้อ 101 ราย มีจังหวัดเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้ 8 จังหวัด คือ อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา สิงห์บุรี ลพบุรี สระบุรี นนทบุรี สุพรรณบุรี และขอนแก่น