แนะ สปสช.เพิ่มสิทธิประโยชน์มะเร็งฝังพอร์ตเคมีบำบัด แก้ปัญหาเส้นแตก

ประธานพัฒนาระบบสุขภาพสาขามะเร็ง รพ.ลำพูน เผยสิทธิประโยชน์มะเร็งบัตรทอง ช่วยผู้ป่วยเข้าถึงการรักษามากขึ้น ครอบคลุมยาจำเป็นราคาแพง แนะบอร์ด สปสช.เพิ่มสิทธิฝังพอร์ตเคมีบำบัด แก้ปัญหาเส้นแตก

นพ.บารมี บุญเลิศ

นพ.บารมี บุญเลิศ นายแพทย์ชำนาญการพิเศษ และประธานพัฒนาระบบสุขภาพสาขามะเร็ง โรงพยาบาลลำพูน กล่าวว่า การให้สิทธิประโยชน์มะเร็งในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติหรือบัตรทองที่ผ่านมานั้น ต้องบอกว่าทำให้ผู้ป่วยมะเร็งเข้าถึงการรักษาได้มากขึ้น ปัจจุบันมียาจำเป็นหลายกลุ่มที่ค่อนข้างแพง มีการให้ยาเคมีบำบัดหลายชนิดที่อยู่ในชุดสิทธิประโยชน์ ซึ่งต้องขอขอบคุณ บอร์ด สปสช.ที่เห็นประโยชน์และเห็นความสำคัญของการรักษาคนไข้มะเร็งกลุ่มนี้มาก เพราะว่าค่าใช้จ่ายการรักษามะเร็งค่อนข้างสูง และสิทธิประโยชน์ที่มีสามารถรักษาคนไข้กลุ่มมะเร็งได้มากขึ้น โดยเฉพาะมะเร็งเต้านม ทำให้คนไข้ได้รับการรักษาที่ดีขึ้น มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น              

นพ.บารมี กล่าวต่อว่า สิ่งหนึ่งที่อยากจะเสนอทาง สปสช.คือ ปัจจุบันการให้ยาเคมีบำบัด ต้องให้หลายครั้ง บางรายต้องให้ทุก 3 สัปดาห์ 10 กว่าครั้ง ทำให้การหาเส้นที่จะให้ยาเคมีบำบัดค่อนข้างจะลำบาก จึงอยากเสนอให้ สปสช.พิจารณาสิทธิประโยชน์การฝังพอร์ตเคมีบำบัด หรือการใส่พอร์ต (Port : ตลับให้สารละลายชนิดฝังใต้ผิวหนัง) คือการฝังในตัวคนไข้เพื่อให้สามารถรับยาเคมีบำบัดได้ตลอด โดยไม่ต้องมีปัญหาเรื่องเส้นแตก เส้นเปราะ คนไข้สามารถได้ยาเคมีบำบัดได้ระยะยาว ซึ่งปัจจุบันสูตรยาให้ยาวขึ้น บางคนให้เป็นปี ซึ่งถ้าเรามีอุปกรณ์ตัวนี้ ก็สามารถที่จะทำให้คนไข้ได้รับประโยชน์สูงสุด

“การเพิ่มสิทธิประโยชน์ตรงนี้จะคุ้มกับสิ่งที่ลงทุนไปแน่นอน ถ้าพูดถึงในแง่ของคนไข้เอง คนไข้ไม่ต้องมาถูกแทงเส้น เส้นก็เสียไปทุกครั้งที่ให้ยาเคมีบำบัด การมีพอร์ตเคมีบำบัดตัวนี้จะช่วยลดการแทงเส้น ทำให้คนไข้ดีขึ้นในแง่ของคุณภาพชีวิต และพยาบาลที่ให้น้ำเกลือก็จะทำงานง่ายขึ้น ไม่ต้องเสียเวลาหาเส้นที่ดีๆ เพราะว่าแทงสัก 3-4 ครั้ง เส้นก็จะแตกแล้ว” นพ.บารมี กล่าว  

ขอบคุณภาพจาก http://www.bloggang.com