ธุรกิจน้ำเมาแฝงหน่วยงานรัฐเปิดลานเบียร์ พบผู้ว่าฯ รองผู้ว่าฯ เป็นประธาน

ธุรกิจน้ำเมาแฝงหน่วยงานรัฐเปิดลานเบียร์ พบผู้ว่าฯ รองผู้ว่าฯ เป็นประธาน เผยบางพื้นที่อ้างสตรีทฟู้ดบังหน้า บริษัทเบียร์ยักษ์ใหญ่โหมแคมเปญฉลองครบรอบ 25 ปี จัดคอนเสิร์ตลานเบียร์ส่งเสริมการขาย โฆษณาท้าทายกฎหมายทั่วประเทศ ด้าน“แอลกอฮอล์วอช” เตรียมนำหลักฐานร้อง มท.1

เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2562 นายคำรณ ชูเดชา ผู้ประสานงานเครือข่ายเฝ้าระวังธุรกิจสุรา หรือแอลกอฮอล์วอช เปิดเผยว่า ตามที่ปรากฎเป็นข่าวเผยแพร่ทางสื่อมวลชนและชาวบ้านส่งมาร้องเรียนกรณีรองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม ร่วมกับ บริษัทเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และผู้ประกอบการร้านเหล้าผับบาร์ นั่งแถลงข่าวเปิดงานสตรีทฟู้ด รวมถึงกรณีผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา ร่วมเป็นประธานเปิดงานเทศกาลดนตรีกับลานเบียร์ ซึ่งทำให้เกิดคำถามว่า เป็นการส่งสัญญาณที่การันตีอะไรบางอย่างในพื้นที่ใช่หรือไม่

ทั้งนี้ ที่นครปฐมเป็นการแถลงข่าวงานสตรีทฟู้ด มีโฆษณาตราสัญลักษณ์เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ผิดกฎหมาย และในแผนผังเตรียมพื้นที่ลานเบียร์ขนาดใหญ่ มีศิลปินดังมาแสดงดนตรีตลอดทั้งเทศกาล (21-31 ธันวาคมนี้) ส่วนพังงาเป็นการจัดงานเทศกาลดนตรี (13-14 ธันวาคม) มีศิลปินมาแสดงคอนเสิร์ตพ่วงด้วยลานเบียร์ ซึ่งทั้ง 2 งานเป็นการจัดงานร่วมกับบริษัทเบียร์ยักษ์ใหญ่ ที่กำลังทำแคมเปญครบรอบ 25 ปี

“ท่านต้องไม่ลืมว่า ตามพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551ผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นประธานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จังหวัด ตามมาตรา19 และมาตร 22 มีอำนาจหน้าที่ชัดเจนในการควบคุม ให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย เรื่องที่เกิดขึ้นจึงไม่สมควรและต้องระมัดระวังอย่างมาก ผู้ว่าฯ รองผู้ว่าฯ ไม่ควรตกเป็นเครื่องมือทำกิจกรรมส่งเสริมการขายของธุรกิจ แต่ควรตรวจสอบให้ชัดเจนว่าอะไรทำได้ ทำไม่ได้ มิเช่นนั้นท่านจะกลายเป็นผู้ร่วมกระทำความผิดเสียเอง และจากการตรวจสอบพบว่า ที่จังหวัดพังงาไม่มีการขอใบอนุญาตจากสรรพสามิตให้จำหน่ายสุราด้วยซ้ำ” นายคำรณ กล่าว

นายคำรณ กล่าวว่า การส่งเสริมการท่องเที่ยวต้องไม่ทำผิดกฎหมายบ้านเมือง ในเรื่องนี้เครือข่ายฯ ไม่ได้คัดค้านการแสดงดนตรีหรือสตรีทฟู้ด เป็นเรื่องที่ดีและสนับสนุน แต่หากกิจกรรมนั้นแอบแฝงไว้ด้วยลานเบียร์ ส่งเสริมการขาย แอบแฝงโฆษณา มันไม่ถูกต้องเพราะมีกฎหมายควบคุมอยู่ สุ่มเสี่ยงต่อการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่และปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ทั้ง 2 งานควรเป็นงานที่ปลอดภัยต่อ เด็ก เยาวชนครอบครัว และนักท่องเที่ยวสามารถมาเที่ยวได้อย่างสบายใจ ไม่ต้องเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ ทะเลาะวิวาท หรือเต็มไปด้วยลานเบียร์ส่งเสริมการขายและการโฆษณาที่ผิดกฎหมาย ในสัปดาห์หน้าเครือข่ายฯจะนำเรื่องนี้ร้องเรียนต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยให้ติดตามตรวจสอบ

ด้าน นายชูวิทย์ จันทรส ผู้ประสานงานเครือข่ายรณรงค์ป้องกันภัยแอลกอฮอล์ กล่าวว่า กิจกรรมที่จัดขึ้นทั้งที่จังหวัดนครปฐม และพังงา เชื่อมโยงไปกับแคมเปญใหญ่ของบริษัทไทยเบฟเวอเรจ จำกัด เนื่องในโอกาสครอบรอบ 25 ปี เบียร์ช้าง มีการจัดคอนเสิร์ต ลานเบียร์ แบบนี้ ตระเวนไปทั่วประเทศ ซึ่งในแต่ละพื้นที่ก็จะพ่วงกับงานต่าง ๆ ของแต่ละจังหวัด เช่น ที่นครปฐมครั้งนี้มีการออกร้านอาหารแนวสตรีทฟู้ด เป็นจุดขาย แต่เบื้องหลังที่ใหญ่กว่าพื้นที่สตรีทฟู้ดหลายเท่า คือคอนเสิร์ต ลานเบียร์ ที่มีศิลปินดังสลับกันไปตลอดกว่า 10 วัน ส่วนที่พังงาก็เป็นภาพเทศกาลคนตรี และลานเบียร์ มีโฆษณาซึ่งไม่เป็นไปตามเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด และมีเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปีกินดื่มกันในงาน ซึ่งจะเป็นแบบนี้อีกหลายจังหวัด ตามแผนการตลาดของบริษัท

จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ทางสำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ซึ่งเป็นเจ้าภาพหลัก ตามพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 ต้องทำงานเชิงรุก เพราะช่วงที่ผ่านมา ธุรกิจเหล้าเบียร์ บรรดาเอเย่นต์ สายส่ง ผับบาร์ต่าง ๆ พยายามจับมือหน่วยงานภาครัฐ อ้างเรื่องส่งเสริมการท่องเที่ยว จัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย การโฆษณา เย้ยกฎหมายอยู่ตลอดเวลา มันชัดเจนอยู่แล้วว่าบิ๊กอีเว้นท์ส่งเสริมการขาย ลานเบียร์ ป้ายโฆษณาต่าง ๆ ใครเป็นคนทำและใครได้ประโยชน์ ทั้งหมดทำไปเพื่อประโยชน์ทางการค้าทั้งสิ้น การบังคับใช้กฎหมายต้องเด็ดขาด สำหรับกรณีลานเบียร์ส่งเสริมการขายนั้น มองว่าเพื่อไม่ให้ธุรกิจตีความเข้าข้างตัวเอง อาจจะออกอนุบัญญัติเพิ่มได้ ตามมาตรา30 (6) ให้ชัดเจนไปเลย ว่าห้ามส่งเสริมการขายด้วยวิธีจัดลานเบียร์ หรือจัดคอนเสิร์ตเพื่อขายเหล้าเบียร์

“ยิ่งใกล้เทศกาลปีใหม่เข้ามา บรรดาบิ๊กอีเว้นท์ส่งเสริมการขายสารพัด จะทยอยออกมาเรื่อย ๆ เครือข่ายฯ จึงอยากเห็นท่านอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งให้ความสำคัญกับปัญหาเมาแล้วขับ อุบัติเหตุบนท้องถนน ได้โปรดสนใจปัญหาเหล่านี้ด้วย เพราะยิ่งปล่อยให้ส่งเสริมการขาย ก็ยิ่งเพิ่มคนเมาบนท้องถนน ยิ่งสุ่มเสี่ยงต่ออุบัติเหตุเมาแล้วขับ จึงอยากให้ท่านกำชับหน่วยงานใต้บังคับบัญชาให้แข็งแรง เอาจริงเอาจังกว่านี้” นายชูวิทย์ กล่าว