นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดสธ.ประกาศนโยบายเร่งด่วน “เตรียมรับระบาดโควิดระลอกใหม่ - 30บาทรักษาทุกที่ - สร้างขวัญกำลังใจบุคลากรสธ.” พร้อมรับฟังทุกวิชาชีพ ย้ำบรรจุขรก.มีตำแหน่ง 3 พันตำแหน่งสำหรับกลุ่มตกหล่น
เมื่อเวลา 07.09 น. วันที่ 1 ต.ค.2563 ที่กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) เข้ารับตำแหน่งเป็นวันแรก โดยได้เข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงสาธารณสุข ทำบุญตักบาตร พร้อมพบปะผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงสาธารณสุข
ต่อมาเวลา 10.00 น. นพ.เกียรติภูมิ พร้อมว่าที่ รองปลัด สธ. 4 ท่าน ได้แก่ นพ.ณรงค์ สายวงศ์ นพ.ยงยศ ธรรมวุฒิ นพ.สุระ วิเศษศักดิ์ และนพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร ร่วมแถลงการขับเคลื่อนงานสาธารณสุข โดย นพ.เกียรติภูมิ กล่าวว่า วันนี้เป็นวันแรกที่เข้ารับตำแหน่งปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ซึ่งตนมีนโยบายดำเนินการ 9 ข้อ แต่มีเรื่องเร่งด่วนประมาณ 4-5 ข้อ ซึ่งรายละเอียดจะมีการแถลงผ่านวิดีโอคอนเฟอร์เร็นซ์ในวันที่ 5 ต.ค.2563 เพื่อให้บุคลากรกระทรวงสาธารณสุขทั่วประเทศรับทราบ
นพ.เกียรติภูมิ กล่าวว่า สำหรับเรื่องเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการ คือ 1.การเตรียมรับการระบาดโควิด-19 ระลอกถัดไป โดยให้จัดตั้งทีมงานขึ้นมาเพื่อให้สาธารณชนได้เห็นภาพของการระบาด หากมีการเปิดประเทศมากขึ้น ซึ่งจะจัดทำเป็นแบบจำลองการระบาด ที่เรียกว่า ฉากทัศน์การระบาดโควิดในระลอกถัดไป โดยได้มอบหมายให้ทาง นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ว่าที่อธิบดีกรมควบคุมโรคไปดำเนินการ และจะแถลงในวันที่ 5 ต.ค. นี้ อย่างไรก็ตาม ขอย้ำว่าการจะปิดบ้านปิดเมืองไม่น่าจะมี เพราะเรามีมาตรการเข้มงวด ไม่ได้ย่อหย่อน ซึ่งก็ป้องกันได้ การระบาดวงกว้างที่ควบคุมไม่ได้คงไม่เกิดขึ้น
“รวมทั้งวัคซีนป้องกันเตรียมไว้ 50% ของประชากรในช่วงปีแรกของการมีวัคซีน เพื่อลดความเสี่ยง โดยจะมี 3 แหล่งที่ทำเรื่องวัคซีน ซึ่งรายละเอียดจะเป็น นพ.นคร เปรมศรี ผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ เป็นผู้ดูแล อย่างไรก็ตาม อยากให้นโยบายแก่ชาวสาธารณสุขให้สวมหน้ากากอนามัย 100% ทั้ง 4 แสนคน หากทำได้จะดีมากเพื่อเป็นแบบอย่าง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการแพร่เชื้อ” นพ.เกียรติภูมิ กล่าว
ปลัด สธ. กล่าวว่า 2.เศรษฐกิจสุขภาพ ทั้งการพัฒนาผลิตภัณฑ์สมุนไพร สปา การขับเคลื่อนยากัญชา กัญชง เพิ่มมูลค่ามากขึ้น โดยรัฐมนตรีฯ ต้องการให้ สธ.สร้างรายได้เข้าประเทศได้ โดยเราจะใช้แนวคิดกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ทั้งโปรดักส์และการบริการ เพื่อกระตุ้นและขับเคลื่อนแนวทางนี้ต่อไป 3.การพัฒนาบริการ รวมทั้งการพัฒนาไพรมารีแคร์ การส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรค คุณภาพการบริการ การพัฒนาระบบเชื่อมต่อให้เข้มแข็งมากขึ้น อย่างโรงพยาบาลชุมชนขนาดเล็ก ขนาดกลาง ยังมีปัญหาโครงสร้างก็จะปรับปรุงระบบ เพื่อให้ข้อต่อเดินดีขึ้น สิ่งสำคัญอยากให้พวกเรามีความรัก ความสามัคคี และทำงานร่วมกันเพื่อสร้างกระทรวงสาธารณสุขให้มั่นคง
“นอกจากนี้ จะส่งเสริมการกระจายอำนาจ โดยนโยบายของท่านรัฐมนตรีฯ คือ การลดอำนาจรัฐ เพิ่มอำนาจประชาชน โดยจะทำเป็นแซนด์บ็อกซ์ นโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ โดยจะเริ่มจากเขตสุขภาพ 1-3 เขต เบื้องต้นจะเป็นพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยจะลดอำนาจของกระทรวงสาธารณสุข และสปสช. เพิ่มอำนาจประชาชน และจะมีคณะกรรมการระดับเขต มีประชาชนเป็นส่วนร่วม ซึ่งจะมีการออกแบบร่วมกันกับ ก.พ. และกพร.ทำให้สถานบริการ และผู้ให้บริการหน้างานทั้งหมดมีความยืดหยุ่นในการจัดการระบบ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุด เพราะบางที่ก็มีหมอน้อย บางที่ก็มีหมอมาก การใช้บริการน้อย บางทีไม่ได้สัดส่วน แต่หากจัดการในเขตได้ก็จะเกิดผลดี ในแง่การบริหารบุคคล และการบริหารทรัพยากรด้วย เช่น ห้องผ่าตัด รวมทั้งจะย้ำการมีสุขภาพดี โดยจะขับเคลื่อนให้เป็นปีแห่งสุขภาพดี โดยจะทำเป็นเขตสุขภาพออกแบบเป็นพิเศษ ซึ่งจะสอดคล้องกับการปฏิรูป ที่มี ส.ว. กับก.พ. และกพร. ตั้งเป้าทำ 2 ปี หากได้ผลดีจะขยายต่อไป แต่หากไม่ดีก็จะได้เรียนรู้และปรับปรุงต่อไป” ปลัดสธ. กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีนโยบายสร้างขวัญและกำลังใจ นพ.เกียรติภูมิ กล่าวว่า พยายามทำทุกอย่างเพื่อให้เกิดประโยชน์กับคนสาธารณสุข ทั้งสวัสดิการ ค่าตอบแทนอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน(อสม.) การบรรจุข้าราชการรุ่นโควิด ซึ่งแม้ได้มากว่า 4.5 หมื่นตำแหน่ง แต่ก็ไม่พอดี ก็จะใช้ตำแหน่งที่มีอยู่มาดูแลให้มากที่สุด ล่าสุดยังมีตำแหน่งอื่นๆเหลืออยู่ 3,000 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นตำแหน่งเกษียณด้วย โดยจะเอาตำแหน่งนี้มาให้สำหรับคนตกหล่นเพื่อให้ครอบคลุมที่สุด โดยทุกวิชาชีพสามารถเข้ามาพูดคุยกับตนได้ ทั้งเรื่องแนวทางการพัฒนา การดูแลต่างๆ ตนยินดีรับฟัง ซึ่งเรื่องนี้สมัยตนเป็นรองปลัดสธ.ก็ดูด้านนี้ อย่างไรก็ตาม ขอย้ำว่า หากเราเน้นความรัก ความสามัคคี การมีขวัญกำลังใจ ความก้าวหน้าต่างๆ ก็พยายามจัดหาให้ แต่ต้องเป็นไปตามข้อเท็จจริง ซึ่งต้องดูตามเนื้องานด้วย
“จริงๆ อยากให้ผู้ที่ทำงานกระทรวงสาธารณสุข มีความสุขกับการทำงานที่เกิดประโยชน์กับผู้อื่น ซึ่งเป็นพระราชดำรัสของในหลวงรัชกาลที่ 9 คนสาธารณสุขนอกจากทำงานแล้ว ยังได้บุญด้วย อย่างไรก็ตาม หลายเรื่องก็จะศึกษาและพยายามแก้ไขให้ดีที่สุด” ปลัดสธ.กล่าว
- 132 views