กรมควบคุมโรคเผย “5 อำเภอระยอง” เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด “ อ.เมือง-แกลง -บ้านฉาง-นิคมพัฒนา -บ้านค่าย” ส่วนจังหวัดพบเชื้อจากระยอง มี “เชียงใหม่- ลำปาง- อำนาจเจริญ -อยุธยา- นนทบุรี -ชลบุรี- จันทบุรี-ตราด”
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 30 ธ.ค.2563 ที่กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค(คร.) แถลงสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ว่า สถานการณ์วันที่ 30 ธ.ค. 2563 มีผู้ป่วยรายใหม่ 250 ราย ติดเชื้อในประเทศ 241 ราย ถือว่าวันนี้ผู้ป่วยเพิ่มขึ้นมาก ซึ่งจะมีการออกมาตรการให้เข้มข้นขึ้นในแต่ละพื้นที่ โดยเฉพาะจ. สมุทรสาคร และ จ.ระยอง และช่วงนี้เป็นช่วงปีใหม่ ขอให้งดกิจกรรม งดการเดินทางนอกจังหวัด งดการรวมกลุ่มกัน ส่วนรายละเอียดทางผู้ว่าราชการจังหวัด หรือผู้ว่าฯกทม.จะลงรายละเอียด ทั้งนี้ มีการกระจายเชื้อล่าสุดตอนนี้ไป 48 จังหวัดแล้ว แต่ที่กระจุกตัวมากๆยังเป็นสมุทรสาคร ระยอง กทม. ชลบุรี และจังหวัดใกล้เคียง
นพ.โอภาส กล่าวอีกว่า ส่วนพื้นที่อื่นๆ เป็นพื้นที่ที่มีคนเดินทงจากตลาดกลางกุ้งบ้าง จากบ่อนพนันระยองบ้าง แต่ส่วนใหญ่พื้นที่จังหวัดนั้นยังสอบสวนและควบคุมโรคได้ ดังนั้น พื้นที่ต้องให้ความสนใจยังคงต้องเป็นกทม. สมุทรสาคร ระยอง และปริมณฑล จะต้องมีมาตรการดำเนินการเข้มข้น
ด้าน นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป และปฏิบัติหน้าที่รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงสถานการณ์การติดเชื้อพื้นที่จ.ระยองและจ.ชลบุรี ว่า มีข้อมูลกรณีพบการติดเชื้อจากการกลับมาจากพื้นที่มีการระบาด โดยรายแรก คือหญิงอายุ 57 ปี มีไข้ จมูกไม่ได้กลิ่น เจ็บคอ ตรวจพบเชื้อวันที่ 23 ธ.ค. และเมื่อสอบสวนโรคเพิ่มเติม ก็พบว่า มีการติดเชื้อในครอบครัว ทั้ง ย่า ปู่ หลาน แม่ พ่อ ฯลฯ โดยเป็นการตรวจพบเชื้อระหว่างวันที่ 25 -27 ธ.ค. ซึ่งถือว่าเป็นการติดเชื้อมากผิดปกติ ด้วยข้อมูลนี้จึงทำให้ส่งสัญญาณเตือนไปยังพื้นที่ต่างๆ และมีข้อมูลเข้ามาว่า พบการติดเชื้อในพื้นที่ต่างๆ เช่น เชียงใหม่ 1 ราย ลำปาง 1 ราย ซึ่งมีประวัติเดินทางมาจากระยอง
“ล่าสุดวันนี้มีเพิ่มอีกจังหวัด คือ อำนาจเจริญ พระนครศรีอยุธยา นนทบุรี ชลบุรี จันทบุรี และตราด ซึ่งเป็นกรณีที่เกี่ยวข้องรวมแล้ว 9 จังหวัด ดังนั้น คนที่มีประวัติเดินทางไป 5 อำเภอในจังหวัดระยอง ซึ่งถือเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด มี อ.เมือง อ.แกลง อ.บ้านฉาง อ.นิคมพัฒนา อ.บ้านค่าย หากอยู่ในพื้นที่เหล่านี้ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.63 หากมีอาการ ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรส ให้แจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุข แต่หากเฝ้าสังเกตอาการพ้น 14 วันไม่มีอาการใดๆ ถือว่าปลอดภัย” นพ.โสภณ กล่าว
นพ.โสภณ กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีผู้ป่วยในกทม.โดยเฉพาะในสถานบันเทิง ร้านอาหารนั้น จากข้อมูลครั้งแรกพบ 22 ราย และพบคนเดินทางมาที่จ.นนทบุรี เดินทางมาร้านอาหารแถวถนนปิ่นเกล้า ซึ่งรายแรกตรวจพบวันที่ 17 ธ.ค. จากนั้นก็พบเชื้อในร้านอาหารเกี่ยวข้อง 3 แห่ง ซึ่งทางผู้ว่าฯกทม.ได้ประกาศแจ้งเตือนไปแล้วนั้น ทั้งนี้ ข้อมูลล่าสุดพบผู้ติดเชื้อเป็น 33 ราย จากเดิม 22 ราย โดยกลุ่มนี้มีอาการน้อย และไม่มีอาการ โดยไม่มีอาการ 11 ราย ตรวจพบเชื้อเพราะมีการสอบสวนโรครวดเร็ว ซึ่งหากใครมีประวัติเสี่ยงไปเที่ยวสถานบันเทิงแถวปิ่นเกล้า ให้สังเกตอาการเฝ้าระวังตัวเอง 14 วัน ระหว่างนี้หากมีอาการป่วยให้ปรึกษาแพทย์ และแจ้งประวัติเสี่ยง
“ทั้ง 2-3 เหตุการณ์แสดงให้เห็นว่า ความเสี่ยงได้เพิ่มขึ้นในสถานที่ปิด และคนที่ไปใช้บริการก็ไม่สวมหน้ากากอนามัย จึงมีโอกาสติดเชื้อได้ หากมีผู้ติดเชื้อเข้าไปในสถานที่ดังกล่าว จึงขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการเข้าไปในสถานที่เหล่านี้” นพ.โสภณ กล่าว
นพ.โอภาส กล่าวว่า สำหรับเหตุการณ์ระยอง และกทม. ซึ่งเกี่ยวเนื่องกับสถานบันเทิง ยิ่งช่วงปีใหม่ก็จะมีกิจกรรมฉลองกันมากขึ้น ดังนั้น ที่ประชุม ศปค.สธ. จึงมีมติให้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ทำแผนความพร้อมรับมือให้เหมาะสมกับสถานการณ์จังหวัดของตนเอง ตามพื้นที่ 4 ระดับ คือ 1.พื้นที่ควบคุมสูงสุด 2.พื้นที่ควบคุม 3. พื้นที่เฝ้าระวังสูงสุด และ4. พื้นที่เฝ้าระวัง ส่วนการจัดกิจกรรมปีใหม่ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดให้งดจัด ส่วนพื้นที่เฝ้าระวังขอให้ลดการจัด ยกเว้นในครอบครัว หากจะจัดต้องได้รับอนุญาต นอกจากนี้ หากจะจัดขอให้จัดแบบออนไลน์ เช่น สวดมนต์ข้ามปี
ส่วนแรงงานต่างด้าวให้อยู่ภายในพื้นที่จังหวัด อยู่ในที่พักตนเอง ไม่เดินทางข้ามจังหวัด งดการไปมาหาสู่เพื่อนต่างด้าวของตนเอง และให้นายจ้างช่วยตรวจสอบดูแลลูกจ้างไม่ให้ออกนอกโรงงานหรือที่พัก รวมทั้งให้อสม.เคาะประตูบ้านให้ความรู้ประชาชน และตรวจสอบว่ามีแรงงานต่างด้าวเข้ามาหรือไม่ หากพบเห็นให้แจ้งต่อเจ้าหน้าที่ ขณะที่ประชาชนขอให้หลีกเลี่ยงสถานที่เสี่ยง เช่น ตลาดกลางกุ้ง สถานที่ลักลอบเล่นการพนัน สถานบันเทิง ถือเป็นจุดเสี่ยง ยิ่งสถานที่ผิดกฎหมายเมื่อไปสอบสวนโรคก็มักไม่บอกความจริง ยิ่งช่วงโควิดมีการเปิดบ่อนถือว่าอันตรายต่อประเทศมาก พวกเราประชาชนต้องช่วยกันเป็นหูเป็นตา หากพบเห็นให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ
- 54 views