สหภาพพยาบาลแห่งประเทศไทยเรียกร้องรัฐบาลปกป้อง 'บุคลากรสาธารณสุข' ซึ่งเป็นด่านหน้าสู้ COVID-19 ระบุโดยเฉพาะพยาบาลทั่วประเทศเสี่ยงมากสุด จี้กรมการค้าภายในเร่งจัดสรรหน้ากากอนามัยให้ รพ.เป็นลำดับแรกและเพียงพอ ก่อนกระจายให้ร้านค้า สธ.จัดหาชุดอุปกรณ์ป้องกัน พร้อมเพิ่มค่าเบี้ยเลี้ยง ค่าตอบแทน ค่าเสี่ยงภัย กรณีหากติดเชื้อหรือได้รับอันตรายสาหัสให้ปรับจากสูงสุด 1 แสนบาท เป็นรายละ 1 ล้านบาท
เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2563 สหภาพพยาบาลแห่งประเทศไทย ออกแถลงการณ์ ฉบับที่ 1/2563 ระบุว่าเนื่องด้วยการระบาดของโรคอุบัติใหม่ โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (COVID-19) ทําให้เกิดปัญหาขาดแคลนหน้ากากอนามัย และมีการกักตุนสินค้าเพื่อขึ้นราคาและเก็งกําไร ทําให้กรมการค้าภายในประกาศให้หน้ากากอนามัยเป็นสินค้าควบคุม และบังคับให้โรงงานผู้ผลิตจัดส่งหน้ากากอนามัยไปให้กรมการค้าภายในเป็นผู้กระจายสินค้าเท่านั้น ไม่สามารถจําหน่ายให้กับโรงพยาบาลโดยตรงได้ แต่เมื่อทางโรงพยาบาลติดต่อกรมการค้าภายใน กลับได้คําตอบว่าให้แจ้งเข้าไปในระบบรอคิว ในขณะที่มีการแถลงข่าวกระจายหน้ากากอนามัยผ่านบริษัทผู้จําหน่ายเป็นบางแห่งรวมไปจนถึงการส่งออกไปต่างประเทศ ทั้ง ๆ ที่ในประเทศไทยยังขาดแคลนอย่างมาก
ถ้าหากไม่มีหน้ากากอนามัยให้กับบุคคลากรทางการแพทย์ที่ทํางานและจัดให้ผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงในการติดเชื้อในโรงพยาบาลตอนเจ็บป่วยแล้วนั้น จะเกิดผลกระทบต่อชีวิต ความไม่ปลอดภัยในการแพร่กระจายเชื้ออื่นในระบบทางเดินหายใจ ส่งผลให้จะเกิดการระบาดของเชื้ออื่นรุนแรงร่วมด้วยมากขึ้น เช่น ไข้หวัดใหญ่ (flu) และทําให้สถานการณ์ของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (COVID-19) รุนแรงมากยิ่งขึ้น
สถานการณ์ที่ขยายเป็นวงกว้าง ประชาชนมีปัญหาการไม่ยอมกักตัว การปกปิดข้อมูลประวัติ ประชาชนที่มีความเสี่ยงไปต่างประเทศที่มีการระบาด รายที่ไม่แสดงอาการเจ็บป่วยมีระยะฟักตัวนานมากขึ้น จาก 14-24 วัน อาจเป็นเดือนหรือกลายพันธุ์ เพื่อที่ทางโรงพยาบาล สถานพยาบาล บุคคลากรสาธารณสุข ซึ่งเป็นด่านหน้า โดยเฉพาะพยาบาลทั่วประเทศที่มีหน้าที่เสี่ยงมากที่สุด ในการทํางานเช่น คัดกรอง ซักประวัติ การดูแลรวมถึงการดูแลผู้ป่วยเสี่ยง ผู้ป่วยที่ป่วยแล้วกําลังรักษา หรือการติดตามเยี่ยมบ้านในรายที่หายแล้วนั้น ร่วมกับทีมบุคลากรสาธารณสุขทุกคนอย่างเร่งด่วนที่สุด จะสามารถช่วยกันควบคุมป้องกันไม่ให้มีการระบาดในไทยได้สําเร็จ
สหภาพพยาบาลแห่งประเทศไทยขอเสนอข้อเรียกร้องต่อรัฐบาลชุดปัจจุบัน ดังนี้
1. ขอให้ทางกรมการค้าภายในและกระทรวงสาธารณสุข เร่งจัดสรรหน้ากากอนามัย ชุดอุปกรณ์ป้องกัน ให้แก่โรงพยาบาลและสถานพยาบาลเป็นลําดับแรกของประเทศให้เพียงพอก่อน ก่อนกระจายสินค้าไปยังผู้ค้าปลีกรายย่อยหรือภาคประชาชน หรือส่งไปสนับสนุนในต่างประเทศ
2. ขอให้รัฐบาลแก้ไขตั้งศูนย์ร้องเรียนจากผู้ปฏิบัติงานโดยตรง ที่มีปัญหาความรุนแรงของการระบาดที่เกิดขึ้นในสถานพยาบาลในประเทศไทย แบบกระจายอํานาจการตัดสินใจ
3. ขอให้ออกกฎหมาย ระเบียบหรือหลักกฎเกณฑ์ข้อบังคับ โดยกระทรวงการคลัง กระทรวงสาธารณสุข สํานักงบประมาณ ในภาวะฉุกเฉินนี้ ขอปรับเพิ่มเติมค่าเบี้ยเลี้ยงค่าตอบแทน ค่าเสี่ยงภัยรายเดือน ค่าเวร ค่าตอบแทนพิเศษนอกเวลา หากกรณีติดเชื้อหรือบาดเจ็บได้รับอันตรายสาหัสจาก พ.ร.บ.ช่วยเหลือเบื้องต้นให้แก่เจ้าหน้าที่บุคลากรสาธารณสุข ปี 2561 จากสูงสุด 1 แสนบาท เป็นรายละ 1 ล้านบาท
สหภาพพยาบาลแห่งประเทศไทยหวังเป็นอย่างยิ่งว่ารัฐบาลในระบอบประชาธิปไตยจะช่วยให้คุณภาพชีวิตของบุคลากรสาธารณสุขทุกคนมีความสุขและปลอดภัย มั่นคงมีขวัญกําลังใจในการเผชิญภาวะการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (COVID-19) ในครั้งนี้
- 19 views