ผอ.รพ.ขอนแก่นชี้โครงการ "รับยาใกล้บ้าน เภสัชกรใกล้ใจ" ช่วยลดความแออัด แนะเพิ่มจำนวนร้านยาที่เข้าร่วมโครงการและประชาสัมพันธ์อย่างทั่วถึงจะทำให้ผู้ป่วยสนใจไปรับยาที่ร้านยาใกล้บ้านมากขึ้น ด้านผู้ป่วยปลื้ม ประหยัดเวลาแถมซักถามเภสัชกรได้อย่างละเอียด ไม่เหมือนรับยาที่ห้องยาโรงพยาบาล
นพ.ชาญชัย จันทร์วรชัยกุล
นพ.ชาญชัย จันทร์วรชัยกุล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลขอนแก่น กล่าวถึงโครงการ "รับยาใกล้บ้าน เภสัชกรใกล้ใจ" ซึ่งเป็นโครงการที่โรงพยาบาลขอนแก่น ร่วมมือกับคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น และสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติเขต 7 ขอนแก่น นำร่องให้ผู้ป่วยรับยาตามใบสั่งของแพทย์ที่ร้านยาใกล้บ้านได้แทนการรับยาที่โรงพยาบาล เพื่อลดความแออัด โดย นพ.ชาญชัย ให้ความเห็นว่า น่ายินดีที่มีโครงการในลักษณะนี้ ถือเป็นเรื่องที่ช่วยแบ่งเบาภาระโรงพยาบาลได้ส่วนหนึ่ง
อย่างไรก็ดีจากการดำเนินงานมา 2 ปี มีจำนวนผู้ป่วยไปรับยาที่ร้านยาไม่มากนัก เนื่องจากมีสาเหตุคือคนไข้ในเขตเมืองส่วนใหญ่ไปรับบริการที่คลินิคหมอครอบครัวอยู่แล้ว ส่วนคนไข้ที่มาที่โรงพยาบาลส่วนมากเป็นคนไข้จากต่างอำเภอ แต่ร้านยาที่เข้าร่วมโครงการส่วนมากอยู่ในเขตเมือง ไม่ได้อยู่ใกล้บ้าน ทำให้คนไข้นอกจากเข้าเมืองมาโรงพยาบาลแล้ว ต้องเข้ามาที่ร้านยาอีกรอบ เมื่อทดลองใช้บริการ 2-3 ครั้งแล้วเห็นว่าไม่คุ้มก็ไม่มาอีก
นพ.ชาญชัย กล่าวอีกว่า แต่เมื่อใดก็ตามที่มีร้านยาคุณภาพเข้าร่วมโครงการมากขึ้นและกระจายไปอยู่ใกล้บ้านผู้ป่วยมากขึ้น และมีการประชาสัมพันธ์อย่างทั่วถึงทั่วประเทศ เชื่อว่าจะทำให้คนสนใจและใช้บริการรับยาที่ร้านยาใกล้บ้านมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาลขอนแก่นหรือโรงพยาบาลอื่นๆก็ตาม
นายวิศิษฎ์ วัชระขจร
ด้านนายวิศิษฎ์ วัชระขจร อายุ 69 ปี หนึ่งในผู้ที่มารับบริการที่โรงพยาบาลขอนแก่น กล่าวว่า ตนพักอาศัยในเขตเทศบาลนครขอนแก่น ห่างจากโรงพยาบาลประมาณ 10 กม. โดยป่วยเป็นโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงและเข้าร่วมโครงการรับยาที่ร้านยาใกล้บ้านมาเป็นเวลากว่า 1 ปีแล้ว ปกติเวลามาที่โรงพยาบาลจะออกจากบ้านประมาณ 6.30 น. กว่าจะผ่านกระบวนการต่างๆจนได้ใบสั่งยามายื่นที่ห้องยาก็เป็นเวลาประมาณ 11.00 น. และใช้เวลาอีก 30-60 นาทีในการรอรับยา จะไปทานข้าวก็ไปไม่ได้เพราะกลัวถูกเรียกคิวแล้วไม่ได้ยิน
อย่างไรก็ตามหลังจากเข้าร่วมโครงการแล้ว ช่วยประหยัดเวลา ทำให้กลับบ้านได้เร็วขึ้นประมาณ 1 ชั่วโมง โดยยื่นใบสั่งยาที่ห้องยาแล้วกลับบ้านเลย หลังจากนั้น 1-2 วันก็ไปรับยาที่ร้านยาใกล้บ้านซึ่งอยู่ห่างออกไป 2 กม.แทน ข้อดีนอกจากประหยัดเวลาแล้ว เวลาไปรับยาที่ร้าน เภสัชกรจะวัดความดันและให้คำปรึกษาในการใช้ยาอย่างเป็นกันเอง ผู้ป่วยรู้สึกสบายใจที่สามารถซักถามข้อสงสัยต่างๆได้อย่างละเอียด ต่างจากการรับยาที่โรงพยาบาลซึ่งรับยาเสร็จแล้วกลับเลยเพราะมีคนที่รอต่อคิวอยู่ ทำให้ไม่มีเวลาได้สอบถามมากนัก
- 76 views