"อนุทิน" คุย "หมอชาญชัย" พร้อมให้ความเป็นธรรม ย้ำยังไม่มีใครผิดปมเงินบริจาค รพ.ขอนแก่น(คลิป)

“อนุทิน ชาญวีรกูล” คุย “หมอชาญชัย” ปม รพ.ขอนแก่นแล้ว ย้ำยังไม่มีใครผิด ทุกอย่างอยู่ระหว่างสอบสวน ส่วนกรณีคำถามย้าย“หมอเกรียงศักดิ์” เหมือนคูกรณีรมว.ไม่สามารถก้าวล่วง เหตุไร้อำนาจ ด้าน "หมอชาญชัย" ขอไม่ให้สัมภาษณ์อีกหลังรมว.สธ.รับเรื่องและพร้อมให้ความเป็นธรรม

หลังจาก นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข มีคำสั่งย้าย นพ.ชาญชัย จันทร์วรชัยกุล ผอ.รพ.ขอนแก่น มายังกองบริหารการสาธารณสุข กรณีปัญหาเรียกรับเงินบริจาคบริษัทยาเข้ากองทุน รพ. และแต่งตั้ง นพ.เกรียงศักดิ์ วัชรนุกูลเกียรติ ผอ.รพ.พระปกเกล้า จ.จันทบุรี มาเป็นรักษาการแทน ขณะที่นพ.ชาญชัย ได้ทำหนังสือร้องเรียนถึงนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการ สธ. ขอความเป็นธรรม เนื่องจากไม่ได้มีการรับเงิน

ล่าสุดเวลา 11.30 น. วันที่ 8 มิ.ย. 2563 ที่กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้หารือร่วมกับ นพ.ชาญชัย ภายหลังยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมกับนายอนุทิน

นายอนุทิน กล่าวว่า วันนี้ตนได้เชิญปลัด สธ.และนพ.อภิชาติ รอดสม ในฐานประธานกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง มาชี้แจงว่าเรื่องเป็นมาอย่างไร และนพ.ชาญชัย จะมาพบตนด้วยเช่นกัน ซึ่งตนยืนยันว่ามาที่กระทรวงสาธารณสุขต่อให้รู้จักหรือไม่รู้จักใคร ก็แยกกันหมด โดยงานราชการยึดตามความถูกต้องและระเบียบเรื่องความสัมพันธ์ส่วนตัวก็เป็นเรื่องส่วนตัวไม่เกี่ยวข้องกับการบริหารราชการแผ่นดิน ตนเข้ามาไม่ได้เป็นหนี้หรือเป็นบุญคุณใคร ส่วนเรื่องการสอบสวนข้อเท็จจริงหรือรายงานต่างๆ ยังต้องเก็บเป็นความลับแม้แต่ตนจะเอามาอ่านยังไม่ได้ ทางคณะกรรมการยังบอกว่าหากจะอ่านต้องทำหนังสือมาขอ ซึ่งตนไม่ทำเพราะจะเข้าข่ายก้าวก่าย ทั้งนี้ การสอบสวนทำโดยคณะกรรมการต้องมีการเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องมาชี้แจง เมื่อถึงเวลาคณะกรรมการก็จะทำหนังสือชี้แจ้งมายังปลัด สธ.ในฐานะผู้บังคับบัญชาหัวหน้าส่วนราชการ

นายอนุทิน กล่าวต่อว่า ในกรณีที่นพ.ชาญชัยได้ยื่นหนังสือเรียกร้องความเป็นธรรมมาที่ตนในฐานะรมว.สธ. ตนได้รับหนังสือแล้วละกำลังจะสั่งการให้ปลัดสธ.มาชี้แจงอย่างเป็นทางการ ซึ่งตรงนั้นจะทำให้ตนรับทราบว่าข้อมูลเป็นอย่างไรตรงไหนเป็นธรรม ไม่เป็นธรรมเพื่อจะได้ยื่นยันและเกิดความมั่นใจกับทุกฝ่ายว่าทุกอย่างจะต้องมีความเป็นธรรมเพราะการใช้กฎหมายมีเขียนไว้ชัดเจนว่าอะไรทำได้หรือทำไม่ได้ อะไรผิดกฎหรือไม่ผิดกฎตนจึงไม่มีความหนักใจ แต่อย่าเอาเรื่องความถูกใจแต่ไม่ถูกต้องหรือด้วยเรื่องนี้ทำไมรมว.สธ.ไม่แทรกแซงแต่เวลาบางเรื่องรมว.สธ.ไปแทรกแซงทำไม ทั้งนี้อำนาจรมว.สธ.ดูเหมือนใหญ่แต่มีจำกัด

เมื่อถามว่ากรณีหากพบว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นการกระทำที่ไม่เป็นธรรมจะผิดมาตรา157 หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่เนื่องจากอำนาจบริหารราชการแผ่นดินชัดเจนผู้ที่มีทุกจากการกล่าวหา ก็สามารถร้องทุกนั้นได้ ที่ศูนย์พิทักษ์ที่อยู่ในก.พ.เขียนอยู่ในกฎหมายชัดเจน แต่ในทาเชิงการบริหารตนขอย้ำว่าต้องทำให้เกิดความเป็นธรรมไม่มีทางที่จะไปกลั่นแกล้งใคร ตนสนิทคนนั้นมากคนนี้น้อย แต่ก็ไม่มีศัตรูในกระทรวงสาธารณสุข ไม่มีเหตุผลที่ตนจะต้องกลั่นแกล้งใครแม้แต่น้อย

เมื่อถามว่าจะให้ปลัดสธ.มาชี้แจงอย่างเป็นทางการหลังจากผลสอบเสร็จเรียบร้อย นายอนุทินกล่าวว่า ไม่ ตนได้รับหนังสือขอความเป็นธรรมจากนพ.ชาญชัยแล้ว ตนก็จะต้องให้ฝ่ายกฎหมายพิจารณาข้อความในหนังสือก่อนที่ตนจะพิจารณาว่าจะสั่งการอย่างไร ในเบื้องต้นต้องสั่งการให้ปลัดสธ.นำข้อเท็จจริงทั้งหมดมารายงานตน ให้ทราบอย่างเป็นทางการและมีการทำเป็นลายลักษณ์อักษรขึ้นมา เพื่อที่จะได้มีข้อมูลที่จะสามารถพิจารณาเพื่อให้ความเห็นได้ในขอบเขตที่ตนมีอยู่

เมื่อถามถึงกรณีผู้ตรวจที่ต้องมาเป็นกรรมกรรมการสอบวินัยจริงๆแล้วไม่ใช่ลำดับขั้นของ นพ.พิทักษ์พล บุณยมาลิก ผู้ตรวจราชการเขต 11 ตรงนี้จะต้องดำเนินการให้เป็นไปตามขั้นตอนหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ตนถามแล้วแต่มันไม่มีกฎระเบียบทุกอย่างอยู่ที่ในอำนาจของปลัดสธ.เพราะเป็นหัวหน้าส่วนราชการของสธ.ท่านจะสั่งการใช้ดุลพินิจอย่างไรท่านย่อมทราบในขอบเขตอำนาจของท่านทุกอย่างที่ทำ ซึ่งท่านปลัดก็ยืนยัน พร้อมรับผิดชอบ

เมื่อถามว่ามีคนตั้งข้อสังเกตว่า นพ.สุขุม กับนพ.ชายชัยเป็นคู่กรณี ในฐานะรมว.สธ.จะลงมาดูเป็นพิเศษหรือไม่ เพื่อให้ความเป็นธรรม นายอนุทิน กล่าวว่า ตนให้ความเป็นธรรมอยู่แล้ว และตนคิดว่าทุกคนต้องมวุฒิภาวะเอาเรื่องส่วนตัวมาปนกับเรื่องงานไม่ได้ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่สังคมประชาชน จับตามองอยู่ ไม่มีอะไรที่ทำด้วยความสะใจหรือความอคติแน่นอน ต่อให้ทำก็ไม่ผ่านคณะกรรมการอีกจำนวนมาก หากสมมติว่าเรื่องสอบสวนชี้แจงมาว่ามีมูลก็ต้องมีการไปตั้งกรรมการวินัย และต่อให้กรรมการสอบวินัยฟันธงออกมา อย่างไรก็ต้องไปเข้า อ.ก.พ. ตนถึงจะเข้ามาได้ เพราะตนเป็นประธาน อ.ก.พ.กระทรวง และหาก อ.ก.พ.มีมติอะไรหากไม่พอใจก็ไปร้องก.พ.ได้อีก

ส่วนที่กังวลว่าไม่มีความเป็นธรรมในหน่วยของกระทรวง ซึ่ง อ.ก.พ.เป็นคนนอกทั้งนั้น และมีวุฒิภาวะ เพราะหาก รมว.กับปลัดสนิทกันซูเอี๋ยกันเดี๋ยวก็ไปสั่งปลัดให้ทำโน้นทำนี่ก็จะไปตัดตอนกัน ดังนั้นอำนาจบริหารราชการแผ่นดินอันใหม่ต้องไปตั้งคณะกรรมการที่ไม่ได้ขึ้นตรงกับรมว.หรือปลัด ซึ่งก็มีความชอบธรรมในระดับ

เมื่อถามว่าขณะนี้ นพ.เกรียงศักดิ์ก็ไปอยู่ที่รพ.ขอนแก่น นายอนุทินกล่าวว่า เป็นอำนาจของปลัดหากตนไปสั่งให้ย้ายตนก็โดนอีก

เมื่อถามว่าเพื่อป้องกันข้อครหาจะต้องมาจัดการเรื่องการโยกย้ายรักษาการผอ.รพ.ขอนแก่น ใหม่หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า แล้วทำไมปลัดตั้งอย่างนั้นก็ต้องไปถามปลัด ว่ามีเหตุอะไรจะตอบไม่ตอบก็ได้ แต่ในระเบียบตนอ่านหมดแล้วว่าอำนาจตนทำอะไรได้บ้าง พร้อมถามฝ่ายกฎหมาย ซึ่งบอกว่าตนทำได้แค่สั่งย้ายปลัดสธ.ได้เท่านั้น แต่สิ่งที่ทำได้ในเชิงบริหาร คือให้ความเป็นธรรม ซึ่งตนให้แล้ว และให้แน่นอนหากไม่ผิดตนไม่ใช่ขี้ไก่ตนศึกษากฎหมายมาเยอะมาก ตนต้องดูว่าอะไรเป็นธรรมไม่เป็นธรรมหากไม่เป็นธรรมไม่เป้ฯไปตามกฎระเบียบตนก็จะแทรกแซง

เมื่อถามว่าเพื่อความเป็นธรรมส่วนหนึ่งกับข้อกังขาเรื่องของรักษาการท่านจะเพิ่มความเป็นธรรมอย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า ใครทำอะไรไว้ก็จะต้องดูว่าอำนาจหน้าที่มีอะไรก็ต้องทำในข้อกฎหมาย เพราะหากตนไปพูดแล้วปลัดสธ.ออกมาบอกว่าที่ทำเพราะรมว.สธ.สั่งมา ตนผิดหรือไม่คนอื่นต้องมา ม.157 ทันที ซึ่งตนต้องรู้ เอาไว้ถึงอ.ก.พ.ก่อน ตนถึงจะมีอำนาจมันมีขั้นตอนทุกอย่างอยู่ในขั้นตอนใครทำถูกก็ถูก กฎหมายชัดเจน

เมื่อถามว่าแต่งตั้งรอบแรกเป็นคู่เดิมระหว่างนพ.เกรียงศักดิ์กับนพ.ชาญชัย รอบ2ก็เช่นกัน ซึ่งคนลงนามเป็นปลัดสธ.จึงเห็นว่ารมว.สธ.ต้องลงมาจัดการเรื่องนี้ หลายคนมองว่าไม่เหมาะสม นายอนุทิน กล่าวว่า รมว.สธ.จะลงมาจัดการอย่างไรจะให้รมว.ย้ายกลับได้หรือไม่ รมว.ย้ายซี 9 ไม่ได้ ต้องไปศึกษากฎระเบียบดีๆ ตนให้ความเป็นธรรม ขอให้ปลัดทบทวนอำนาจก็ไม่มี แต่ตนก็ย้ำแล้วว่าทุกอย่างต้องเป็นธรรมอย่าให้การบริการประชาชนลดลงตรงนี้คืออำนาจนโยบายของตน

ด้าน นพ.ชาญชัย กล่าวว่า หลังจากนี้ตนขอไม่ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้อีก เนื่องจากท่านอนุทิน รัฐมนตรีว่าการ สธ.ทราบเรื่องและพร้อมให้ความเป็นธรรมเกี่ยวกับเรื่องนี้ ขณะเดียวกันในส่วนที่ว่าตนข่มขู่พยาน ล่าสุดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาตนได้ยื่นอุทธรณ์คำสั่งปลัดกระทรวงฯ ตามสิทธิ์ ซึ่งยืนยันว่าตนไม่ได้มีพฤติกรรมข่มขู่พยานแต่อย่างใด และตามระเบียบจะมีการพิจารณาใน 30 วัน

ทั้งนี้ ได้มีการสอบถามเรื่องนี้ไปทาง นพ. สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดสธ.  แต่ท่านติดภารกิจประชุมงบประมาณที่สภาฯ