เครือข่ายเยาวชนร้อง ป.ป.ท.สอบ จนท.รัฐ เอี่ยวผับบาร์ทำผิดกฎหมาย หลังฝ่ายปกครองตรวจจับผับนอกรีตขอนแก่น พบเด็กนับร้อยใช้บริการ และทำผิดกฎหมายอื้อ เชื่อ จนท.บางกลุ่มหนุนหลัง ทำให้กล้าท้าทายกฎหมาย ขณะที่ ป.ป.ท.พร้อมรวบรวมพยานหลักฐานเอาผิด
เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2561 ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) นายธีรภัทร์ คหะวงศ์ ผู้ประสานงานเครือข่ายเยาวชนป้องกันนักดื่มหน้าใหม่ พร้อมด้วย เครือข่ายเฝ้าระวังธุรกิจสุรา เครือข่ายมหาวิทยาลัยปลอดเหล้าและแกนนำเยาวชนจากหลายสถาบัน กว่า 30 คน เข้ายื่นจดหมายเปิดผนึกถึง พันโทกรทิพย์ ดาโรจน์ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ผ่านทาง พ.ต.ท.งามพล บุญลิ้มเต็ง ผู้อำนวยการกองบริหารคดี ป.ป.ท.ให้ตรวจสอบพฤติกรรมเจ้าหน้าที่รัฐ ที่อาจเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดกฎหมายของสถานบันเทิง หลังชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง ร่วมกับกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน เข้าตรวจสอบผับ “บ้านกรู” ซึ่งตั้งอยู่ถนนหน้าเมือง เขตเทศบาลนครขอนแก่น เมื่อกลางดึกของวันที่ 12 พ.ค.ที่ผ่านมา พบว่ามีการทำผิดกฎหมาย ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่ท้าทายต่อกฎหมายบ้านเมืองอย่างมาก จึงเชื่อว่าอาจมีเจ้าหน้าที่รัฐบางกลุ่มหนุนหลังอยู่
นายธีรภัทร์ กล่าวว่า จากกรณีที่ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง ร่วมกับกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ภายใต้ศูนย์อำนวยการประสานกำกับติดตามผลการดำเนินงานตามคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 22/2558 เข้าตรวจสอบผับ “บ้านกรู” ซึ่งตั้งอยู่ถนนหน้าเมือง เขตเทศบาลนครขอนแก่น จ.ขอนแก่น เมื่อกลางดึกของวันที่ 12 พ.ค.ที่ผ่านมา พบว่ามีเยาวชนเข้าใช้บริการจำนวนมากและพบการกระทำผิดกฎหมายหลายข้อหา ทั้งการปล่อยให้เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี เข้าไปใช้บริการเป็นประจำ จนเป็นที่รู้กันทั่วไป นอกจากนี้ยังมีการขายสุราให้กับเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี ขายเหล้าเกินเวลาที่กฎหมายกำหนด และเปิดสถานบริการจนถึงตี 4 ตี5 เกือบทุกวัน รวมถึงพบว่าการ์ดของร้านพกปืนขนาด 9 ม.ม. บรรจุกระสุนสภาพพร้อมใช้ จำนวน 3 กระบอก ด้วย
“การทำผิดกฎหมายของสถานบันเทิงแห่งนี้ ที่ปล่อยให้เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี จำนวนมาก เข้าไปใช้บริการเป็นประจำ จนเป็นที่รู้กันทั่วไปการเปิดบริการจนถึงตี 4 ตี 5 เกือบทุกวันรวมถึงการพกพาอาวุธปืนของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เป็นพฤติกรรมที่ท้าทายต่อกฎหมายบ้านเมืองอย่างร้ายแรง ซึ่งเครือข่ายฯเกรงว่าอาจมีเจ้าหน้าที่รัฐบางกลุ่มเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องจึงขอให้ป.ป.ท.เร่งตรวจสอบในเรื่องดังกล่าว เพื่อสร้างบรรทัดฐานที่ถูกต้อง หยุดพฤติกรรมเจ้าหน้าที่รัฐมีเอี่ยวผับบาร์ผิดกฎหมาย” นายธีรภัทร์ กล่าว
ด้านนายวันชัย พูลช่วย เลขานุการเครือข่ายเฝ้าระวังธุรกิจสุรา กล่าวว่า เชื่อว่าเหตุการณ์ลักษณะนี้ยังมีอยู่ในหลายจังหวัด โดยเฉพาะพื้นที่ใกล้สถานศึกษา จึงอยากเห็นหน่วยงานรัฐใช้สั่ง คสช. 22/2558 ให้เป็นประโยชน์ ที่สำคัญในคำสั่งนี้หากพบเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้อง ก็กำหนดบทลงโทษไว้สูงขึ้นกว่าปกติ เครือข่ายไม่อยากเห็นกฎหมายเป็นแค่เสือกระดาษเพราะเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าไปมีเอี่ยวกับผลประโยชน์ทางธุรกิจที่หากินกับลูกหลาน เครือข่ายเยาวชนฯ และภาคีขอแสดงจุดยืนและข้อเสนอ ต่อ ป.ป.ท.ในฐานะองค์กรด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ เพื่อนำไปพิจารณา ดังนี้
1.ขอให้ ป.ป.ท.ตรวจสอบกรณีตามที่ปรากฎเป็นข่าวว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐมีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ หากพบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐมีส่วนเกี่ยวข้องกับการตั้งอยู่ของร้านในฐานะเจ้าของ หุ้นส่วน ผู้ดูแล ฯลฯ หรือหากพบว่าเจ้าหน้าที่รัฐพื้นที่ปล่อยปละละเลยให้สถานบันเทิงต่างๆ กระทำการฝ่าฝืนกฎหมายอย่างร้ายแรงในลักษณะนี้ ขอให้ดำเนินการตามกฎหมายกับเจ้าหน้าที่ผู้นั้นอย่างเฉียบขาดและรวดเร็วเพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่าง
2.ขอให้ ป.ป.ท.เปิดและประชาสัมพันธ์ช่องทางการร้องเรียนที่สามารถเข้าถึงได้โดยง่าย เพื่อให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมในการแจ้งข้อมูลข่าวสาร ปัญหาสถานบันเทิงที่ทำผิดกฎหมายโดยเฉพาะประเด็นที่เกี่ยวกับเด็กและเยาวชน
และ 3.ขอเรียกร้องให้ทุกหน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ในทุกพื้นที่ เอาจริงเอาจังกับการบังคับใช้กฎหมายตามคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 22/58 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด และขอให้ประชาชนช่วยกันเฝ้าระวังการกระทำผิดกฎหมายของสถานบันเทิงเพื่อแจ้งข่าวสารให้กับเจ้าหน้าที่ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่พบว่ามีเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง
ขณะที่ พ.ต.ท.งามพล บุญลิ้มเต็ง ผู้อำนวยการกองบริหารคดี ป.ป.ท. กล่าวภายหลังรับหนังสือว่า สำหรับขั้นตอนกระบวนการรับเรื่องแล้วจะตรวจสอบข้อเท็จจริง และรวบรวมพยานหลักฐาน หากพบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้องจริง ก็จะเสนอคณะกรรมการ ป.ป.ท.ให้มีมติตั้งกรรมการไต่สวนต่อไป
- 73 views