เครือข่ายผู้บริโภคต้าน พ.ร.บ.ยา ฉบับทำร้ายประชาชน ชี้ อย.กำลังสร้างความแตกแยกให้กับวิชาชีพ ผู้บริโภคถูกจับเป็นตัวประกัน เตือน อย.อย่าเพิ่งเอาร่าง พ.ร.บ.ยาเข้า ครม. จนกว่าจะมีการแก้ไขให้มีสาระตามที่ได้เสนอไป ไม่เช่นนั้นจะถือว่า แก้ไขกฎหมายไม่คุ้มครองผู้บริโภค

เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2561 ณ โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ สมาคมสหพันธ์องค์กรผู้บริโภค ร่วมกับมูลนิธิเพื่อผู้บริโภคและเครือข่ายผู้บริโภค 6 ภูมิภาคแถลงข่าวประเด็น อย.แก้ไข พ.ร.บ.ยา ระบุชัด แก้ไขกฎหมายทำร้ายประชาชน ถอยหลังเข้าคลอง ลดทอนการคุ้มครองผู้บริโภค สร้างปัญหากับวิชาชีพ ก่อปัญหาใช้ยาเกินจำเป็น และเปิดช่องนายทุนแสวงหาประโยชน์

นางสาวจุฑา สังขชาติ ผู้ประสานงานเครือข่ายองค์กรผู้บริโภคภาคใต้ กล่าวว่า ปัญหาหลักของ พ.ร.บ. ยา ฉบับแก้ไขนี้คือมีการลดความเข้มข้นของการคุ้มครองผู้บริโภคและไม่ได้แก้ปัญหาที่มีต่อผู้บริโภคในหลายประการ ได้แก่ ไม่มีมาตรการเพิกถอนทะเบียนตำรับยาอัตโนมัติ ในตำรับยาที่เป็นอันตรายและถูกถอนทะเบียนในต่างประเทศหรือในบริษัทแม่แล้ว, เปิดโอกาสให้เภสัชกรไม่ต้องอยู่ประจำร้านยาตลอดเวลา ทำให้ส่งผลกระทบต่อการแพทย์ปฐมภูมิ และทำให้ปัญหาการแขวนป้ายรุนแรงเพิ่มยิ่งขึ้น รวมถึงการแขวนป้ายโดยวิชาชีพอื่นด้วย, ลดมาตรการการควบคุมการโฆษณาจากการขออนุญาตให้สามารถดำเนินการแค่เพียงการจดแจ้งได้ และขาดมาตรการควบคุมการโฆษณาทางอินเตอร์เน็ต ตลอดจน ไม่มีมาตรการใด ๆ ในการควบคุมการขายยาในสื่อใหม่ (ขายยาออนไลน์) ทั้งที่เป็นปัญหาที่รุนแรงที่สุดในปัจจุบันและจะยิ่งเป็นปัญหามากขึ้นในอนาคต

นายปฏิวัติ เฉลิมชาติ ผู้ประสานงานเครือข่ายผู้บริโภคภาคอีสาน กล่าวว่า พ.ร.บ. ยาฉบับแก้ไขนี้ ยังขยายอายุทะเบียนตำรับยาจากร่างเดิม 5 ปี เป็น 7 ปี โดยที่ไม่มีกระบวนการทบทวนทะเบียนตำรับยา, เปิดโอกาสให้มีการดำเนินการส่งเสริมการขายยาผ่านผู้ประกอบวิชาชีพ (โดยเฉพาะเรื่องการแถมพก ชิงรางวัล ออกรางวัลหรือวิธีการอื่นใดในทำนองเดียวกัน จากผู้ประกอบวิชาชีพ ถือว่าไม่มีความผิด) ลดทอนการคุ้มครองผู้บริโภคด้านยาในคลินิกเพราะเปิดให้วิชาชีพอื่นขายยาที่ถูกแบ่งประเภทอย่างไม่เป็นสากล, และไม่แก้ปัญหาเรื่องการใช้ยาปฏิชีวนะที่ไม่สมเหตุผลในกระบวนการเลี้ยงสัตว์ ซึ่งทำให้เป็นปัญหา โรคเชื้อดื้อยา ที่สำคัญ, และเปิดช่องให้มีการจดแจ้งเภสัชชีววัตถุทั้งที่เป็นผลิตภัณฑ์ที่ต้องมีการควบคุมคุณภาพอย่างมาก

นางสาวพวงทอง ว่องไว ผู้ประสานงานศูนย์คุ้มครองสิทธิผู้บริโภค มูลนิธิพะเยาเพื่อการพัฒนา เครือข่ายผู้บริโภคภาคเหนือ กล่าวว่า พ.ร.บ.ยา ฉบับนี้ ขาดมาตรการการจัดการกับผู้ประกอบการที่กระทำความผิดซ้ำซาก เช่น การโฆษณาโอ้อวด หลอกลวง เป็นเท็จ ผิดกฎหมาย, ขาดกลไกและอำนาจหน้าที่ที่อนุญาตให้ อย.สามารถตรวจสอบและจัดการโครงการวิจัยทดลองยา ที่จะคุ้มครองอาสาสมัครในการวิจัยฯ หากเกิดความเสียหายหรือผิดพลาดร้ายแรง, ไม่มีมาตรการสนับสนุนการใช้ยาที่สมเหตุสมผล (การแบ่งประเภทยาออกเป็น 4 ประเภท (ตามมาตรา 4) จะส่งเสริมให้เกิดการใช้ยาที่ไม่สมเหตุสมผล เกิดปัญหาการใช้ยาเกินความจำเป็น เอื้อประโยชน์ต่อธุรกิจยาทั้งในปัจจุบันและอนาคต), และทำให้เกิดการเข้าไม่ถึงยาจำเป็นเพราะราคาแพงเนื่องจากไม่มีช้อกำหนดที่จะต้องยื่นโครงสร้างราคาเมื่อขอขึ้นทะเบียนยา กับ ไม่มีคณะกรรมการยาที่มีอำนาจหน้าที่กำกับหรือควบคุม หรือออกมาตรการควบคุมราคายาได้ (ในขณะที่กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ดำเนินการได้เพียงห้ามจำหน่ายเกินราคาในฉลากข้างกล่อง รวมทั้งยังสามารถติดราคาข้างกล่องเท่าใดก็ได้)

นางสาวสุภาวดี วิเวก ผู้ประสานงานเครือข่ายผู้บริโภคภาคตะวันออก กล่าวว่า เครือข่ายผู้บริโภคมีข้อเสนอแก่ อย. ในการแก้ไข พ.ร.บ.ยา คือ ต้อง กำหนดให้มีกลไกเพิกถอนทะเบียนตำรับยาที่เป็นอันตรายโดยอัตโนมัติ เมื่อมีการเพิกถอนทะเบียนตำรับยาในต่างประเทศหรือในบริษัทแม่, กำหนดให้ต้องมีเภสัชกรประจำอยู่ที่ร้านตลอดเวลาเปิดทำการ, การโฆษณายาจะต้องขออนุญาตจาก อย.ก่อน ซึ่งรวมถึงโฆษณาทางอินเตอร์เน็ตและ social media ต่างๆ หากพบว่าไม่ได้รับอนุญาต หรือทำผิดจากที่ได้รับอนุญาต ต้องถูกเพิกถอนทันที, ห้ามไม่ให้มีการโฆษณาและการส่งเสริมการขายที่กระทำผ่านผู้ประกอบวิชาชีพ ไม่ว่าในรูปแบบใดๆ, แก้ไขให้ทะเบียนตำรับยามีอายุ 5 ปีและต้องทบทวนทะเบียนตำรับยาก่อนต่ออายุ, อีกทั้งกำหนดให้การแบ่งประเภทยาเป็นไปตามหลักสากล (Prescription Only Medicines, Pharmacy Only Medicines และ Over-the-counter Medicines) และให้คงวิชาชีพที่จะจ่ายยาได้มีเพียงแพทย์ ทันตแพทย์ และสัตวแพทย์เหมือนเดิม

นางสาวสถาพร อารักษ์วทนะ นักวิชาการ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค กล่าวว่า พ.ร.บ.ยาที่แก้ไขนี้จะต้อง กำหนดให้การผลิตหรือผสมยาที่ใช้รักษาสัตว์ทั้งฟาร์มจะต้องได้รับอนุญาตจาก อย.ก่อน, กำหนดให้มีการขออนุญาตสำหรับการผลิตและการนำเข้าเภสัชชีววัตถุ, ต้องกำหนดโทษทางปกครอง เพื่อระงับเหตุที่กระทำผิดเพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภค, กำหนดให้ อย.มีอำนาจหน้าที่ในการกำกับดูแลและตรวจสอบโครงการวิจัยทดลองยาในมนุษย์ เพื่อคุ้มครองอาสาสมัครที่เข้าร่วมงานวิจัย, กำหนดให้การแบ่งประเภทยาเป็นไปตามหลักสากล และให้คงวิชาชีพที่จะจ่ายยาได้มีเพียงแพทย์ ทันตแพทย์ และสัตวแพทย์เหมือนเดิม, กำหนดให้ต้องยื่นโครงสร้างราคายาเมื่อขอขึ้นทะเบียนตำรับยา ตลอดจนกำหนดให้คณะกรรมการยามีอำนาจในการออกมาตรการควบคุมราคายา ทั้งนี้เพื่อประโยชน์ในการคุ้มครองผู้บริโภคและเพิ่มการเข้าถึงยาจำเป็นของประชาชน

นางสาวบุญยืน ศิริธรรม นายกสมาคมสหพันธ์องค์กรผู้บริโภค กล่าวว่า เรารู้มาว่า อย.กำลังจะเอา พ.ร.บ.ยาฉบับแก้ไขนี้เข้าสู่การพิจารณาของ ครม. จึงขอเตือน อย.ว่า อย่าเพิ่งเอาเข้า ครม. จนกว่าจะมีการแก้ไขให้มีสาระตามที่พวกเราได้เสนอไป ไม่เช่นนั้นจะถือว่า แก้ไขกฎหมายไม่คุ้มครองผู้บริโภค”

เอกสารประกอบ