เปิดรายละเอียดทหารเกาหลีร่วมฝึกคอบร้าโกลด์ที่ไทยติดโควิด-19 ตั้ง 3 ข้อสันนิษฐานติดเชื้อ

กรมควบคุมโรคแจงรายละเอียดหลังเกาหลีเผยทหารร่วมฝึกคอบร้าโกลด์กลับจากไทยติดโควิด-19 เผยอยู่ระหว่างสอบสวน เหตุตอนอยู่ไทยไม่พบเชื้อ สันนิษฐานได้ 3 ข้อเหตุติดไวรัสโคโรนา ขณะที่ทหารไทย 177 นายอยู่ระหว่างกักกันโรค

เมื่อวันที่ 11 พ.ย.ที่กระทรวงสาธารณสุข พญ.วลัยรัตน์ ไชยฟู ผู้อำนวยการกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข แถลงข่าวกรณีทหารมาฝึกการประชุมวางแผนขั้นสุดท้าย การฝึกผสมคอบร้าโกลด์ 21 ที่อ.บ้านฉาง จ.ระยอง กลับเกาหลี ตรวจพบโรคโควิด-19 ว่า กระทรวงสาธารณสุขได้รับแจ้งจากสถานเอกอัครราชทูตเกาหลีประจำประเทศไทยเมื่อวันที่ 9 พ.ย.ที่ผ่านมา ว่า มีนายทหารที่เข้ามาฝึกการวางแผนขั้นสุดท้าย การฝึกคอบร้าโกลด์ที่ประเทศไทยระหว่างวันที่ 3-5 พ.ย. เมื่อกลับเกาหลีได้รับการตรวจที่สนามบินอินชอนด้วยวิธี RT-PCR ก็พบว่าติดเชื้อโควิด-19 แต่ไม่ได้แจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับปริมาณเชื้อ หรืออาการอะไรต่างๆ ตอนนี้ทางการไทยอยู่ระหว่างขอข้อมูลเพื่อนำมาสอบสวนโรคเพิ่มเติม

พญ.วลัยรัตน์ กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม จากการสอบสวนเบื้องต้น การฝึกคอบร้าโกลด์วันที่ 3 -5 พ.ย. มีนายทหารไทยและต่างชาติเข้าร่วมทั้งหมด 202 นาย  แบ่งเป็น ทหารสหรัฐอเมริกา 12 นาย ทหารเกาหลี 5 นาย อินโดนีเซีย ออสเตรเลีย อย่างละ 2 นาย สิงคโปร์ ญี่ปุ่น จีน และอินเดียประเทศละ 1 นาย ที่เหลือ 177 นายเป็นทหารไทย การประชุมครั้งนี้จัดขึ้นที่โรงแรมแห่งหนึ่งในอำเภอบ้านฉาง โดยการประชุมแบ่งเป็น 5 กลุ่ม กลุ่มละ 40 คน  นอกจากการประชุมแล้วยังมีการรับประทานอาหารกลางวันและอาหารเย็นร่วมกันแบบบุฟเฟ่ต์ ส่วนที่พักจะมีการนอนด้วยกันห้องละ 2 นาย อย่างไรก็ตามนายทหารต่างชาติทุกนายที่เข้ามาผ่านระบบควบคุมป้องกันโรคของไทยทุกคน ทั้งการตรวจหาเชื้อก่อนเดินทาง เข้ามากักตัว 14 วัน มีการตรวจหาเชื้อแล้ว 2 ครั้ง ผลพบว่าทหารที่มาทุกรายไม่มีเชื้อโควิด-19 แต่อย่างใด ขณะที่เพื่อนทหารชาวเกาหลีที่นอนร่วมห้องผลตรวจเป็นลบ

“สำหรับนายทหารเกาหลีที่ติดโควิดนั้น ก่อนเข้ามาไทยตรวจไม่พบเชื้อโควิด พอเข้ามาในประเทศไทยเข้ามาตั้งแต่วันที่ 17 ต.ค. เมื่อมาถึงสนามบินมีรถของโรงแรมที่เป็นสถานที่กักตัวมารับ และเข้าพักที่โรงแรมตั้งแต่ 17 ต.ค.-1 พ.ย. มีการตรวจหาเชื้อด้วยวิธี RT-PCR 2 ครั้งคือวันที่ 22 ต.ค. และ 29 ต.ค. ผลออกมาไม่พบเชื้อ หลังกักตัวครบ14 วัน ได้เข้าพักที่โรงแรมอีกแห่งหนึ่ง ย่านสุขุมวิท และรับประทานอาหารโดยสวมหน้ากากอนามัย และเว้นระยะห่าง แล้วกลับไปพักที่โรงแรม 1 คืน วันที่ 2 พ.ย. มีรถตู้รับจ้างของสถานทูตไปรับที่โรงแรมที่อำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง ซึ่งเป็นสถานที่จัดประชุมด้วย 3-5 พ.ย. แล้วไม่ได้ออกไปไหนอีกเลย กระทั่งวันที่ 6 พ.ย.มีรถรับจ้างของสถานทูตมารับไปส่งโรงแรมที่สุขุมวิท ซึ่งอยู่ระหว่างตรวจสอบว่าใช่โรงแรมเดิมหรือไม่ หลังจากนั้นวันที่ 8 พ.ย. ได้โดยสารรถตู้ของสถานทูตเพื่อไปยังสนามบินสุวรรณภูมิเพื่อเดินทางกลับประเทศเกาหลี

โดยภาพรวมสรุปแล้วในทหารทุกนายที่เข้าร่วมในการประชุมครั้งนี้มีการปฏิบัติตามขั้นตอนการเข้าประเทศไทยมีการกักตัวมีการตรวจหาเชื้อและผลไม่พบเชื้อหลังออกจากสถานที่กับการสามารถทำกิจกรรมต่างๆ ได้ฉะนั้นเพื่อไม่ให้เกิดความตระหนกและสร้างความเข้าใจให้กับพี่น้องในจังหวัดที่เกี่ยวข้องขอให้สบายใจได้ จะไม่มีการแพร่เชื้อไปยังผู้อื่น และส่วนใหญ่ก็อยู่แต่ในที่ประชุม ตอนนี้มีทีมปฏิบัติการสอบสวนควบคุมโรคทั้งส่วนกลางและภูมิภาค ร่วมกับสำนักอนามัยของกรุงเทพฯ ได้ออกไปทำการสอบสวนทั้งโรงแรมที่พัก โรงแรมที่จัดประชุม ขณะนี้อยู่ระหว่างขอรูปแบบการจัดประชุมดังกล่าวและข้อมูลอื่นๆ มาประกอบเพื่อจำแนกกลุ่มเสี่ยงสูง เสี่ยงต่ำ อย่างไรก็ตาม การที่อยู่ห้องประชุมร่วมกันนานกว่า 15 นาที ก็ถือว่ามีความเสี่ยงสูง ในส่วนของทหารไทยที่เข้าร่วมการฝึกนั้นได้กักตัวและตรวจหาเชื้อ อยู่ระหว่างรอผล ส่วนนายทหารต่างชาติ จะประสานผ่านกฎอนามัยระหว่างประเทศเพื่อแจ้งไปยังประเทศต้นทาง

เมื่อถามว่าเนื่องจากนายทหารทุกนายผ่านเข้ามาตามระบบและไม่ได้ออกไปนอกพื้นที่ ดังนั้นเคสนี้ถือเป็นการติดเชื้อในประเทศได้หรือไม่ และอาจจะมีความเชื่อมโยงกับค่ายทหารด้วยหรือไม่ พญ.วลัยรัตน์ กล่าวว่า เรื่องนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าเป็นการติดเชื้อในเมืองไทยหรือเป็นการติดเชื้อมาก่อนหน้านี้ สันนิษฐาน 3 ข้อ 1. อาจจะติดเชื้อจากประเทศเกาหลี 2. การติดเชื้อจากสถานที่กักตัว และ 3. ติดระหว่างร่วมประชุม ขณะนี้รอข้อมูลจากทางเกาหลีเพิ่มเติม รวมถึงสอบสวนสถานที่ที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม

เมื่อถามว่าตอนนี้มีรายงานการติดเชื้อในประเทศบ่อยขึ้น จะมีการเฝ้าระวังเพิ่มเติมอย่างไรหรือไม่ พญ.วลัยรัตน์ กล่าวว่า ตอนนี้เรามีการเฝ้าระวังในกลุ่มคนที่มาโรงพยาบาล ด้วยอาการระบบทางเดินหายใจ จมูกไม่ได้กลิ่น ปอดอักเสบ รวมถึงการเฝ้าระวังในกลุ่มแรงงานต่างด้าวบางกลุ่ม ตามแนวชายแดน เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ต้องขอย้ำกับประชาชนว่า เนื่องจากจะมีคนที่ไม่แสดงอาการ อาจจะแพร่เชื้อได้ ขอให้ประชาสวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้าทุกครั้งที่ออกจากบ้าน เว้นระยะห่าง ล้างมือบ่อย เพื่อป้องกันการติดเชื้อ