อย.จับมือกรมประมง แจงเรื่องปลานำเข้าจากจังหวัดฟุกุชิมะประเทศญี่ปุ่นมีการนำเข้าอย่างถูกต้องเป็นไปตามข้อกำหนดประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่องมาตรฐานอาหารที่ปนเปื้อนสารกัมมันตรังสี ขอผู้บริโภคอย่าวิตกกังวลเกี่ยวกับความไม่ปลอดภัย เพราะการนำเข้าปลาจากทุกประเทศ เจ้าหน้าที่ด่านประมงมีการตรวจสอบอย่างเข้มงวดรวมทั้ง อย.ยังทำหน้าที่เฝ้าระวังตรวจสอบมิให้มีผลิตภัณฑ์ที่ไม่ปลอดภัยต่อผู้บริโภคในประเทศอย่างเข้มงวด แต่หากพบการปนเปื้อนที่เป็นอันตรายก็จะสั่งเรียกคืนหรือระงับการนำเข้าทันที

เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2561 นพ.วันชัย สัตยาวุฒิพงศ์ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) พร้อมด้วย นางอุมาพร พิมลบุตร รองอธิบดีกรมประมง ร่วมกันแถลงข่าวกรณีสื่อญี่ปุ่นรายงานข่าวว่าประเทศไทยได้นำเข้าปลาจากจังหวัดฟุกุชิมะ ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เกิดปัญหาโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ระเบิดเมื่อปี 2554 และปัจจุบันมีการนำเข้าเนื้อปลามาขายที่ร้านอาหารญี่ปุ่นในไทย นั้น

นพ.วันชัย กล่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และกรมประมง ขอชี้แจงข้อมูลให้ประชาชนทราบว่า อย.ได้ร่วมมือกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในการตรวจสอบการนำเข้าสินค้าอาหาร โดย อย.ได้ถ่ายโอนภารกิจการตรวจสอบการนำเข้าสินค้าเกษตรที่ยังไม่แปรรูปให้กระทรวงเกษตรฯ ได้แก่ สินค้าประมง เนื้อสัตว์ ปศุสัตว์ อาหารทะเล ถั่วธัญพืช เครื่องเทศ มีผลตั้งแต่วันที่ 15 พฤษภาคม 2559 ที่ผ่านมา โดยมาตรการควบคุมอาหารที่ปนเปื้อนกัมมันตภาพรังสีมี 2 มาตรการ ได้แก่

1.การกำหนดปริมาณการปนเปื้อนกัมมันตรังสี โดยมีประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง มาตรฐานอาหารที่ปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีกำหนดให้ปนเปื้อนได้ไม่เกิน ไอโอดีน – 131 ไม่เกิน 100 เบคเคอเรลต่อกิโลกรัม หรือ เบคเคอเรลต่อลิตร, ซีเซียม – 134 และ ซีเซียม – 137 รวมกันไม่เกิน 500 เบคเคอเรลต่อกิโลกรัม หรือ เบคเคอเรลต่อลิตร

2.การกำหนดชนิดอาหารและพื้นที่เสี่ยงในการนำเข้าจะต้องมีหลักฐานในการระบุประเภทปริมาณอาหารจากประเทศต้นทางแสดงที่ด่านนำเข้าทุกครั้ง

อย.ได้มีการประสานอย่างใกล้ชิดกับกระทรวงสาธารณสุขของประเทศญี่ปุ่นโดยผ่านสถานทูตญี่ปุ่นในประเทศไทย ซึ่งสถานทูตญี่ปุ่นได้แจ้งให้ทราบว่าประเทศญี่ปุ่นมีมาตรการจัดการกับสินค้าที่ตรวจพบการปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีอย่างเข้มงวด โดยหากตรวจพบอาหารที่ปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีเกินมาตรฐานอาหารจากพื้นที่นั้นจะถูกควบคุมและทำลายโดยทันที เพื่อป้องกันไม่ให้มีการกระจายสินค้าไปสู่ตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ

ทั้งนี้ อย.ได้ตรวจสอบผลการเฝ้าระวังในปี พ.ศ. 2560 ซึ่งดำเนินการโดยกระทรวงสาธารณสุขญี่ปุ่นมีการเก็บตัวอย่างปลาและผลิตภัณฑ์ประมงจากเมืองฟูกุชิมะ จำนวน 7,408 ตัวอย่าง พบการปนเปื้อนเกินเกณฑ์ 8 ตัวอย่าง เป็นปลา Whitespotted char 4 ตัวอย่าง และ Cherry salmon 4 ตัวอย่าง ส่วนปลานำเข้าเป็นปลากลุ่มปลาตาเดียวไม่ใช่ปลาที่มีปัญหาดังกล่าว

ผลการตรวจเฝ้าระวังที่ดำเนินการโดย อย.ในกรณีผลิตภัณฑ์ประมงที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2554 ไม่พบการปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีเกินมาตรฐานแต่อย่างใด และทางกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้มีการสุ่มตรวจสารกัมมันตรังสีในผลิตภัณฑ์อาหารที่มีโอกาสปนเปื้อนทั้งในประเทศและนำเข้าจากต่างประเทศ ช่วงเดือนมีนาคม – เมษายน 2559 ไม่พบการปนเปื้อนสารซีเซียม – 137 เช่นกัน

ด้านนางอุมาพร พิมลบุตร รองอธิบดีกรมประมง กล่าวว่า เพื่อตรวจสอบความปลอดภัยของปลานำเข้า กระทรวงเกษตรฯ ได้ประชุมหารือร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขกำหนดมาตรการในการกำกับดูแล ตรวจสอบ ให้ผู้บริโภคเกิดความมั่นใจ และเชื่อมั่นในระบบตรวจสอบสินค้าเกษตรและอาหารที่มีการนำเข้าจากต่างประเทศ ซึ่งกระทรวงเกษตรฯ มุ่งเน้นที่จะยกระดับความปลอดภัยของสินค้าเกษตรและอาหารอย่างต่อเนื่อง

เลขาธิการ อย. กล่าวในตอนท้ายว่า อย.ร่วมกับกระทรวงเกษตรดำเนินการเฝ้าระวังอาหารที่นำเข้าอย่างเข้มงวดซึ่งหากพบการปนเปื้อน อย.จะใช้มาตรการส่งคืนหรือทำลายทันที ขอให้ประชาชนวางใจในการดำเนินงานของ อย. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขอให้รับฟังข้อมูลข่าวสารให้รอบด้าน อย. จะเฝ้าระวังและติดตามข้อมูลจากทั้งในและต่างประเทศ หากพบผลิตภัณฑ์อาหารใดที่เป็นอันตราย และประชาสัมพันธ์ข้อมูลให้ประชาชนทราบทันที หากผู้บริโภคพบผลิตภัณฑ์อาหารใดสงสัยว่าจะเป็นอันตราย สามารถแจ้งร้องเรียนได้ที่ สายด่วน อย. 1556 หรือผ่าน Oryor Smart Application หรือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทุกจังหวัด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

จี้ อย.เปิดชื่อ 12 ร้านรับปลาฟุกิชิมะมาจำหน่าย ยันต้องตรวจซ้ำอีกครั้ง