ซาโนฟี่ ปาสเตอร์ เผยความคืบหน้าโครงการวิจัยและทดสอบวัคซีนชื่อ ซีดิฟเฟนส์ (Cdiffense) เพื่อป้องกันโรคติดเชื้อขณะพักรักษาตัวในโรงพยาบาล ได้ก้าวหน้ามาถึงขั้นที่สามแล้วซึ่งถือเป็นระยะสุดท้าย คือเป็นการประเมินความปลอดภัย และความสามารถในการสร้างภูมิคุ้มกัน เพื่อช่วยป้องกันโรคติดเชื้อคลอสตริเดียม ดิฟฟิไซลที่ทำให้ป่วยเป็นโรคลำไส้อักเสบ

 

พญ.ดนยา จันทร์สิงหกุล

พญ.ดนยา จันทร์สิงหกุล ผู้อำนวยการแผนกวิจัยและพัฒนาวัคซีนทางคลินิก บริษัท ซาโนฟี่ ปาสเตอร์  เปิดเผยว่า ขณะนี้ซาโนฟี่ได้ศึกษาวิจัยวัคซีน ชื่อ ซีดิฟเฟนส์ (Cdiffense) มาถึงระยะที่สามแล้ว ซึ่งถือเป็นระยะสุดท้าย คือเป็นการประเมินความปลอดภัย และความสามารถในการสร้างภูมิคุ้มกัน เพื่อช่วยป้องกันโรคติดเชื้อคลอสตริเดียม ดิฟฟิไซล (Clostridium difficile) ที่เรียกสั้นๆ ว่า CDI หรือ ซีดิฟฟ์ (C. diff)

โรคติดเชื้อคลอสตริเดียม ดิฟฟิไซล เกิดจากเชื้อแบคทีเรียชนิดสร้างสปอร์ชนิดหนึ่ง ผลคือทำให้ป่วยเป็นโรคลำไส้อักเสบ โดยผู้ป่วยมีอาการถ่ายเหลว และรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ สำหรับความความเสี่ยงของการติดเชื้อนั้นจะสูงขึ้นตามอายุ โรคนี้มักพบในผู้ป่วยที่พักรักษาอยู่ในโรงพยาบาล หรือผู้ที่ใช้ยาปฏิชีวนะรักษาโรคเป็นระยะเวลานานๆ ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิต ผู้ที่ป่วยเป็น CDI พบว่าร้อยละ 20 – 30 จะป่วยซ้ำ จึงต้องกลับเข้ารักษาในโรงพยาบาลอีก และต้องใช้เวลาพักอยู่ในโรงพยาบาลนานกว่าเดิม สำหรับภูมิภาคเอเชียที่ผ่านมา ไม่มีการศึกษาเรื่องแบคทีเรียซีดิฟฟิไซลอย่างจริงจัง แต่พบว่า CDI เป็นสาเหตุสำคัญของโรคติดเชื้อ ที่เกิดขึ้นในโรงพยาบาล ประเทศแถบทวีปเอเชีย  

 

โครงการศึกษาวิจัยวัคซีน ซีดิฟเฟนส์ มีศูนย์วิจัยกว่า 200 แห่ง กว่า 20 ประเทศทั่วโลก โดยจะมีอาสาสมัครเข้าร่วมการศึกษาเป็นผู้ใหญ่อายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไปและมีแผนจะเข้าพักรักษาในโรงพยาบาลหรือเพิ่งพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลและเคยได้รับยาปฏิชีวนะในช่วง 1 ปี โดยมีแผนจะรับอาสาสมัครจำนวนมากถึง 15,000 คน สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.sanofipasteur.com หรือ www.sanofipasteur.url