นสพ.ข่าวสด : บุรีรัมย์ - นพ.สมพงษ์ จรุงจิตตานุสนธิ์ นพ.สสจ.บุรีรัมย์ ระดมหลายภาคส่วนทั้งผู้ทำหน้าที่รับผิดชอบงานด้านการส่งต่อผู้ป่วย หรือระบบอีเอ็มเอส (EMS) ทุกโรงพยาบาล พร้อมตัวแทนจากกระทรวงสาธารณสุขที่รับผิดชอบเรื่องอุบัติเหตุ ผู้แทนจากสำนักงานการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด และบริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ ร่วมหามาตรการและแนวทางในการป้องกัน รถฉุกเฉินของโรงพยาบาลประสบอุบัติเหตุขณะส่งต่อผู้ป่วย หลังเกิดเหตุการณ์รถฉุกเฉิน ร.พ.บ้านใหม่ไชยพจน์ พุ่งชนประสานงากับ รถพ่วง 18 ล้อ บริเวณสี่แยกไฟแดงทางพาด อ.คูเมือง เมื่อวันที่ 26 ก.ค.ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ พนักงานขับรถ ผู้ป่วย ญาติผู้ป่วย ที่นั่งมาในรถได้รับบาดเจ็บ และมีพยาบาลที่ทำหน้าที่ดูแลผู้ป่วยในรถฉุกเฉินคันดังกล่าวเสียชีวิต 1 คน ทั้งเป็นการระดมสมองถอดบทเรียนเหตุการณ์เพื่อไม่ให้เกิดขึ้นซ้ำอีก
จากข้อมูลพบว่า การเกิดอุบัติเหตุของรถฉุกเฉิน ส่วนใหญ่จะเกิดจากการใช้ความเร็วสูงเกิน 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ขณะที่ทางกระทรวงกำหนดว่าไม่ควรขับเกิน 80-90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง รองลงมาคือความพร้อมของพนักงานขับรถ จิตสำนึกในการรักษากฎจราจร และสภาพของรถที่อาจจะไม่มีความพร้อม ทั้งพบว่าปัจจุบันพนักงานขับรถฉุกเฉินยังไม่เพียงพอ ซึ่งก็จะได้หารือกับทางโรงพยาบาลแต่ละแห่ง เพื่อพิจารณาจ้างเพิ่ม เพื่อให้พนักงานขับรถฉุกเฉินมีสภาพร่างกายพร้อมในการขับรถไม่หักโหมจนเกินไป
สสจ.บุรีรัมย์ ยังได้กำชับให้พนักงานขับรถฉุกเฉิน ใช้ความระมัดระวังไม่ใช้ความเร็วจนเกินไปจนเสี่ยงก่อให้เกิดอุบัติเหตุ และจะต้องปฏิบัติตามกฎจราจร โดยเฉพาะสัญญาณไฟจราจร ที่สำคัญจะต้องนึกถึงความปลอดภัยของทุกคนในรถ ไม่ให้เกิดอุบัติเหตุสูญเสียชีวิตซ้ำอีก
ที่มา : นสพ.ข่าวสด ฉบับวันที่ 20 ส.ค. 2558 (กรอบบ่าย)
- 11 views