“อดีตนายกอานันท์” เชิญชวนร่วมทำบุญทอดผ้าป่า หนุนตั้งกองทุนภาคประชาสังคม 1 ก.ค.นี้ ชี้ภาคประชาสังคมที่เข้มแข็งคือกลไกสำคัญพัฒนาชาติ ปิดจุดอ่อน ลดช่องว่างที่รัฐเอื้อมไม่ถึง

นายอานันท์ ปันยารชุน

เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2561 นายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกิตติมศักดิ์ฝ่ายฆราวาสกล่าวถึงวัตถุประสงค์ของการจัดงานทอดผ้าป่าสามัคคี เพื่อระดมทุนเข้ากองทุนภาคประชาสังคม ส่งเสริมชุมชนสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนว่า วันอาทิตย์ที่ 1 กรกฎาคม 2561 เวลา 10.00 น.ขอเชิญชวนทุกท่านร่วมบุญทอดผ้าป่าสามัคคีที่วัดยานนาวา กรุงเทพมหานคร ด้วยวัตถุประสงค์สำคัญ คือการสร้างพลังพลเมือง ผ่านการสนับสนุนกว่า 200 โครงการทั่วประเทศ เพื่อเป็นทุนพัฒนาอาชีพ พัฒนาเด็ก ทำงานด้านการศึกษา ตลอดจนการเฝ้าระวังติดตามปัญหาคอรัปชั่น และการแก้ปัญหาผลกระทบจากการพัฒนาของรัฐ สิ่งสำคัญกว่านั้นคือการสร้างพลเมืองรุ่นใหม่ที่มีความตื่นตัว สนใจ และพร้อมมีส่วนร่วมแก้ปัญหาสังคม และกลายเป็นผู้มีจิตสาธารณะมากขึ้น

“การทอดผ้าป่าฯ ครั้งนี้ เป็นจุดเริ่มต้นที่จะทำให้ขบวนการภาคประชาสังคมเติบโต และเป็นประกายแห่งความหวังพัฒนาสังคม ด้วยมือของทุกคนที่ร่วมลงแรงลงทุนไปด้วยกัน เป็นการร่วมสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการพัฒนาทรัพยากรรุ่นหลังของประเทศชาติ และโอกาสที่ทัดเทียมกันแก่ทุกภาคส่วน ทุกกลุ่ม ทุกศาสนา และทุกพื้นที่ในสังคม ได้มีส่วนร่วมกำหนดทิศทางพัฒนาประเทศ ให้ทุกคนมีความรู้สึกเป็นเจ้าของประเทศ ยอมรับความหลากหลายในสังคม” นายอานันท์ กล่าว

นายอานันท์ กล่าวด้วยว่า การบริหารจัดการและพัฒนาประเทศชาติทุกวันนี้ แม้รัฐจะมีข้อมูลและอำนาจที่กว้างขวาง แต่ก็ไม่สามารถจัดการและรับรู้ได้ทุกเรื่อง โดยเฉพาะกับสังคมไทยที่ทวีความสลับซับซ้อนมากขึ้น การปรับตัวให้สอดรับกับการเปลี่ยนแปลง จึงไม่สามารถฝากความหวังไว้ที่รัฐราชการได้เพียงลำพังอีกต่อไป การมีภาคประชาชนที่ลุกขึ้นมาช่วยปิดช่องว่าง ปิดจุดอ่อนที่เกิดขึ้นจากการทำงานของภาครัฐซึ่งเอื้อมไม่ถึง จึงเป็นสิ่งจำเป็นและทั่วโลกกำลังเดินไปในทิศทางนี้

ภาคประชาสังคมที่เข้มแข็ง เป็นองค์ประกอบพื้นฐานของระบอบประชาธิปไตยที่แข็งแรง เป็นปัจจัยสำคัญที่จะสร้างให้มีรัฐบาลที่มีความรับผิดชอบ และปกป้องสังคมจากการใช้อำนาจที่มากเกินไปของฝ่ายบริหารและเอกชนที่เอาเปรียบสังคม หรือสร้างปัญหาให้ส่วนรวมหัวใจสำคัญอยู่ที่การมีส่วนร่วมของพลเมืองทุกคน ในการรวมกลุ่มและพัฒนาสังคม พัฒนาคุณภาพชีวิต และสร้างพลเมืองที่เข้มแข็ง ยังถือเป็นการช่วยลดภาระให้กับรัฐบาลส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และท้องถิ่นด้วย

“การมีภาคประชาสังคมที่เข้มแข็ง ประชาธิปไตยก็จะมีพลัง เปิดโอกาสให้ความหลากหลายของเรารวมพลังในการร่วมพัฒนาสังคมไปสู่ความยั่งยืนที่แท้จริง ผมมีความเชื่อมั่นอย่างจริงใจ ถึงพลังของคนไทยและพื้นฐานความดีในจิตใจของพลเมืองชาวไทยทุกคน” นายอานันท์ กล่าวทิ้งท้าย