กทม.เสนอ 8 สถานที่ผ่อนปรน กรณี “ร้านตัดผม” ทำได้แค่ “ตัด สระ ไดร์”

เมื่อวันที่ 28 เม.ย. ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษกกรุงเทพมหานคร ให้สัมภาษณ์ถึงการพิจารณากิจการหรือสถานที่ใดบ้างที่จะผ่อนปรนหลังจากนี้ ว่า สำหรับมาตรการที่กทม. จะผ่อนปรนในสถานที่ต่างๆ โดยได้พิจารณาจาก 2 ปัจจัยหลัก คือ 1.ความเสี่ยงของกิจกรรม 2.ความจำเป็นในการดำรงชีวิต โดยจากการพิจารณามี 8 สถานที่ ซึ่งทั้งหมดยังต้องอยู่ที่ พรก.ฉุกเฉิน 2563 มีผลถึงวันที่ 30 เม.ย.นี้ ก็มีการต่ออายุ 1 เดือน และจะมีการเพิ่มข้อกำหนด ซึ่งรัฐบาลจะมีการแถลง ส่วนแนวทาง 8 สถานที่นี้ ทางกรุงเทพมหานครจะเสนอคณะกรรมการโรคติดต่อเพื่อพิจารณาเพิ่มเติม

สำหรับ 8 สถานที่ที่จะผ่อนปรนนั้น จะต้องมีมาตรการควบคู่ ดังนี้

1.ร้านอาหาร แม้ทุกวันนี้เปิดได้ แต่เป็นการสั่งกลับบ้าน แต่หลังจากนี้ หากเป็นร้านอาหาร นอกห้างจะพิจารณาให้นั่งทานในร้านได้ แต่ต้องเว้นระยะห่างประมาณ 1.5- 2 เมตร มีอากาศถ่ายเทให้สะดวก ส่วนร้านอาหารในห้างสรรพสินค้า ยังเป็นแบบสั่งกลับบ้าน และไม่ให้มีการขายแอลกอฮอล์ สั่งกลับบ้านได้ แต่ห้ามดื่มในร้านอาหาร

2.ตลาด ปัจจุบันมีการเปิดขายอยู่ แต่ต่อไปจะควบคุมเข้มข้นขึ้น เพื่อให้เปิดเต็มรูปแบบ อย่างของกิ๊ฟช็อป ฯลฯ จะมีมาตรการควบคุมในตลาดมากยิ่งขึ้น โดยจะให้เปิดตลาดเต็มรูปแบบ

3.ร้านตัดผม ให้บริการแค่ 3 อย่าง คือ ตัด สระ ไดร์ โดยการบริการให้เปิดเป็นรอบ โดยมีเวลาที่หยุดเพื่อให้ร้านตัดผม ทำความสะอาด และปล่อยให้อากาศถ่ายเท ส่วนรายละเอียดรอบ มาตรการเพิ่มเติมขอให้รอวันพรุ่งนี้(29 เม.ย.)

4.สำหรับคลินิก รพ. และสถานพยาบาล ที่มีหลายที่ที่เราปิดไปก่อนหน้านี้จะเปิดบริการ แต่จะไม่รวมคลินิกเสริมสวย

5.สนามกอล์ฟ   ทางกทม. พิจารณาว่าสามารถเปิดได้ เพราะมีการจ้างงานด้วย แต่จะมีการพิจารณาก่อนและเสนอคณะกรรมการโรคติดต่อในวันพรุ่งนี้ (29 เม.ย.)

6. กีฬา ที่มีการเว้นระยะห่าง สัมผัสน้อยจะมีพิจารณาให้ว่าจะมีกีฬาอะไรบ้าง ขอให้รอการประชุมก่อน

7.ร้านตัดขนสุนัข ใช้หลักการคล้ายร้านตัดผมทั่วไป เพราะร้านตัดผมสุนัขยังมีความเสี่ยงน้อย หากมีมาตรการควบคุมก็จะอยู่ในการพิจารณา

8.สวนสาธารณะ จะมีมาตรการเข้มข้น เข้าออกทางเดียวกัน เว้นระยะห่าง โดยเราจะเปิดให้ออกกำลังกายอย่างเดียว แต่ไม่ให้จับกลุ่มพูดคุยกัน และไม่อนุญาตให้มีการทำมาหากิน ซึ่งมีจริง โดย 8 สถานที่นี้คือหลักการที่กทม.พิจารณาให้เปิดได้ แต่รายละเอียดขอให้รอการแถลงข่าวที่ ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโคโรน่า หรือ ศบค.ในวันที่ 28 เม.ย.2563