กระทรวงสาธารณสุข นำภูมิปัญญาไทย สมุนไพรไทยเข้าสู่ระบบบริการสุขภาพเป็นทางเลือกประชาชน เปิดคลินิกรักษาโรค อัมพฤกษ์ อัมพาต  ไมเกรน  ข้อเข่าเสื่อม ภูมิแพ้ ในโรงพยาบาลใหญ่แบบครบวงจร ร้อยละ 80 ในปี 2559 เพื่อบรรลุระบบสุขภาพไทยที่พึงประสงค์ในอีก 20 ปีและเป้าหมายสุขภาพระดับโลก 

วันนี้ (11มกราคม 2559) ที่ รร.มิราเคิล แกรนด์ กทม. นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นพ.โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นพ.สุริยะ วงศ์คงคาเทพ อธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยฯ เปิดประชุมเชิงปฏิบัติการถ่ายทอดนโยบายการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกสู่ภูมิภาค มีผู้ปฏิบัติงานทั่วประเทศเข้าร่วมกว่า 700 คน    

นพ.ปิยะสกล ได้บรรยายพิเศษว่า ปัจจุบันกระแสสังคมทั่วโลกมีความสนใจและฟื้นฟูใช้ประโยชน์จากการแพทย์ดั้งเดิม เพื่อแก้ไขปัญหาสุขภาพที่การแพทย์สมัยใหม่ไม่สามารถตอบสนองได้ทั้งหมด เช่นศาสตร์การแพทย์แผนไทยที่เป็นการดูแลสุขภาพองค์รวม สอดคล้องกับวิถีชุมชนและวัฒนธรรมท้องถิ่น กระทรวงสาธารณสุขได้กำหนดให้เป็น 1 ใน 13 สาขาหลักที่จะเร่งรัดพัฒนาให้เป็นทางเลือกของประชาชน และยังเป็น 1 ใน 5 เรื่องหลักที่เร่งรัดปฏิรูป เพื่อบรรลุระบบสุขภาพไทยที่พึงประสงค์ในอีก 20 ปีข้างหน้า และเป้าหมายสุขภาพระดับโลก ประกอบด้วย เอกภาพการบริหารจัดการ การเงินการคลังด้านสุขภาพ การสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันปัจจัยเสี่ยง การดูแลผู้สูงอายุระยะยาว และการใช้ภูมิปัญญาไทย การแพทย์แผนไทยพัฒนาสุขภาพ  

นอกจากนี้ เพื่อสนับสนุนการที่ประเทศไทยจะเป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ ด้านบริการสุขภาพ  บริการเพื่อส่งเสริมสุขภาพ  ยาและผลิตภัณฑ์ยาเพื่อสุขภาพ  งานบริการวิชาการและงานวิจัย เพื่อสร้างความมั่นคงด้านเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งมีมูลค่ามากกว่า 1 แสนล้านบาทต่อปี ได้บูรณาการทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พัฒนาสมุนไพรต่อยอดทั้งด้านการรักษาและผลิตภัณฑ์ ดังนี้

1.ผลักดันให้เกิดแผนแม่บทแห่งชาติ ว่าด้วยการพัฒนาสมุนไพรไทย (พ.ศ.2560–2564)

2.ผลักดันเข้าสู่ระบบบริการสุขภาพ เป็นส่วนหนึ่งของการดูแลสุขภาพ เชื่อมโยงกับการแพทย์แผนปัจจุบัน ให้เกิดระบบการแพทย์ที่เอื้อซึ่งกันและกัน เพิ่มทางเลือกให้ประชาชน  

3.ส่งเสริมการวิจัยเพื่อสร้างการยอมรับและเชื่อมั่นให้กับประชาชน  

และ 4.จัดตั้งกลุ่มงานการแพทย์แผนไทยในสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเป็นครั้งแรก เพื่อการดำเนินงานที่เป็นรูปธรรม นำร่อง 12 จังหวัด

ด้าน นพ.โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ในปี 2559 กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุข โดยกรมพัฒนาการแผนแผนไทยฯ มีแผนดำเนินงาน ดังนี้ บูรณาการพัฒนาสมุนไพรไทย เพื่อความยั่งยืน ส่งเสริมศักยภาพการแข่งขัน พัฒนากลไกระดับชาติ เพื่อกำกับทิศทางการพัฒนาภูมิปัญญาไทยและสมุนไพร จัดทำแผนยุทธศาสตร์ภูมิปัญญาไทย 5 ปี (พ.ศ.2560–2564) ที่สอดคล้องกับแผนพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจแห่งชาติ และนำภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยสู่การดูแลสุขภาพผู้สูงอายุ

โดยมีเป้าหมายพัฒนาให้โรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป จัดบริการการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกแบบครบวงจร รักษาโรคทั่วไปและเฉพาะโรค เช่น อัมพฤกษ์ อัมพาต ไมเกรน ข้อเข่าเสื่อม ภูมิแพ้ อย่างน้อย 1 คลินิก ร้อยละ 80 ในปี 2559 และมีบริการการแพทย์แผนไทยคู่ขนานแผนกผู้ป่วยนอก ร้อยละ 70 โดยศาสตร์การรักษา ได้แก่ เวชกรรมไทย เภสัชกรรมไทย ผดุงครรภ์ไทย นวดไทย การฝังเข็มในแพทย์แผนจีนหรือการแพทย์ทางเลือกอื่นๆ เช่นการดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายหรือการดูแลแบบประคับประคอง โดยสวดมนต์บำบัด สมาธิบำบัด กดจุดบำบัด การปรับสมดุลโครงสร้าง เป็นต้น