สธ.เตรียมเพิ่มมาตรการช่วยเหลือ จนท.บาดเจ็บ เสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่

รมว.สธ.เตรียมเพิ่มมาตรการช่วยเหลือเจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่เจ็บป่วยจากโรคติดต่อร้ายแรง รวมทั้งได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจ บรรเทาความเดือดร้อนของครอบครัว

ศ.นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับกรณีรถพยาบาลโรงพยาบาลบ้านใหม่ไชยพจน์ จ.บุรีรัมย์ ประสบอุบัติเหตุระหว่างนำส่งผู้ป่วยไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลศูนย์บุรีรัมย์ เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคมที่ผ่านมา และมีพยาบาลเสียชีวิต 1 คน ว่า จากเหตุการณ์ครั้งนี้ ได้มอบให้สำนักสาธารณสุขฉุกเฉิน เร่งอบรมพนักงานขับรถพยาบาลฉุกเฉิน และทบทวนสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุของรถพยาบาล เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุซ้ำอีก ซึ่งรถพยาบาลมีทั้งผู้ป่วย ญาติ และพยาบาลที่คอยดูแล จะต้องได้รับความปลอดภัยระหว่างนำส่ง กรณีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ ให้ได้รับเงินเยียวยาเพิ่มขึ้น เพื่อเป็นขวัญกำลังใจ บรรเทาความเดือดร้อนของครอบครัว โดยได้ให้มอบหมายให้รักษาราชการแทนปลัดกระทรวงสาธารณสุข เร่งพิจารณาออกระเบียบของกระทรวงสาธารณสุขเพิ่มเติม

นอกจากนี้ ได้มีนโยบายเพิ่มการช่วยเหลือเจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่ได้รับผลกระทบจากการปฏิบัติงานดูแลผู้ป่วย เช่นติดโรคติดต่ออื่นๆ ได้รับการบาดเจ็บ ซึ่งตามระเบียบของกระทรวงการคลังที่ผ่านมา ได้มีการเยียวยาเฉพาะโรคเอดส์ อีโบลา และเมอร์ส นอกจากนี้ ตาม พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2545 ว่าด้วยการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากบริการทางการแพทย์ ยังให้การช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ผู้ให้บริการน้อยมากปีละประมาณ 3-5 ล้านบาท จะได้หารือแนวทางกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) โดยเร็วที่สุด

ทั้งนี้ สำหรับการช่วยเหลือเบื้องต้นแก่บุคลากรการแพทย์และสาธารณสุขที่ได้รับความเสียหาย ซึ่งที่ผ่านมา หากเป็นผู้ป่วยสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ จะใช้เงินจากกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาตินั้น ล่าสุด จากผลการตรวจสอบของ คณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.) ระบุว่า เป็นการใช้เงินผิดวัตถุประสงค์ ซึ่งที่ประชุมบอร์ด สปสช.วันที่ 3 ส.ค.นี้ จะมีการพิจารณาเพื่อหางบประมาณจากแหล่งอื่นมาใช้แทน โดยมีรายงานข่าวว่าอาจจะใช้เงินสนับสนุนกิจกรรมภาครัฐจากองค์การเภสัชกรรม (อภ.) เพื่อช่วยเหลือบุคลากรการแพทย์และสาธารณสุขที่ได้รับความเสียหายไปก่อน