โควิดสมุทรสาคร กระจายหลายพื้นที่แต่ละส่วนของประเทศไทย ถึงจุดไหนจะตัดวงจรการระบาด และขณะนี้ไทยอยู่ที่ฉากทัศน์หรือรูปแบบการควบคุมป้องกันโรคระดับใด ติดตามข้อมูลได้ผ่าน “นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร” ผอ.กองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค
“แผนการควบคุมโรคโควิดจะพยายามสกัดจุดใหญ่ไว้ที่จ.สมุทรสาคร ส่วนคนที่เป็นคู่ค้าตลาดกลางกุ้งในพื้นที่จังหวัดอื่นๆ ต้องตรวจจับและควบคุมให้เร็ว หากผู้ป่วยไม่เพิ่มรอบนอกพื้นที่ และสกัดได้ทันรวดเร็ว คาดว่าจะสกัดวงจรนี้ประมาณ 4 สัปดาห์...แต่ก็ต้องติดตามสถานการณ์รายวันต่อเนื่อง ซึ่งบุคลากร ผู้เกี่ยวข้องทำงานอย่างต่อเนื่องตลอดเวลา...” นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) เคยให้สัมภาษณ์ไว้เมื่อวันที่ 20 ธ.ค. 2563 ที่ผ่านมา ตั้งแต่ช่วงที่มีการระบาดโควิดสมุทรสาครช่วงแรกๆ
แต่ดูเหมือนสถานการณ์อาจไม่เป็นอย่างที่คิด... เนื่องจากสถานการณ์โควิดสมุทรสาคร ซึ่งถือเป็นไข่แดง หรือศูนย์กลางจุดระบาด ไม่ได้หยุดแค่พื้นที่สมุทรสาคร หรือจังหวัดรอบนอกใกล้เคียง แต่ยังมีจังหวัดอื่นๆ ที่คนไทย ซึ่งเป็นคู่ค้าตลาดกลางกุ้ง หรือมีประวัติเดินทางไปยังพื้นที่เสี่ยงในสมุทรสาคร หรือสัมผัสใกล้ชิดแรงงานต่างด้าวในพื้นที่เสี่ยง ได้เดินทางออกนอกพื้นที่ไปยังจังหวัดของตนเอง และมาพบเชื้อภายหลัง ข้อมูลล่าสุด(23 ธ.ค.) พบ 23 จังหวัด และป่วยโควิด 65 คนกระจายไปหลายพื้นที่ในแต่ละส่วนของประเทศ
(ข่าวเกี่ยวข้อง : 4 พื้นที่เสี่ยงโควิดสมุทรสาคร ใครเข้าข่ายสัมผัส-มีอาการขอให้เข้าตรวจเชื้อโควิดฟรี!)
ประเด็น คือ ต้องจับตาว่าคนติดเชื้อในประเทศจะมีการแพร่เชื้อไปสู่อีกรุ่นหรือไม่ ซึ่งกรณีนี้ นพ.วิชาญ ปาวัน ผู้อำนวยการสถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง กรมควบคุมโรค(คร.) ได้ให้ข้อมูลสำคัญในการนำมาใช้วิเคราะห์ข้อมูลการระบาดว่าจะเป็นไปอีกนานแค่ไหน ว่า หากในจำนวนนี้ ไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่มเติมก็จะชัดว่าตีวงการระบาดอยู่ที่จังหวัดสมุทรสาคร ดังนั้น ระยะเวลาที่จะใช้ในการควบคุมโรคก็จะเหมือนกับที่ปลัด สธ. ได้ให้ข้อมูลไว้ว่าจะใช้เวลาประมาณ 2-4 สัปดาห์ แต่หากในกลุ่มที่เราค้นหาเชิงรุกพบผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้น ระยะเวลาที่จะใช้ในการควบคุมโรคก็จะขยายออกไปมากกว่า 4 สัปดาห์
ดังนั้น สถานการณ์ ณ ตอนนี้ คือ ต้องจับตารายวัน รายชั่วโมง ว่า จะมีการติดเชื้อระดับใด ส่วนคำถามว่าการระบาด ณ ขณะนี้ เรียกว่าระบาดรอบใหม่ อยู่ในเฟสใดนั้น
นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค(คร.) ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการระบาดรอบใหม่ครั้งนี้ ว่า การระบาดครั้งนี้เราจะไม่นับเป็นเฟส 1 เฟส 2 หรือเฟส 3 เหมือนเดิม เนื่องจากขณะนี้ล่วงเลยช่วงเวลาการระบาดเฟสที่ 1 และ 2 มาแล้ว การจะมานับแบบเดิมไม่ได้ ไม่สอดคล้องกับเหตุการณ์ปัจจุบัน หากจะใช้ต้องใช้ตอนที่ยังเกิดการระบาดใหม่ๆครั้งแรก คือ ช่วงเดือน ม.ค.2563 ที่ผ่านมา ส่วนขณะนี้ทั่วโลกอยู่ในการระบาดเฟส 3 หมดแล้วเพียงแต่บางประเทศอาจระบาดหลายรอบ แต่ของไทยยังไม่มากเท่าหลายประเทศ เรียกว่าเป็นการระบาดครั้งใหม่ แต่อยู่ที่ว่าจะเป็นการระบาดครั้งใหม่ขนาดไหน เล็ก หรือกลาง ซึ่งขณะนี้ติดตามกันอย่างต่อเนื่อง
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามว่าหากจะเปรียบเทียบว่า ขณะนี้เราอยู่ในระยะการควบคุมป้องกันโรคระดับใด หากเปรียบเทียบเป็น 3 ฉากทัศน์หรือรูปแบบการควบคุมโรค นพ.โสภณ ให้ข้อมูลว่า ณ ขณะนี้(23 ธ.ค.) ยังถือว่าอยู่ในฉากทัศน์ที่ 2 ไปทาง 3 แต่ต้องรอดูสถานการณ์ตลอดสัปดาห์นี้อีกครั้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานข้อมูลว่า สำหรับฉากทัศน์การป้องกันโรค ทางกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้มีการกำหนดไว้ 3 ฉากทัศน์ ประกอบด้วย
ฉากทัศน์ที่ 1 : สถานการณ์ที่ป้องกันโรคได้ดี (Spike) มีผู้ติดเชื้อประมาณ 1 รายหรือ 2 รายและเข้าไปควบคุมไม่ให้เกิดการแพร่กระจายได้ โดยสิ่งที่ต้องปฏิบัติ คือ ประชาชนทุกคนสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ เว้นระยะห่าง คนวัยหนุ่มสาวตระหนักเรื่องการป้องกันโรค การเฝ้าระวังอาการป่วยต่างๆ คือมีไข้ ไอ เจ็บคอ น้ำมูก ไม่ได้กลิ่น ไม่รับรส รีบไปตรวจรักษา
ฉากทัศน์ที่ 2 : สถานการณ์ที่ควบคุมโรคได้เร็ว (Spike with Small Wave) หลังจากมีเคสที่ 1 ขึ้นมาอาจจะมีการระบาดในกลุ่มเล็กๆ อาจจะมีลูกใหญ่บ้าง เล็กบ้างแต่สามารถควบคุมได้ภายในระยะเวลาอันสั้นไม่ให้เกิน 3 สัปดาห์ หรืออย่างมาก 4 สัปดาห์ สถานการณ์ประชาชนบางส่วนขาดความตระหนัก ไม่ปฏิบัติตามมาตรการสวมหน้ากากเว้นระยะ ล้างมือ ผู้ประกอบการละเลยมาตรการป้องกันโรคที่กำหนด แต่มีการติดตามตรวจวินิจฉัยผู้ป่วยและควบคุมโรครวดเร็ว (กรณีจ.สมุทรสาคร พบว่าการติดเชื้อมาจากไม่ปฏิบัติการมาตรการป้องกันโรค โดยเฉพาะการสวมหน้ากากอนามัย เห็นได้จากการสอบสวนโรคที่พบว่าคนไทยที่ติดเชื้อในตลาดกลางกุ้งไม่ยอมสวมหน้ากากอนามัย ขณะที่แรงงานต่างด้าวพบการติดเชื้อจำนวนมาก เนื่องจากอยู่รวมกันอย่างแออัด และพูดคุยกันไม่สวมหน้ากากอนามัยเช่นกัน)
ฉากทัศน์ที่ 3 : สถานการณ์ที่ควบคุมโรคได้ช้า (Spike with Big wave) เมื่อมีรายแรกเกิดขึ้นก็เกิดการแพร่ระบาด หรือติดเชื้อในคนไทยไปในวงกว้าง100 - 200 คน ประกอบกับสถานการณ์จะต้องสอดรับกับกรณีประชาชนส่วนใหญ่ไม่ให้ความร่วมมือ ไม่สวมหน้ากาก ไม่ล้างมือ ไม่เว้นระยะห่าง ผู้ประกอบการไม่จัดให้มีมาตรการป้องกันโรค ไม่ได้รับความร่วมมือในการติดตามผู้สัมผัสโรค หรือไม่ให้ข้อมูลที่แท้จริง
ดังนั้น การระบาดรอบใหม่ครั้งนี้จะอยู่ในฉากทัศน์ใดคงต้องรอประเมินอีกครั้งภายในสัปดาห์นี้ ส่วนคำถามว่า ที่ผ่านมามีมาตรการในการสุ่มตรวจเชื้อกลุ่มแรงงานต่างด้าวต่อเนื่องหรือไม่ เนื่องจากมีคนสงสัยว่า เพราะอะไรจึงเกิดปะทุครั้งนี้ นพ.โสภณ ตอบว่า เราสุ่มตรวจเป็นระยะ ตั้งแต่เดือนก.ค. ตรวจหลายหมื่นราย แต่ประชากรกลุ่มนี้มีการเดินทาง และสอดคล้องกับเหตุกรณ์แม่สาย จ.เชียงราย ช่วงปลายเดือนพ.ย. ถึงต้นเดือน ธ.ค. ดังนั้น การมีประชากรจำนวนมากแล้วจะสุ่มตรวจคนแรกค่อนข้างยาก แต่เหตุการณ์สมุทรสาครครั้งนี้ ถือว่าค่อนข้างเร็ว เพราะคนไทยที่เริ่มป่วยคนนี้ไปรักษาพยาบาลวันที่ 16 ธ.ค. และตรวจยืนยันเชื้อ 17 ธ.ค. เมื่อย้อนดูมีคนป่วยก่อนคนนี้แค่ 4-5 วัน จึงไม่ได้เป็นการพบช้า แต่ที่มีการติดจำนวนมาก เพราะความเป็นอยู่สภาพที่แออัดทำให้เกิดการแพร่เชื้อไปแล้วระยะหนึ่ง
“กลุ่มแรงงานต่างด้าวครั้งนี้ มีจำนวนมาก การตรวจพบจากคนหนึ่งที่มีอาการ หรือเริ่มมีอาการน้อยๆ จนนำไปสู่การเจอผู้ติดเชื้อตามที่ปรากฏ ถือว่าการระบาดครั้งนี้ เป็นการตรวจพบได้เร็วแล้ว เหมือนตรวจพบสะเก็ดไฟ เพื่อไปดับไฟแทนที่จะรอไฟกองโต อย่างไรก็ตาม สิ่งที่อยากฝาก คือ ผู้ประกอบการที่มีแรงงานต่างด้าวมีความเสี่ยงรับโควิด-19 เหมือนกันทั้งหมด ไม่ว่าจะมีแรงงานต่างด้าวถูกกฎหมายหรือผิดกฎหมาย ดังนั้น ผู้ประกอบการควรรู้ที่มาที่ไปของแรงงาน หากเป็นแรงงานที่อยู่กับเราอยู่แล้วความเสี่ยงเขาก็จะเท่ากับเรา เราก็แค่ป้องกันอย่าให้เขาไปสัมผัสกับแรงงานกลุ่มอื่น ถ้าแรงงานเข้ามาใหม่ต้องแยกให้เขาอยู่พักต่างหากเป็นเวลา 14 วัน เพื่อความปลอดภัย หากมีเชื้อมาด้วยก็จะได้รอพ้นระยะเวลาการแพร่เชื้อ และค่อยมารวมกลุ่มกับแรงงานอื่นๆที่เข้ามาก่อนแล้ว” นพ.โสภณ กล่าว
พร้อมย้ำว่า ส่วนประชาชนคนไทยที่ต้องการตรวจเชื้อโควิดนั้น หากเป็นประชากรกลุ่มเสี่ยงที่ต้องได้รับการตรวจเชื้อโควิดฟรีนั้น ก่อนอื่นต้องพิจารณาว่า มีความเสี่ยงระดับใด อย่างเสี่ยงสูง ต้องมีการซื้อขายที่ตลาดกลางกุ้ง มีความใกล้ชิดกับแรงงานต่างด้าว ที่พักหรือใกล้เคียง หากมีความเสี่ยงดังกล่าวก่อนอื่นต้องสวมหน้ากากป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ ล้างมือบ่อยๆ และเมื่อไปถึงโรงพยาบาล ทางบุคลากรก็จะเช็กประวัติเพิ่มเติม และจะมีการตรวจเชื้อด้วยการสว็อป จะทราบผลภายใน 24 ชั่วโมง หากไม่มีห้องปฏิบัติการก็จะส่งตรวจ
สรุปคือ สถานการณ์ ณ ขณะนี้ คือการระบาดรอบใหม่ แต่จะควบคุมหรือตัดวงจรการระบาดโดยใช้ระยะเวลาเท่าไหร่นั้น ขอให้ติดตามสถานการณ์วันต่อวัน ขณะที่เกณฑ์การพิจารณาการล็อกดาวน์ในแต่ละพื้นที่ก็จะมีการเสนอในที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่ ที่นายกรัฐมนตรีเป็นผู้อำนวยการ ศบค. ซึ่งจะประชุมวันที่ 24 ธ.ค.2563
ระหว่างติดตามข้อมูลข่าวสาร สิ่งสำคัญการ์ดอย่าตก สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือหรือใช้เจลแอลกอฮอล์บ่อยๆ และเว้นระยะห่าง หากมีอาการเสี่ยง ทั้งมีไข้ ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก ลิ้นไม่รับรส จมูกไม่ได้กลิ่น และมีประวัติเสี่ยงไปยังจุดเสี่ยงในตลาดกลางกุ้ง จ.สมุทรสาคร หรือสัมผัสใกล้ชิดกับแรงงานข้ามชาติในพื้นที่เสี่ยงขอให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุข หรือสถานพยาบาลใกล้บ้านเพื่อขอตรวจหาเชื้อโควิด-19 ทันที หรือโทร 1422 สายด่วนกรมควบคุมโรค
- 26 views