เตือนอันตรายจัดฟันเถื่อน เสี่ยงติดเชื้อโรคเพียบ ย้ำต้องพบทันตแพทย์เท่านั้น

ห่วงสถานการณ์จัดฟันเถื่อนแพร่ระบาด ระบุต่างประเทศส่วนใหญ่ไม่มีจัดฟันแฟชั่น แต่ของไทยกลับมีโฆษณาชวนเชื่อมากมาย หมอฟันเถื่อนรับทำตามบ้าน ร้านเสริมสวย ตลาดนัด ชี้สุดอันตราย ทำฟันผุโดยใช่เหตุ แถมเสี่ยงติดเชื้อสารพัด หากมีปัญหาต้องแก้ไข ก็ต้องพบทันตแพทย์เหมือนเดิม ย้ำอย่าเสี่ยง ต้องพบทันตแพทย์เท่านั้น

ทพญ.เพชรสิรี หอวรรณภากร คลินิกทันตกรรมจัดฟัน คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า แฟชั่นจัดฟันในกลุ่มวัยรุ่น หรือแม้กระทั่งวัยผู้ใหญ่ วัยทำงานยังคงเป็นปัญหาของประเทศไทย จากการที่พูดคุยกับทันตแพทย์อื่นๆ ในงานประชุมทันตแพทย์นานาชาติเมื่อไม่นานมานี้ พบว่าประเทศต่างๆ ส่วนใหญ่ไม่มีการจัดฟันตามแฟชั่น แต่สำหรับไทยกลับมีการโฆษณาชวนเชื่อผ่านโลกออนไลน์มากมาย และยังมีบริการจัดฟันตามบ้าน ตามคอนโดมิเนียม หรือแม้กระทั่งร้านเสริมสวย ที่สำคัญผู้ให้บริการไม่ใช่ทันตแพทย์ ซึ่งเสี่ยงรับอันตรายจากการจัดฟันไม่ได้มาตรฐาน

“ล่าสุดมีเคสจัดฟันจากหมอเถื่อน ไปรับบริการที่ร้านเสริมสวยแห่งหนึ่ง โดยเพื่อนพามาเพราะเป็นห่วง เนื่องจากทราบว่าจัดฟันไม่ได้มาตรฐาน ซึ่งจากการตรวจปรากฏว่า ภายในช่องปากมีกลิ่นมาก และฟันผุเต็มไปหมด แสดงให้เห็นว่าไม่สามารถรักษาความสะอาดได้เลย รวมทั้งตัวลวดจากโค้งๆ ก็เริ่มบานออกจากมาตรฐานที่ควรจะเป็น ซึ่งถือว่าอันตรายมากเพราะหากไม่เอาออก อาจไปทิ่มเหงือก ทิ่มปากทำให้เป็นแผล และหากเหล็กไม่มีการฆ่าเชื้ออย่างดีพอ อาจทำให้เกิดการติดเชื้อได้ ซึ่งเชื้อที่เสี่ยงจะได้รับจะมีพวกเชื้อเอชไอวี เชื้อไวรัสตับอักเสบบี เชื้อเริมที่ปาก เชื้อทีบี หรือเชื้อวัณโรค ยิ่งไปรับบริการตามร้านเสริมสวย ตามบ้าน ตามตลาดนัด เราไม่มั่นใจว่าจะผ่านการฆ่าเชื้อที่ถูกมาตรฐานหรือไม่ เพราะปกติการทำในคลินิกหรือโรงพยาบาลจะมีตู้อบสำหรับฆ่าเชื้อโรคโดยเฉพาะ เพราะการฆ่าเชื้อโรคด้วยการแช่แอลกอฮอล์ไม่สามารถฆ่าเชื้อเหล่านี้ได้” ทพญ.เพชรสิรี กล่าว

ทพญ.เพชรสิรี กล่าวอีกว่า การจัดฟันต้องได้รับบริการจากผู้เชี่ยวชาญ เนื่องจากขั้นตอนต่างๆ จะต้องมีความสะอาด ปราศจากเชื้อโรค ที่สำคัญต้องดูโครงสร้างของแต่ละคน โดยขั้นตอนเริ่มแรกต้องผ่านการวินิจฉัยก่อนว่า จำเป็นต้องจัดฟันหรือไม่ ซึ่งจะมีข้อบ่งชี้หลายๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นมีปัญหาฟันซ้อน ฟันเก เกิดการทำความสะอาดซอกฟันยาก หรือปัญหาเรื่องบุคลิกภาพ อย่างฟันเหยิน หุบปากไม่สนิท หรือฟันห่าง หรืออาจมีปัญหาของข้อต่อขากรรไกร ปัญหาการสบฟัน ส่งผลต่อการบดเคี้ยวอาหาร เป็นต้น 

ซึ่งหากพิจารณาแล้วว่าต้องจัดฟัน ทันตแพทย์จะต้องตรวจโดยการเอ็กซเรย์ดูช่องปากว่ามีปัญหาอะไรหรือไม่ เพราะบางรายจำเป็นต้องถอนฟันร่วมด้วย เนื่องจากฟันเก อย่างไรก็ตาม บางรายอาจต้องเอ็กซเรย์บริเวณกะโหลกด้านข้าง เพราะอาจมีปัญหาขากรรไกร จะเห็นได้ว่า หากได้รับบริการจากทันตแพทย์จริงๆ จะมีความละเอียดในการวินิจฉัยมาก

ทพญ.เพชรสิรี กล่าวว่า อย่างการพิมพ์ปากก่อนการจัดฟันนั้น จะต้องมีเครื่องมือที่พร้อมและมีความสะอาด ปราศจากเชื้อโรค เพราะหากทำไม่ได้ สารในการพิมพ์ปากอาจหลุดรอดลงคอ ซึ่งหากสารนั้นเป็นพวกโลหะหนัก ตะกั่ว ย่อมเกิดอันตรายได้ ทางที่ดีที่สุดควรรับบริการจากทันตแพทย์จริงๆ ไม่ใช่หมอเถื่อน เพราะหากติดเชื้อขึ้นมา ไม่คุ้มกับการรับบริการที่ไม่ได้มาตรฐาน

ในทางกลับกันหากรับบริการจากทันตแพทย์ที่ถูกต้องตามหลักวิชาชีพ นอกจากความเชี่ยวชาญแล้ว ก็ไม่ต้องห่วงเรื่องการปนเปื้อนของเชื้อโรค เพราะผู้จัดฟันต้องเข้าพบแพทย์ทุกๆ เดือนในการปรับเครื่องมืออุปกรณ์จัดฟัน การเปลี่ยนยางที่ใช้รัดลวด อาจยืดและเสื่อมก็ต้องปรับใหม่ รวมทั้งตรวจสุขภาพปากว่ามีปัญหาฟันผุหรือไม่ ซึ่งทันตแพทย์จะแก้ไขได้ แต่หากไปรับบริการหมอเถื่อน ส่วนใหญ่จะจัดพิมพ์ฟันและใส่ลวดให้ แต่ไม่ได้มีการตรวจสุขภาพช่องปาก เมื่อเกิดปัญหาผู้รับบริการก็ต้องไปพบทันตแพทย์จริงๆ เพื่อแก้ไขอยู่ดี

“เข้าใจว่าทางทันตแพทยสภาก็พยายามตรวจสอบว่า มีหมอเถื่อนให้บริการจัดฟันที่ไหน และมีการส่งเรื่องเพื่อดำเนินคดี แต่ปัญหาพวกนี้ก็ไม่หมด ทั้งๆ ที่ส่งผลร้ายต่อประชาชนที่เลือกรับบริการ สิ่งสำคัญต้องอยู่ที่ประชาชนจะตระหนักถึงเรื่องนี้มากน้อยแค่ไหน เนื่องจากหากเราไม่เข้ารับบริการ ร้านจัดฟันเถื่อนก็จะอยู่ไม่ได้ แต่เรายังใช้บริการ เพราะเข้าถึงง่ายหรือเพราะถูกก็แล้วแต่ สุดท้ายได้ไม่คุ้มเสีย จึงอยากฝากให้คิดดีๆ ก่อนต้องมาแก้ไข รวมทั้งพ่อแม่ผู้ปกครองต้องสังเกตว่าลูกไปจัดฟันมาหรือไม่ เพราะหากไปทำมา ทั้งๆ ที่ราคาค่อนข้างสูงสำหรับวัยเรียน ก็ต้องคิดว่าลูกอาจรับบริการหมอเถื่อน ควรรีบพามาพบทันตแพทย์เพื่อแก้ไขก่อนจะดีกว่า” ทพญ.เพชรสิรี กล่าว