บีบีซี นิวส์: คำแนะนำการดื่มแอลกอฮอล์ฉบับล่าสุดของสหราชอาณาจักรตัดประเด็นปริมาณที่เหมาะสมของการดื่มในแต่ละวัน พร้อมสำทับการดื่มเหล้าไม่ว่าในปริมาณเท่าใดก็ล้วนเป็นอันตรายต่อสุขภาพ

ภาพจาก www.itv.com

เจ้าหน้าที่อาวุโสด้านการแพทย์ของสหราชอาณาจักรกล่าวตรงกันว่า ข้อมูลจากการศึกษาใหม่เผยให้เห็นความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งจากการดื่มแอลกอฮอล์ไม่ว่าในปริมาณใด ซึ่งคำแนะนำล่าสุดได้ระบุให้ผู้ชายและผู้หญิงที่ดื่มเหล้าเป็นประจำไม่ควรดื่มเกินสัปดาห์ละ 14 หน่วยหรือเทียบได้กับเบียร์ 6 ไพนต์หรือไวน์ 7 แก้ว และควรงดดื่มเด็ดขาดในกรณีที่ตั้งครรภ์ นอกจากนี้ยังได้แนะนำให้หลีกเลี่ยงการดื่มเหล้าติดต่อกันทุกวัน รวมถึงไม่ควร “สะสม” หน่วยของเหล้าในแต่ละสัปดาห์เพื่อที่จะมาดื่มรวดเดียวเนื่องจากจะทำให้มีความเสี่ยงสูงขึ้นต่ออุบัติเหตุและการบาดเจ็บ

ดื่มแต่น้อย

แม้คำแนะนำฉบับปรับปรุงว่าด้วยการดื่มเหล้าในหญิงตั้งครรภ์และผู้ที่อายุน้อยได้เผยแพร่มาตั้งแต่ปี 2550 และ 2552 ตามลำดับ แต่คำแนะนำฉบับปรับปรุงล่าสุดนี้ก็ถือเป็นการทบทวนฉบับสมบูรณ์เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2538  ซึ่งในข้อการดื่มเหล้าในหญิงตั้งครรภ์นั้น คำแนะนำฉบับปรับปรุงได้กำหนดให้ทุกประเทศในสหราชอาณาจักรใช้มาตรฐานเดียวกันกับสกอตแลนด์ โดยแนะนำให้หญิงตั้งครรภ์ควรงดดื่มเหล้าเด็ดขาด

การปรับปรุงดังกล่าวเป็นการปรับรายละเอียดเล็กน้อยจากคำแนะนำเดิมสำหรับประชาชนในอังกฤษ เวลส์ และไอร์แลนด์เหนือ ซึ่งแม้ระบุไว้ว่าไม่ควรดื่มเหล้าแต่ก็หมายเหตุไว้ด้วยว่า หากจะดื่มก็ไม่ควรดื่มเกิน 1-2 หน่วย ไม่ควรดื่มเกินสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง และไม่ควรดื่มจนเมามาย 

เปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง

คำแนะนำฉบับเดิมกำหนดไว้ว่า ไม่ควรดื่มเหล้าเกิน 3-4 หน่วยสำหรับผู้ชาย และ 2-3 หน่วยสำหรับผู้หญิง

ขณะที่คำแนะนำฉบับปรับปรุงล่าสุด ได้เน้นไปที่การจำกัดปริมาณการดื่มเหล้าในแต่ละสัปดาห์ เพื่อกันไม่ให้มองว่าการดื่มเหล้าทุกวันไม่เป็นอันตราย

ซึ่งเมื่อเทียบปริมาณจะเห็นได้ว่าเพดานดื่มเหล้าไม่เกิน 14 หน่วยดังกล่าว ได้ลดปริมาณเหล้าสำหรับทั้งผู้ชายและผู้หญิง   และหากพิจารณาจากคำแนะนำของกลุ่มแพทย์ที่กำหนดให้ผู้ชายดื่มได้ไม่เกินสัปดาห์ละ 21 หน่วย และผู้หญิงไม่เกินสัปดาห์ละ 14 หน่วยก็เห็นได้ชัดว่า การกำหนดเพดานดังกล่าวสอดคล้องกับคำแนะนำทางการแพทย์และดูจะเข้มงวดกว่าเล็กน้อย

สำหรับข้อการดื่มเหล้าในหญิงตั้งครรภ์นั้น คำแนะนำฉบับปรับปรุงล่าสุดได้สรุปชัดว่า “ควรงดดื่มเด็ดขาด” จากก่อนหน้านี้ที่ผู้หญิงในเวลส์ ไอร์แลนด์เหนือ และอังกฤษได้รับคำแนะนำว่าไม่ควรดื่ม แต่หากดื่มก็ควรดื่มแต่น้อย นอกจากนี้คำแนะนำฉบับล่าสุดยังได้ชี้ว่าไม่ควรดื่มติดต่อกันทุกวันและควรหลีกเลี่ยงการดื่มแบบทิ้งตัวอันเป็นข้อที่ไม่ได้ระบุไว้ในคำแนะนำฉบับปี 2538       

คำแนะนำฉบับเดิมกำหนดว่าผู้ชายควรดื่มไม่เกินวันละ 3-4 หน่วยและผู้หญิงควรดื่มไม่เกินวันละ 2-3 หน่วย โดยแนะนำให้งดดื่มเป็นเวลา 48 ชั่วโมงหลังจากผ่านการดื่มมาอย่างหนักหน่วง ขณะที่คำแนะนำฉบับล่าสุดไม่ได้แบ่งแยกปริมาณเหล้าสำหรับชายและหญิง หากแต่ระบุอย่างตรงไปตรงมาว่า ไม่ควรดื่มเกินสัปดาห์ละ 14 หน่วย ทั้งนี้ก็เนื่องจากเกรงว่าการกำหนดปริมาณเหล้าที่เหมาะสมเป็นรายวันอาจทำให้ประชาชนเข้าใจผิดว่าการดื่มเหล้าทุกวันไม่เป็นอันตราย โดยระบุไว้อย่างชัดแจ้งว่า การดื่มเหล้าทุกวันไม่ใช่เรื่องดี และการดื่มเหล้าจะมากจะน้อยก็ล้วนบั่นทอนสุขภาพ เว้นก็แต่ในผู้หญิงอายุตั้งแต่ 55 ปีขึ้นไปซึ่งการดื่มเหล้าไม่เกินสัปดาห์ละ 5 หน่วยจะมีส่วนช่วยบำรุงสุขภาพหัวใจ

คำแนะนำฉบับปรับปรุงสรุปไว้อย่างชัดเจนว่า ข้อเสนอแนะจากการศึกษาก่อนหน้านี้ที่ว่าการดื่มเหล้าแต่น้อยอาจช่วยป้องกันโรคหัวใจในผู้ชายนั้น เป็นผลลัพธ์จากการประมาณประโยชน์ของการดื่มเหล้าไว้สูงเกินจริง อีกทั้งปัจจุบันก็มีแนวทางอื่นที่ให้ผลดีกว่าในการป้องกันโรคหัวใจ 

และชี้ว่า การปรับปรุงเนื้อหาในคำแนะนำฉบับใหม่ ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากข้อมูลบ่งชี้ความเสี่ยงมะเร็งที่เพิ่มขึ้นจากการดื่มเหล้า ตามที่พบหลักฐานใหม่ว่า ความเสี่ยงต่อมะเร็งนานาชนิด เช่น มะเร็งช่องปาก ลำคอ และเต้านมล้วนเพิ่มสูงขึ้นในผู้ที่ดื่มเหล้าเป็นประจำโดยไม่เกี่ยงว่าจะดื่มมากหรือน้อย     

อนึ่ง คำแนะนำฉบับปรับปรุงนี้ยังสะท้อนว่าสหราชอาณาจักรมีเพดานปริมาณเหล้าที่เข้มงวดกว่าเมื่อเทียบกับประเทศอื่นในยุโรป เช่น เดนมาร์ก ฝรั่งเศส สเปน และอิตาลีซึ่งเปิดกว้างให้ผู้ชายและผู้หญิงสามารถดื่มในปริมาณที่มากกว่า

ในแต่ละแก้วมีแอลกอฮอล์อยู่กี่หน่วย?

เหล้ากลั่นหนึ่งชอต (25 มิลลิลิตร): 1 หน่วย

ไวน์หนึ่งแก้วปกติ (175 มิลลิลิตร): 2.1 หน่วย

ไวน์หนึ่งแก้วใหญ่ (250 มิลลิลิตร): 3 หน่วย

เบียร์แอลกอฮอล์ 4% หนึ่งไพนต์: 2.3 หน่วย

เบียร์แอลกอฮอล์ 5% หนึ่งไพนต์: 2.8 หน่วย

ไซเดอร์ดีกรีแรงหนึ่งไพนต์ (แอลกอฮอล์ 8%): 4.5 หน่วย

สาเหตุที่กำหนดให้ดื่มแอลกอฮอล์ไม่เกิน 14 หน่วยนั้นก็เนื่องจากพบว่า การดื่มเหล้านำไปสู่ความเสี่ยง 1% ต่อการเสียชีวิตจากสาเหตุที่เกี่ยวข้องกับสุรา โดยจัดเป็นความเสี่ยงในระดับที่ยอมรับได้และอยู่ในระดับเดียวกับความเสี่ยงจากการทำกิจวัตรประจำวัน เช่น การขับขี่รถยนต์

ตัดสินใจอย่างรอบคอบ

ศ.เดม แซลลี เดวีส์ หัวหน้าคณะที่ปรึกษาสาธารณสุขของอังกฤษ กล่าวว่า การดื่มเหล้าเป็นประจำไม่ว่าจะมากหรือน้อยก็ล้วนแล้วแต่ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อสุขภาพ แต่หากผู้ชายและผู้หญิงสามารถจำกัดปริมาณดื่มไม่เกินสัปดาห์ละ 14 หน่วยก็จะช่วยให้ความเสี่ยงต่อโรคภัยไข้เจ็บ รวมถึงมะเร็งและโรคตับอยู่ในระดับต่ำ และชี้แจงด้วยว่า คำแนะนำฉบับปรับปรุงนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ล่าสุดแก่ประชาชนในอันที่จะ “ตัดสินใจอย่างรอบคอบ” เกี่ยวกับพฤติกรรมการดื่มของตนเอง

ด้าน ศ.เซอร์เอียน กิลมอร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ลดพิษภัยจากการดื่มเหล้าชี้ว่า คำแนะนำฉบับปรุงนี้ มีประโยชน์อย่างยิ่ง เพราะประชาชนมีสิทธิที่จะทราบข้อมูลความเสี่ยงจากการดื่มเหล้า ซึ่งข้อมูลที่แม่นยำและโปร่งใสจะช่วยให้ประชาชนสามารถตัดสินใจได้ว่าควรดื่มเหล้ามากน้อยเพียงใด                   

อย่างไรก็ดี ศ.เซอร์เดวิด สปีเกลฮอลเตอร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการวิเคราะห์ความเสี่ยงจากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์กลับเสนอให้พิจารณาประเด็นความเสี่ยง 1% ให้ถี่ถ้วน โดยยกข้อมูลเปรียบเทียบว่า ความเสี่ยงดังกล่าวต่ำกว่าการดูโทรทัศน์เป็นเวลา 1 ชั่วโมงหรือรับประทานแซนด์วิชไส้เบคอนสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง ซึ่งทำให้มองว่า คำแนะนำฉบับปรับปรุงน่าจะมีผลต่อความสำราญที่ได้รับจากการดื่มเหล้าในปริมาณพอเหมาะเสียมากกว่า

อีกด้านหนึ่งเครือพอร์ตแมนออกมาตอบโต้ในฐานะตัวแทนธุรกิจสุราโดยวิจารณ์ว่า การที่สหราชอาณาจักรกำหนดเพดานเหล้าที่เท่ากันระหว่างผู้ชายและผู้หญิงเป็นการฝืนมาตรฐานสากล อีกทั้งยังเป็นการแนะให้ผู้ชายในสหราชอาณาจักรดื่มเหล้าน้อยกว่าอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับผู้ชายในกลุ่มประเทศยุโรปด้วยกัน  

ที่มา : www.bbc.com