สธ.เผยปัญหาเบิกเงินบัตรทอง รพ.ชัยภูมิไม่พบทุจริต ส่วน รพ.สตึกรอผลสอบข้อเท็จจริง

กระทรวงสาธารณสุข เผยปัญหาการเบิกจ่ายเงินโรงพยาบาล 2 แห่ง ได้ตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงก่อนที่ สตง.เข้ามาดำเนินการ โดย รพ.ชัยภูมิ ผลตรวจสอบของคณะกรรมการจังหวัดและสำนักตรวจสอบพิเศษภาค 4 ไม่พบการทุจริต ไม่มีเงินสูญหาย ส่วน รพ.สตึก รอผลการสอบสวนข้อเท็จจริงของคณะกรรมการจังหวัดบุรีรัมย์ให้ครบถ้วน ยืนยันให้ความเป็นธรรมแก่ผู้ถูกกล่าวหา หากพบการทุจริตดำเนินการตามระเบียบต่อไป

เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2560 นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า กรณีพบปัญหาการเบิกจ่ายเงินโรงพยาบาลในสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข 2 แห่ง คือ โรงพยาบาลชัยภูมิ และโรงพยาบาลสตึก จังหวัดบุรีรัมย์ นั้น กระทรวงสาธารณสุขได้รับทราบเรื่องนี้มาก่อนแล้ว ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้ย้ำให้ดำเนินการตรงไปตรงมา เพื่อให้ความเป็นธรรมกับผู้ถูกกล่าวหา แต่หากพบการทุจริตให้ดำเนินการตามระเบียบ ซึ่งทั้ง 2 กรณีทางกระทรวงสธารณสุข ได้ตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงก่อนที่ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เข้ามาดำเนินการ

นพ.สมศักดิ์ กล่าวต่อว่า กรณีโรงพยาบาลชัยภูมิ ในวันนี้ ได้รับรายงานผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีเอกสารการเบิกจ่ายเงินสูญหายว่า เกิดขึ้นขณะ รพ.ก่อสร้างอาคารหลังใหม่ พ.ศ. 2556 – 2558 ได้ย้ายเอกสารทั้งหมดไปเก็บไว้รวมกัน ต่อมาพบว่าเอกสารการเงินสูญหาย จึงรายงานผู้บังคับบัญชาและแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2558 พร้อมทั้งดำเนินการตามกระบวนการ โดยแต่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงระดับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2558 และระดับจังหวัดเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2559

สรุปรายงานเบื้องต้นว่า การจัดเก็บเอกสาร การควบคุมกำกับดูแลเอกสารทางการเงินไม่เป็นระเบียบเรียบร้อย ไม่พบลักษณะส่อไปในทางทุจริต ไม่มีการสูญหายของเงิน พร้อมทั้งได้ตามเอกสารการเบิกจ่ายจากบริษัทเจ้าหนี้ทุกรายได้เกือบครบถ้วน จะเร่งติดตามให้ครบภายในสิ้นเดือนเมษายนนี้ ขณะที่สำนักตรวจสอบพิเศษภาค 4 ได้เข้ามาตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้ระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ 2560 ก็ไม่พบว่ามีการทุจริตแต่อย่างใด

สำหรับกรณีโรงพยาบาลสตึกนั้น สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์ได้รับหนังสือร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริตเป็นพยาบาลและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง จึงได้แต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงตามคำสั่งจังหวัดบุรีรัมย์ลงวันที่ 26 พฤษภาคม 2558 ต่อมาเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2559 สำนักตรวจสอบพิเศษภาค 4 ได้มีหนังสือชี้มูลทุจริตและขอให้ดำเนินการทางวินัย ละเมิด และอาญากับผู้เกี่ยวข้องจำนวน 15 ราย ในโครงการฝึกอบรมของเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลสตึก ปีงบประมาณ 2557 จำนวน 10 โครงการ รวมเป็นเงิน 2 ล้านกว่าบาท ได้ดำเนินการและรายงานความคืบหน้าการดำเนินงานตามขั้นตอนมาโดยตลอด ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการสอบข้อเท็จจริง เมื่อได้ผลการตรวจสอบครบถ้วน กระทรวงสาธารณสุขจะดำเนินการตั้งคณะกรรมการสอบวินัยต่อไป