เปิดผลสำรวจสุขภาพคนไทยด้วยการตรวจร่างกายครั้งล่าสุด พบแนวโน้มสิงห์อมควันลดลงเล็กน้อย ขณะที่ผู้ป่วยความดันโลหิต เบาหวาน ภาวะอ้วน สูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ผงะ! มีคนไม่รู้ตัวว่าป่วยอื้อ
ศ.นพ.วิชัย เอกพลากร คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดเผยในเวทีเสวนาหัวข้อ “แนวโน้มผลสัมฤทธิ์หลักประกันสุขภาพจากการสำรวจสุขภาพคนไทยโดยการตรวจร่างกาย” ซึ่งอยู่ภายใต้การประชุมวิชาการระดับชาติด้านหลักประกันสุขภาพของประเทศไทย เมื่อวันที่ 11 ต.ค.2559 ตอนหนึ่งว่า การสำรวจสุขภาพประชาชนไทยด้วยการตรวจร่างกาย ครั้งที่ 5 (Thai Nation Health Examination Survey : NHES) เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดในระบบสุขภาพ โดยได้ดำเนินการร่วมกับ 5 มหาวิทยาลัย ได้แก่ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (ภาคเหนือ) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (ภาคกลาง) มหาวิทยาลัยขอนแก่น (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ)มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ภาคใต้) โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล (กทม.)
สำหรับผลการตรวจสุขภาพฯ แยกเป็นรายประเด็น ได้แก่
1.การสูบบุหรี่ พบว่าภาพรวมการสูบบุหรี่ของประชากรไทยอายุ 15 ปีขึ้นไป จากการการสำรวจครั้งที่ 5(พ.ศ.2557) เทียบเคียงกับการสำรวจครั้งที่ 4 (พ.ศ.2552) ดูเหมือนว่าจะลดลง อย่างไรก็ตามเมื่อพิจารณาในกลุ่มอายุน้อยและกลุ่มผู้หญิงจะพบว่าไม่ได้ลดลงแต่อย่างใด
2.ภาวะอ้วน พบว่าความชุกของภาวะอ้วนในประชากรอายุ 15 ปีขึ้นไป มีอัตราการเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนโดยเฉพาะในเพศชาย ขณะที่ในภาพรวมก็เพิ่มเช่นกัน จากเดิม 35% เป็น 37.5%
3.ภาวะเบาหวานในประชากรอายุ 15 ปีขึ้นไป พบว่า เมื่อปี 2552 สถิติเบาหวานมีความชุกประมาณ 7% แต่ในปี 2557 กลับเพิ่มสูงจนอยู่ที่ 8.9% และหากพิจารณาตามกระจายตามกลุ่มอายุชัดเจนว่าทุกช่วงวัยมีความชุกเพิ่มขึ้นหมด เช่นเดียวกับ
4.ภาวะความดันโลหิตสูงในประชากรอายุ 15 ปีขึ้นไป ที่พบว่ามีแนวโน้มสูงขึ้น
“หากพิจารณาเฉพาะ 4 ประเด็น เทียบเคียงกับผลการตรวจสุขภาพครั้งที่ 3(2547) ครั้งที่ 4 (2552) และครั้งที่ 5 (2557) จะพบว่า ภาวะเบาหวาน ความดัน และภาวะอ้วน เพิ่มขึ้น มีเพียงการสูบบุหรี่เท่านั้นที่มีแนวโน้มลดลง ขณะที่ภาวะไขมันเป็นภาวะเดียวที่มีแนวโน้มดีขึ้น” ศ.นพ.วิชัย กล่าว
ศ.นพ.วิชัย กล่าวอีกว่า สำหรับแนวโน้มการวินิจฉัยและผลการรักษา ยกตัวอย่างเบาหวาน ความดันโลหิตสูง และไขมันในเลือดสูง พบว่าจากการสำรวจครั้งที่ 4 (พ.ศ.2557) มีผู้ป่วยเบาหวานที่ไม่รู้ตัวถึง 43% ของผู้ป่วยเบาหวา
ทั้งหมด 4.7 ล้านคน ซึ่งเปอร์เซ็นต์เพิ่มขึ้นจากการสำรวจครั้งที่ 2 แต่ดีกว่าการสำรวจครั้งที่ 3 ในขณะที่ความดันโลหิตสูงมีแนวโน้มการรู้ตัวที่ดีขึ้น มีผู้ป่วยรู้ตัวประมาณ 40% เช่นเดียวกับไขมันในเลือดที่ดีขึ้นเช่นกัน
“ส่วนกลุ่มคนที่รู้ตัว ได้รับการรักษา และสามารถควบคุมภาวะต่างๆ ได้ แบ่งเป็น เบาหวาน 40% ของผู้ที่รู้ตัวทั้งหมด ความดัน 30% ของผู้ที่รู้ตัวทั้งหมด และไขมัน20% ของผู้ที่รู้ตัวทั้งหมด” ศ.นพ.วิชัย กล่าว
ศ.นพ.วิชัย กล่าวว่า หากคิดเป็นตัวเลขจำนวนผู้ป่วย จะพบว่าผู้ป่วยเบาหวานในปี 2557 มีประมาณ 4.7 ล้านคน ในจำนวนนี้ไม่รู้ตัวถึง 40% หรือประมาณ 2 ล้านคน ขณะที่ผู้ป่วยความดันโลหิตสูงมีประมาณ 13 ล้านคน ในจำนวนนี้เป็นผู้ที่ไม่รู้ตัวร่วมๆ 40% หรือประมาณ 5 ล้านคน
- 20 views