ชายคนนี้ประสบอุบัติเหตุรถจักรยานยนตร์ล้มแล้วไปฉีดยาทำแผลที่อนามัย (รพ.สต.) โดน รพ.สต.เรียกเก็บเงินไป 350 บาท เขาพยายามบอกว่าเขามีบัตรทองต้องจ่ายด้วยเหรอ รพ.สต.อธิบายว่ากรณีรถล้มไม่สามารถให้สิทธิ์บัตรทอง 30 บาทได้ สรุปว่าเขาต้องจ่ายเงินค่ารักษาพยาบาลเอง เขามีเงินอยู่ 150 บาทจึงขอต่อรองและจ่ายเงินไปเพียง 100 บาท

วันรุ่งขึ้นเขากลับมามาล้างแผลที่อนามัยเดิมวันนี้เขาโดนเรียกเก็บเงินพร้อมกับจำนวนเงินที่ค้างของเมื่อวาน เขาไม่มีเงินจ่ายเจ้าหน้าที่แจ้งว่าอุบัติเหตุรถล้มต้องจ่ายเงินเองแล้วนำใบเสร็จไปเบิกกับประกันรถ (พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ (แก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่ 5) พ.ศ.2551) หรือไม่ก็นำหลักฐาน พ.ร.บ.มายื่นให้ครบ เขาแจ้งว่ารถร้าย (เก่า) ไม่ต่อทะเบียนไม่มี พ.ร.บ.เจ้าหน้าที่ยืนยันคำเดิม สุดท้ายเขาตัดสินใจไม่ไปล้างแผลทำแผลที่อนามัยและกลับมาอยู่บ้าน โรงพยาบาลก็ไม่มาเพราะไม่มีเงินค่าล้างแผลทำแผล ผ่านมา 7 วัน

วันนี้น้องหนูมาเยี่ยมบ้านมาเจอเข้าพอดี (มาเยี่ยมเรื่องอื่นและไม่เคยรู้มาก่อนว่าเขารถล้ม) จากสภาพแผลที่มีหนองไหลเยิ้ม บวมแดง บางตำแหน่งออกจะเป็นม่วงคล้ำ เมื่อน้องหนูเอามือไปแตะๆ พบว่ามีความร้อนมากกว่าบริเวณอื่นๆ ผู้ป่วยเองก็เจ็บปวดทรมาน ตอนนี้จะยืดขาแบบเหยียดตรงไม่ได้ เพราะแผลที่หัวเข่าอักเสบ ทำให้ต้องใช้วิธีการเขยิบกึ่งเดิน กึ่งคลานเพื่อทำกิจวัตรประจำวัน เช่นเข้าห้องน้ำ แม่ต้องนำข้าวปลาอาหารมาให้ผู้ป่วยกินบริเวณที่ผู้ป่วยนอน

จากการประเมินเบื้องต้น นี่คือกรณีที่ต้องจัดการอย่างเร่งด่วน น้องหนูพยายามพูดโน้มน้าวให้ผู้ป่วยมารักษาตัวที่โรงพยาบาลคะยั้นคะยอเท่าไหร่ผู้ป่วยก็ไม่ยอมมา รพ. โดยผู้ป่วยและญาติอ้างเรื่องค่าใช้จ่ายว่าไม่มีเงิน สุดท้ายต้องสัญญากันว่าจะรับผิดชอบดูแลด้านค่ารักษาพยาบาลให้ ผู้ป่วยจึงยอมมา รพ. น้องหนู โทร.1669 ในทันที เพื่อเรียกรถพยาบาลมารับผู้ป่วย

ในที่สุดแพทย์ให้นอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาล ผู้ป่วยได้รับการฉีดยาล้างแผลทำแผลเป็นเวลา 5 วันแพทย์จึงอนุญาตให้กลับบ้าน น้องหนูเข้ามาเยี่ยมผู้ป่วยในหอผู้ป่วยผู้ป่วยพูดออกมาว่า "ผมเกลียดหมอหนูที่สุด เพราะหมอหนูให้ผมมานอน รพ.ให้ผมต้องอายพยาบาลเรื่องไม่มีเงินค่ายา แต่ผมก็รักหมอหนูที่สุดที่ทำให้ผมได้รับการดูแลอย่างดี แผลจะหายแล้ว ไม่ปวดแล้ว เดินได้แล้ว "สิ้นสุดคำพูดเขารวบมือน้องหนูไว้ในกำมือของเขาพร้อมกับยกมือเทินศีรษะและก้มตัวต่ำในลักษณะกราบ เล่นเอาน้องหนูก้มนั่งรับไหว้แทบไม่ทันพลันน้ำตาลูกผู้ชายอย่างเขาก็รินไหล "ไม่เป็นไรค่ะ ไม่ต้องไหว้นะคะ" น้ำตาน้องหนูก็ไหลเช่นกันเรามีโอกาสได้เจอกันอีกครั้งเมื่อไม่นานมานี้ ผู้ป่วยยิ้มและเข้ามาทักทายน้องหนู พร้อมลอกกางเกงโชว์บาดแผลที่เหลือเพียงร่องรอยแผลเป็นเท่านั้นให้น้องหนูดู พร้อมกับขอบคุณอีกครั้งอย่างจริงใจ

.....บทเรียนเรื่องนี้

1.ยังมีชาวบ้านอีกกี่คนที่ต้องปล่อยให้แผลหายเองหรือติดเชื้อมากกว่าเดิม จากการที่รถไม่มี พ.ร.บ.และเจ้าของรถร้าย (เก่า) ไม่มีเงิน....คิด คิด คิด

2. สรุป พ.ร.บ.รถน่าจะทำแบบครั้งเดียวใช้ได้ตลอดอายุการใช้งานของรถ คือจะคิดกี่บาทก็บวกเพิ่มไปกับรถเลย และต้องครอบคลุมกรณีไม่มีใบขับขี่ก็น่าจะคุ้มครองนะคะ (เพ้อฝันไปเอง)

3. เรื่องของสุขภาพมาก่อนเรื่องเงินค่ารักษาพยาบาล ไม่มีเงินก็มารับบริการที่ รพ.รัฐ เลยนะคะ แล้วแจ้งเจ้าหน้าที่ว่าไม่มีเงิน อย่างไรเขาก็ให้บริการนะคะ

เล่าเรื่องโดย เภสัชกรพัชรมณฑน์ พัชรยุทธิ (น้องหนู) เภสัชกรชำนาญการ รพ.เขาชัยสน พัทลุง