“หมอวินัย” ไม่ค้านคำสั่ง แต่ขอความเป็นธรรม เผยยังไม่รู้สาเหตุที่แท้จริง

เลขาธิการ สปสช.แจงไม่คัดค้านคำสั่ง แต่ข้องใจเหตุใดถูกใช้ ม.44 เด้ง ช่วยราชการที่ สป.สธ. ทำให้สังคมเข้าใจผิดว่ามีปัญหาทุจริต แจงไม่ทราบสาเหตุถูกสั่งย้ายครั้งนี้ ยันไม่เคยถูกตั้งข้อสงสัยหรือข้อกล่าวหาว่าทุจริต ที่ผ่านมาเป็นการตรวจสอบการใช้ดุลพินิจในการใช้อำนาจของคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพ วอนขอความเป็นธรรม

เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2558 ณ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) นพ.วินัย สวัสดิวร เลขาธิการ สปสช. เปิดเผยภายหลังมีคำสั่ง คสช.ที่ 19/2558 ระงับการปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว และให้ไปปฏิบัติราชการในสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สป.สธ.) ว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่ทราบว่าสาเหตุของการถูกสั่งช่วยราชการครั้งนี้คืออะไร ไม่ได้มีการแจ้งให้ทราบว่าเกิดจากอะไร เพราะที่ผ่านมาไม่เคยถูกกล่าวหาว่าทุจริต การตรวจสอบที่เกิดขึ้นเป็นการตรวจสอบการใช้ดุลพินิจในการใช้อำนาจของคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ในการกำหนดหลักเกณฑ์การบริหารกองทุน เช่น การใช้อำนาจตามมาตรา 18(4) กรณีการจ่ายเงิ่นช่วยเหลือเบื้องต้นแก่ผู้ให้บริการ ไม่มีปัญหาการตรวจสอบการทำหน้าที่ของเลขาธิการ หลังจากได้รับหนังสือจาก ป.ป.ท.ให้ส่งข้อมูล เอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องเพื่อทำการตรวจสอบข้อเท็จจริง ก็ให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ ส่วนกรณีที่ คตร.ทำหนังสือลงวันที่ 15 พฤษภาคม 2558 ถึง รมว.สธ.ให้แก้ไขความบกพร่องในการบริหารกองทุน โดยให้เวลาดำเนินการ 1 เดือน ก็ได้ส่งผลการดำเนินการให้แก่ รมว.สธ.ได้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาที่กำหนด ทั้งนี้ตนไม่ได้คัดค้านคำสั่ง คสช.ยินดีปฏิบัติตามที่สั่ง แต่ไม่เข้าใจว่าเป็นเพราะเหตุใด จึงต้องขอความเป็นธรรมตรงนี้

นพ.วินัย กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม การทำงานของคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติทุกชุด ได้ตัดสินใจภายใต้กฎหมายหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ โดยยึดผลประโยชน์ของประชาชนเป็นสำคัญ แต่ก็ไม่ละเลยผู้ให้บริการที่เป็นภาคส่วนสำคัญ เห็นได้จากการออกหลักเกณฑ์การช่วยเหลือเบื้องต้นผู้ให้บริการที่ได้รับความเสียหายจากการให้บริการทางการแพทย์ ซึ่งจะมีส่วนช่วยเหลือในด้านขวัญและกำลังใจแก่ผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ ต้องเรียนให้ทุกคนทราบว่า ระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าจะยังเดินหน้าต่อไปได้ แม้ที่ผ่านมาจะถูกกล่าวหาโจมตีมากมาย แต่เมื่อมีการสอบสวนก็ไม่พบตามข้อกล่าวหานั้น โดยเฉพาะข้อกล่าวหาใหญ่สุดที่ว่าเป็นภาระของประเทศ ก็ไม่เป็นความจริง เพราะเป็นสิทธิสุขภาพที่รัฐดำเนินการให้กับประชาชน

“ตลอดระยะเวลา 7 ปีที่ทำหน้าที่เลขาธิการ ผมได้ทุ่มเททำงานเพื่อพัฒนาระบบหลักประกันสุขภาพเพื่อประชาชนอย่างเต็มที่ ได้รับการประเมินผลการปฏิบัติงานในระดับดีเยี่ยม หรือ A ติดต่อกันทุกปี ทำให้สปสช.ได้รับรางวัลการบริหารกองทุนหมุนเวียนดีเด่นจากกรมบัญชีกลางติดต่อกันถึง 6 ปี และที่ผ่านมาก็ไม่ได้มีปัญหาการทำหน้าที่เลขาธิการแต่อย่างใด ผมเคารพในคำสั่งโยกย้าย แต่การใช้มาตรา 44 นี้เป็นการย้ายด้วยวิธีพิเศษ ที่ควรจะเป็นไปเพราะบุคคลมีปัญหาทุจริต ประพฤติมิชอบ หากปล่อยไปจะเกิดความเสียหาย หรือไร้ความสามารถ แต่เมื่อไม่มีเหตุเช่นนั้น เพราะไม่ถูกกล่าวหา จึงไม่ทราบว่ามีสาเหตุจากอะไร จึงขอเรียกร้องความเป็นธรรม” เลขาธิการ สปสช.กล่าว

“ส่วนตัวผมไม่รู้สึกอะไร และเรายืนยันมาเสมอว่าการบริหารเงินกองทุน สปสช. ที่มีมูลค่าเป็นแสนล้านต้องตรวจสอบได้ และที่ผ่านมาเราก็ถูกตรวจสอบอย่างต่อเนื่องจากหลายหน่วยงาน ขอให้เจ้าหน้าที่อย่าเสียกำลังใจ และขอให้ทีมงานทุกคนทำหน้าที่ต่อ โดยเฉพาะการทำกติกางบประมาณหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ปี 2559 ซึ่งขณะนี้คืบหน้าไปมาก และมีความร่วมมือกับกระทรวงสาธารณสุขเป็นอย่างดี” นพ.วินัยกล่าว

เลขาธิการสปสช. กล่าวอีกว่า ขณะนี้ยังรอหนังสืออย่างเป็นทางการจาก คสช. เพราะเท่าที่ทราบข่าว ทราบมาจากไลน์ที่ส่งต่อกันเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ได้พูดคุยกับ ศ.นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รมว.สาธารณสุขแล้ว แต่ รมว.สาธารณสุข ก็ยังไม่ทราบสาเหตุเช่นเดียวกัน ซึ่งก็คงต้องรอหนังสือที่เป็นทางการต่อไป

ภายหลัง นพ.วินัย แถลงข่าว พนักงานได้รวมตัวกันมอบดอกกุหลาบให้กำลังใจ โดยบรรยากาศภายใน สปสช.มีการดับไฟลงทั้งหมด โดยให้พนักงานเปิดไฟฉาย และจุดเทียน เพื่อสะท้อนถึงความมืดมนจากคำสั่งของคสช.