รพ.เมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง) กรมการแพทย์ คว้ารางวัลชนะเลิศจากการประกวดผลงานภาพถ่ายทางจักษุวิทยาที่ใหญ่ที่สุดในโลก ในงานประชุมจักษุแพทย์ 2017 ณ ประเทศสหรัฐอเมริกา

นพ.ปานเนตร ปางพุฒิพงศ์ รองอธิบดีทางการแพทย์ กล่าวว่า โรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์(วัดไร่ขิง) มีภารกิจสำคัญในการศึกษา วิจัยพัฒนาและถ่ายทอดรวมทั้งสร้างผลงานวิชาการและนวัตกรรมทางการแพทย์ด้านจักษุวิทยาในระดับเชี่ยวชาญ ตลอดจนให้บริการที่มีคุณภาพแก่ประชาชน ซึ่ง 1 ในเป้าหมายสำคัญของการพัฒนาที่จะก่อให้เกิดประสิทธิภาพ คือ การสนับสนุนและพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ด้านจักษุวิทยาในระดับเชี่ยวชาญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งทักษะด้านเทคโนโลยีการถ่ายภาพจักษุ ซึ่งเป็นศาสตร์แขนงหนึ่งทางการแพทย์ที่ชี้ให้เห็นถึงความก้าวหน้าและศักยภาพด้านการแพทย์

โรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง) เล็งเห็นความสำคัญดังกล่าว จึงได้ส่งบุคลากรเข้ารับการอบรมการถ่ายภาพด้านจักษุวิทยาที่ประเทศสหรัฐอเมริกา พร้อมทั้งศึกษาดูงาน ณ The Yale Eye Center in New Haven, มลรัฐคอนเนตทิคัต ประเทศสหรัฐอเมริกา ทั้งนี้ รพ.เมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง) ได้ต่อยอดนำองค์ความรู้มาถ่ายทอดโดยเปิดการเรียนการสอนหลักสูตรเครื่องมือพิเศษทางจักษุ (Ophthalmic technicians) ให้แก่บุคลากรทางการแพทย์ ปัจจุบัน มีบุคลากรที่ผ่านการอบรมกว่า 10 รุ่น

นายนิพันธ์ ยอดมณี

ล่าสุดนายนิพันธ์ ยอดมณี นักวิชาการโสตทัศนศึกษา ศูนย์การแพทย์เฉพาะทางด้านจักษุวิทยา โรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง) ได้รับรางวัลที่ 1 First Place Monochromatic Photography The Worm in Vitreous, New Orleans, Louisiana USA และรางวัลที่ 3 Third Place Composite Retinal Detachment, New Orleans, Louisiana USA จากการส่งผลงานภาพถ่ายจักษุเข้าประกวดในงานประชุมจักษุแพทย์ ณ เมืองนิวออร์ลีนมลรัฐหลุยส์เซียน่า ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยรางวัลดังกล่าวเป็นการประกวดภาพถ่ายทางการแพทย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกจากสมาคม Ophthalmic photographer society ซึ่งเป็นสมาคมที่รวบรวมผู้ใช้เครื่องมือจักษุวิทยาที่ใหญ่ที่สุดและมากที่สุดในโลก

ด้าน พญ.สายจินต์ อิสีประดิฐ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง) กล่าวถึงความภาคภูมิใจที่บุคลากรของโรงพยาบาลได้รับรางวัลระดับโลก ว่า รางวัลที่ได้รับเป็นการบ่งบอกมาตรฐานด้านจักษุวิทยาว่าประเทศไทยมีศักยภาพ ครบวงจร ทั้งเทคโนโลยีที่ทันสมัย ปลอดภัย ระบบบริการผู้ป่วยที่รวดเร็ว และสิ่งสำคัญนอกเหนือทางการรักษาแล้วคือ การสร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทยเป็นอันดับต้นๆ ของโลกด้านจักษุวิทยา พร้อมทั้งเป็นตัวอย่างให้แก่คนรุ่นหลัง ได้มีแรงผลักดันในการทำงานสามารถวางแผนการดำเนินงานเครื่องมือ รู้จักใช้สิ่งที่มีอยู่ปรับเข้ากับโรค ใช้ประโยชน์เครื่องมือที่มีให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดต่อประชาชน ได้รับการตรวจวิเคราะห์ด้วยเครื่องมือพิเศษทางจักษุอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อการวินิจฉัยโรคอย่างแม่นยำถูกต้องที่สุด