ภญ.สุภัทรา บุญเสริม รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวถึงกรณีที่เพจหมอแล็บแพนด้า โพสต์ข้อมูลหลังพบว่ามีผู้นำยาทาเล็บไปทาเคลือบฟันเพื่อให้ฟันขาววิ้ง อาจได้รับอันตรายจากสารในยาทาเล็บ ในขณะที่สารไดบิวทิลทาเลต (Dibutyl Phthalate) ปัจจุบันเป็นวัตถุที่ห้ามใช้ในเครื่องสำอางแล้

ทาง อย. ขอเตือนด้วยความห่วงใยว่า ยาทาเล็บเป็นเครื่องสำอางสำหรับใช้ภายนอก  เพื่อตกแต่งเล็บให้มีความสวยงามเท่านั้น ในยาทาเล็บประกอบด้วยสารที่ทำให้เกิดฟิล์ม สารที่ทำให้เกิดความยืดหยุ่น ตัวทำละลาย สี และสารต้านการเกิดฟอง ซึ่งเป็นสารเคมีที่รับประทานไม่ได้ ดังนั้นการนำยาทาเล็บไปทาเคลือบฟัน อาจทำให้สารเคมีที่อยู่ในยาทาเล็บละลายออกมาและเกิดอันตรายต่อผู้ใช้ เช่น สารฟอร์มัลดีไฮด์หรือฟอร์มาลีน เป็นสารช่วยเพิ่มความแข็งของเล็บ หากรับประทานในปริมาณมากอาจเกิดอาการปวดศีรษะอย่างรุนแรง แน่นหน้าอก เกิดแผลในกระเพาะอาหาร เช่นดียวกับสารโทลูอีน ที่เป็นตัวทำละลาย หากรับประทานเข้าไปจะทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง ส่วนสารไดบิวทิลทาเลต เป็นสารที่เคยอนุญาตให้ใช้ในยาทาเล็บ เพื่อให้ทาได้ง่าย มีความยืดหยุ่น แต่ปัจจุบันจัดเป็นวัตถุที่ห้ามใช้ในเครื่องสำอางแล้ว เพราะเป็นสารก่อมะเร็ง ทำให้ระบบสืบพันธุ์และทารกในครรภ์ผิดปกติ” ภญ.สุภัทรา กล่าว

รองเลขาธิการ อย. แนะนำว่า ก่อนซื้อยาทาเล็บควรอ่านฉลากด้านข้างขวด เพื่ออย่างน้อยจะได้ตรวจสอบเลขที่รับจดแจ้ง สถานที่ผลิต เดือนปีที่ผลิต และไม่ควรนำผลิตภัณฑ์ทาเล็บไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ เช่น กรณีนำมาทาเคลือบฟันตามที่ปรากฏในข่าว เนื่องจากสารเคมีที่ผสมอยู่เป็นสารที่อนุญาตให้ใช้กับเล็บเท่านั้น การนำไปทาที่ผิวฟันซึ่งอยู่ภายในช่องปาก อาจสัมผัสกับเยื่อบุอ่อน เสี่ยงต่อการกลืนกินและดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกายได้

 

ภาพประกอบจากเว็บไซต์ https://www.pngegg.com/th/png-zjfuo