กระทรวงสาธารณสุข ให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด เร่งให้ความรู้เรื่องการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าในคน ลดความวิตกกังวลประชาชน ชี้การฉีดวัคซีนป้องกันล่วงหน้าจำเป็นเฉพาะกลุ่มเสี่ยง และหากถูกสัตว์กัดก็ต้องฉีดซ้ำ ย้ำมีวัคซีนเพียงพอ
นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์
เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2561 ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังประชุมวิดีโอทางไกลนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ กรณีวัคซีนพิษสุนัขบ้าในคน ว่า ในช่วงที่ผ่านมามีข่าวการระบาดของพิษสุนัขบ้าในสัตว์ ทำให้ประชาชนมีความวิตกกังวล มาขอรับการฉีดวัคซีนเพิ่มมากกว่าปกติ 1.6 เท่าในช่วงเดือนมกราคม–มีนาคม 2561 และลดลงในเดือนเมษายน 2561 รวมทั้งต้องการฉีดวัคซีนป้องกันล่วงหน้า ทำให้มีข่าวการขาดแคลนวัคซีนในคนตามมา
จึงขอให้ทุกจังหวัด เร่งทำความเข้าใจกับประชาชนว่าการฉีดวัคซีนพิษสุนัขบ้าล่วงหน้าในกลุ่มคนทั่วไปไม่มีความจำเป็น เพราะหากถูกสัตว์กัดก็ต้องฉีดวัคซีนพิษสุนัขบ้าอีก ซึ่งการฉีดวัคซีนโรคพิษสุนัขบ้าในคนขอให้เป็นไปตามแนวเวชปฏิบัติ คือจะฉีดวัคซีนเมื่อถูกสัตว์ที่สงสัยว่าเป็นโรคพิษสุนัขบ้ากัด และจะฉีดวัคซีนป้องกันล่วงหน้าในกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง เช่น สัตวแพทย์ ผู้ที่ต้องคลุกคลีกับสัตว์ ฟาร์มสัตว์เลี้ยงเช่น สุนัข แมว เป็นต้น
นพ.โอภาส กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ดี ขอให้ประชาชนอย่าวิตกกังวล ภาพรวมของประเทศไทยมีวัคซีนอย่างเพียงพอ กระทรวงสาธารณสุขได้ประสานให้ผู้ผลิตการนำเข้าวัคซีนเพิ่มจากเดิมปีละ 3 ล้านโด๊ส เป็น 4.5 ล้านโด๊ส และยังได้สำรองวัคซีนสำหรับกรณีฉุกเฉินไว้ที่ส่วนกลางที่กรมควบคุมโรค 100,000 โด๊ส และองค์การเภสัชกรรมสำรองไว้อีก 30,000 โด๊ส ส่วนการจัดหาวัคซีนในสถานบริการสาธารณสุขนั้นโรงพยาบาลสามารถดำเนินการจัดซื้อเอง ขณะเดียวกันกระทรวงสาธารณสุขและสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติจะได้ทำการปรึกษาหารือร่วมกันเพื่อหาแนวทางมาบริหารจัดการวัคซีนที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ซึ่งองค์การอนามัยโลกมีผู้ผลิตวัคซีนที่ได้มาตรฐานในหลายประเทศและเพียงพอต่อความต้องการ โดยทั่วโลกไม่มีความต้องการฉีดวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้าในคนเพิ่มขึ้น ทำให้แหล่งผลิตมีเพียงพอ ซึ่งระบบการบริหารจัดการในภาพรวม คือในเขตสุขภาพที่ไม่มีการระบาดของสัตว์ให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเป็นผู้ดูแล ส่วนเขตสุขภาพที่มีการระบาดของสัตว์ ให้เขตสุขภาพเป็นผู้ดูแลบริหารจัดการกระจายวัคซีนให้เพียงพอ
ทั้งนี้การระบาดของโรคพิษสุนัขบ้าในสัตว์ไม่ได้ระบาดทั่วประเทศไทย พบในภาคตะวันออกเฉียงเหนือเขต 7,9,10 และภาคใต้เขต 12 ส่วนเขตอื่นพบการระบาดน้อยมากจนถึงไม่มีการระบาดในสัตว์ ทำให้การฉีดวัคซีนในคนน้อย 2 ปีที่ผ่านมาจังหวัดชลบุรี ระยอง ที่อยู่ในเขตสุขภาพที่ 6 พบผู้ป่วยโรคพิษสุนัขบ้าปีละเกือบ 10 ราย แต่ในปีนี้ไม่พบผู้ป่วยโรคพิษสุนัขบ้า เนื่องจากมีมาตรการเชิงรุกให้ความรู้ประชาชนให้มารับวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าหลังจากถูกสุนัข แมว กัดหรือข่วน และให้เจ้าหน้าที่ติดตามผู้ป่วยหากผู้ป่วยให้รับวัคซีนกระตุ้นจนครบ ซึ่งในปีนี้มีการฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้นจากทุกปีแต่วัคซีนในแต่ละสถานพยาบาลไม่ขาดเพราะมีการบริการจัดการวัคซีนที่ดี มีการตรวจสอบวัคซีนทุกสัปดาห์
“ทั้งนี้ได้ให้สถานพยาบาลทุกแห่งตรวจสอบวัคซีนทุกสัปดาห์ สถานพยาบาลใดที่มีปัญหาขาดวัคซีน ให้ประสานสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด หรือแจ้งมายังกองสาธารณสุขฉุกเฉิน สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข สำนักโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค เพื่อให้การสนับสนุนต่อไป หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422” นพ.โอภาสกล่าว
- 191 views