กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เผยผลสำรวจสายตาคนไทย พบตาบอดกว่า 3 แสนคน สาเหตุอันดับ 1 เกือบร้อยละ 70 เกิดมาจากต้อกระจก เร่งป้องกัน อบรม อสม. 250,000 คน ให้เชี่ยวชาญในการใช้ “แผนอักษรตัวอี” ตรวจค้นหาผู้ที่มีความผิดปกติสายตาในชุมชน 77 จังหวัดทั่วไทย เพื่อนำเข้าสู่ระบบรักษาทันการ เน้นหนักใน 2 กลุ่มใหญ่พิเศษเสี่ยงเกิดตาบอดรวม 13 ล้านคน คือผู้สูงอายุ และผู้ป่วยโรคเบาหวาน
นพ.บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ให้สัมภาษณ์ว่า ขณะนี้องค์การอนามัยโลกได้ให้ความสำคัญในเรื่องสายตา มีนโยบายขจัดปัญหาตาบอดและสายตาเลือนรางให้หมดไปภายใน พ.ศ.2563 ข้อมูลล่าสุดพ.ศ. 2553 ทั่วโลกมีคนตาบอด 39 ล้านคน และมีสายตาเลือนรางมากถึง 285 ล้านคน
ในส่วนของประเทศไทย ผลสำรวจสุขภาพสายตาครั้งล่าสุดในปี 2550 พบคนไทยตาบอด 369,613 คน สาเหตุหลักร้อยละ 70 เกิดมาจากต้อกระจก ซึ่งสามารถรักษาหายขาดได้ โดยการผ่าตัดเปลี่ยนใส่เลนส์แก้วตาเทียม ก็จะสามารถกลับมามองเห็นได้ชัดเจนใกล้เคียงกับปกติ แต่พบว่าประชาชนบางส่วนยังเข้าไม่ถึงระบบบริการ
สบส.จึงได้ร่วมกับโรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง) ซึ่งเป็นโรงพยาบาลเชี่ยวชาญโรคตาโดยเฉพาะ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ จัดหลักสูตรฝึกอบรมอาสาสมัครสาธารณสุขหรือ อสม.จำนวน 250,000 คนจาก 77 จังหวัดทั่วประเทศ จังหวัดละประมาณ 3,200 คน เพื่อร่วมทำการตรวจคัดกรองสายตาเบื้องต้น ค้นหาผู้ที่เป็นตาต้อกระจกที่อยู่ในหมู่บ้านชุมชนที่ดูแล ให้เข้าสู่ระบบการรักษาผ่าตัดได้อย่างทันการ ไม่มีคนตาบอดในชุมชน บรรลุตามเป้าหมายขององค์การอนามัยโลก โดยทำงานเชื่อมโยงกับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล โรงพยาบาลชุมชนและโรงพยาบาลจังหวัดและโรงพยาบาลศูนย์ที่อยู่ในเขตสุขภาพทั้ง 13 เขต
นพ.บุญเรือง กล่าวต่อว่า การอบรม อสม.เพื่อร่วมค้นหาผู้ที่มีสายตาผิดปกติครั้งนี้ จะเน้นความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการทำงานของดวงตา โรคตาที่เป็นปัญหาสาธารณสุขของประเทศไทยที่พบบ่อย 5 โรค ได้แก่ โรคต้อกระจก โรคจอตา โรคต้อหิน ปัญหาตาบอดในเด็กและโรคกระจกตา วิธีการใช้ยาหยอดและยาป้ายตาที่ถูกต้อง และฝึกวิธีการตรวจสุขภาพสายตาอย่างง่าย ได้มาตรฐาน เป็นที่ยอมรับในระดับสากล โดยใช้แผ่นอักษรรูปตัวอี (E) ในภาษาอังกฤษ ขนาดมาตรฐาน คือกว้าง 8.4 เซนติเมตร และยาว 8.8 เซนติเมตร ตัวหนังสือมีความหนา 1.76 เซนติเมตร
โดยเน้นหนักตรวจหาใน 2 กลุ่มพิเศษที่มีความเสี่ยงเป็นโรคตาต้อกระจกสูงกว่ากลุ่มอื่นๆ ได้แก่ ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ซึ่งขณะนี้มีประมาณ 10 ล้านคน จากปัญหาการเสื่อมเลนส์ตาซึ่งเป็นไปตามวัย และผู้ป่วยโรคเบาหวานซึ่งมีประมาณ 3 ล้านกว่าคน โรคนี้เลนส์ตาจะขุ่นมัวได้เร็วกว่าปกติ หรือเกิดภาวะแทรกซ้อนที่จอประสาทตาที่เรียกว่าเบาหวานขึ้นตา มีโอกาสตาบอดสูงกว่าคนทั่วไปประมาณ 30 เท่าตัว
ทั้งนี้วิธีการตรวจสายตาด้วยอักษรตัวอีนั้น สามารถใช้ได้ทุกที่ โดยให้ผู้ที่ทำการทดสอบยืนห่างจากอักษร 3 เมตร และทดสอบสายตาทีละข้าง โดยใช้อุ้มมือปิดตาสลับกัน และให้บอกทิศของของขาอักษรอี ว่าชี้ไปทิศทางไหน และหมุนแผ่นอักษรอีทดสอบทั้งหมด 5 ครั้ง หากเป็นผู้ที่มีสายตาปกติ จะสามารถบอกทิศทางของขาตัวอี ได้ถูกต้องทุกครั้ง ส่วนผู้ที่มีสายตาไม่ปกติหรือมีภาวะเสี่ยงต่อการเกิดต้อกระจกและตาบอด จะบอกทิศทางของตัวอีได้ถูกต้องไม่เกิน 4 ครั้งหรือมองไม่เห็นเลย อสม.จะทำหนังสือส่งตัวไปตรวจเพิ่มเติมที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล หรือที่โรงพยาบาลชุนชนใกล้บ้านต่อไป ซึ่งจะทำให้ประชาชนที่มีสายตาผิดปกติทุกคน เข้าสู่ระบบบริการดูแลอย่างทั่วถึง หากตรวจพบว่าเป็นโรคตาต่อกระจกชนิดบอด จะได้รับการผ่าตัดภายใน 30 วัน
สำหรับวิธีการถนอมสายตา ประชาชนควรรับประทานอาหารที่มีวิตามินเอ ช่วยบำรุงสายตา คือผักใบเขียว เช่น ผักบุ้ง บรอกโคลี คะน้า ตำลึง และปวยเล้ง และรับประทานผลไม้สีเหลือง สีส้ม และผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ เช่น มะม่วงสุก มะละกอ ช่วยป้องกันการเสื่อมประสิทธิภาพของดวงตา ควรล้างมือให้สะอาดก่อนสัมผัสดวงตาเพื่อป้องกันเชื้อโรคเข้าตา ดูทีวีในระยะห่างจากจอภาพอย่างน้อย 5 เท่าของความกว้างจอทีวี หากประชาชนมองเห็นไม่ชัดเจน สายตาพร่ามัวหรือมีอาการปวดศีรษะ ขอให้ปรึกษา อสม.ใกล้บ้านได้
- 434 views