ซัด นายกฯ ตื้นเขิน มองคนไม่เท่ากัน ทำ 30 บาทอนาถา ท้า ขรก.ระดับ 10 เสียสละไม่ใช้สิทธิรักษาก่อน

‘กรรณิการ์’ โต้กลับ พล.อ.ประยุทธ์ ซัดคิดตื้นเขิน มองคนไม่เท่ากัน ลดทอนสวัสดิการรักษาพยาบาลเป็นสังคมสงเคราะห์อนาถาเท่านั้น ท้าให้ ขรก.ระดับ 10 ทดลองเสียสละไม่ใช้สิทธิรักษาพยาบาลก่อน เพื่อให้เป็นสวัสดิการของ ขรก.ผู้น้อยเท่านั้น ก่อนจะนำมาใช้กับประชาชน ระบุ ไม่แปลกใจที่คิดเช่นนี้ เพราะมีล๊อบบี้ยิสต์ใกล้ตัว แม้แต่รองนายกฯ ด้านสังคมก็มีน้องสาวที่เคยทำงานในสมาคมยาข้ามชาติที่ต้องการบั่นทอนระบบหลักประกันสุขภาพให้อ่อนแอ เพราะที่ผ่านมาต่อรองราคายาจนบริษัทยาได้กำไรลดลง

นางสาวกรรณิการ์ กิจติเวชกุล

25 เม.ย.นางสาวกรรณิการ์ กิจติเวชกุล ผู้ประสานงานกลุ่มศึกษาข้อตกลงเขตการค้าเสรีภาคประชาชน (เอฟทีเอ ว็อชท์) โพสต์ Facebook แสดงความคิดเห็น กรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการคืนความสุขให้คนในชาติ เมื่อวันที่ 24 เม.ย.ที่ระบุให้คนรวยเสียสละไม่ใช้สิทธิ์ 30 บาทรักษาทุกโรค เพื่อทำกุศลให้คนจน (ดูข่าว ที่นี่)ว่า เป็นความคิดที่ตื้นเขินอย่างที่สุด ไม่เข้าใจหลักการประกันสิทธิสุขภาพให้กับประชาชน มองเห็นคนไม่เท่ากัน ต้องการลดทอนสวัสดิการพื้นฐานของประชาชนให้เหลือเพียงการสังคมสงเคราะห์อนาถาเท่านั้น และระบุว่า ดังนั้นเพื่อให้ ข้าราชการระดับสูง นักรัฐประหาร ผู้บริหารประเทศเรียนรู้เรื่องดังกล่าวมากขึ้น ขอให้ข้าราชการระดับ 10 ขึ้นไปและครอบครัว รวมทั้งข้าราชการบำนาญที่เกษียณระดับ 10 ให้ทดสอบเสียสละไม่ใช้สวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการ เพื่อให้เป็นสวัสดิการของข้าราชการชั้นผู้น้อยเท่านั้น

นางสาวกรรณิการ์ กล่าวต่อว่า แต่ก็ไม่แปลกใจกับแนวคิดเช่นนี้ เพราะแม้แต่รองนายกรัฐมนตรีด้านสังคม ยังมีน้องสาวที่เคยทำงานในสมาคมบริษัทยาข้ามชาติ และมีแนวคิดที่จะทำให้ระบบหลักประกันสุขภาพอ่อนแอ เนื่องจากความเข้มแข็งของระบบหลักประกันสุขภาพตอนนี้ทำให้เกิดการต่อรองราคายา จนนบริษัทยาเสียประโยชน์ และหาก นายกฯ และครม.ยังคงโลกแคบ ฟังแต่กลุ่มผลประโยชน์ ก็ไม่ได้แตกต่างจากพวกนักการเมืองที่กล่าวหาจนหยิบมาเป็นข้ออ้างในการรัฐประหาร

รายละเอียดทั้งหมดมีต่อไปนี้

"บอกได้อย่างเดียวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังมีความตื้นเขินอย่างที่สุด ไม่เข้าใจหลักการการประกันสิทธิพื้นฐานสุขภาพให้กับประชาชน มองเห็นคนไม่เท่ากัน ต้องการลดทอนสวัสดิการพื้นฐานของประชาชนให้เหลือเพียงการสังคมสงเคราะห์อนาถาเท่านั้น

ดังนั้นเพื่อให้ข้าราชการระดับสูง นักรัฐประหาร ผู้บริหารประเทศได้เรียนรู้และมีความเข้าใจในเรื่องดังกล่าวมากยิ่งขึ้น ขอให้ข้าราชการระดับ 10 หรือเทียบเท่า ขึ้นไปและครอบครัว รวมทั้งข้าราชการบำนาญที่จบอายุราชการในขณะดำรงตำแหน่งระดับ 10 หรือเทียบเท่าขึ้นไป
ทดสอบด้วยการเสียสละไม่ใช้ระบบสวัสดิการรักษาพยาบาลของข้าราชการ เพื่อให้ระบบสวัสดิการนี้เป็นไปเพื่อข้าราชการผู้น้อยเท่านั้น ก่อนที่จะนำมาใช้กับระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า

ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่โปรดลองเริ่มเสียสละ จะได้เรียนรู้แนวคิดของท่านฯ นายกที่มาจากการรัฐประหารนี้ร่วมกัน

อย่างไรก็ตาม ดิฉันมิได้แปลกใจที่รัฐบาลของท่านจะมีแนวความคิดเช่นนี้ เพราะเมื่อคณะรัฐประหาร/คณะรัฐมนตรีโลกแคบ ก็เป็นโอกาสของบรรดาล๊อบบี้ยิสต์และกลุ่มทุนต่างๆ ที่จะเข้าไปปั่นหัว ในกรณีของท่าน ล๊อบบี้ยิสต์ก็อยู่ใกล้ตัวเสียเหลือเกิน เพราะรองนายกฯที่ดูแลด้านสังคมมีน้องสาวที่เคยทำงานอยู่ในสมาคมบริษัทยาข้ามชาติ

แนวความคิดที่จะทำให้ระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าง่อยเปลี้ยเสียขา เป็นสุดยอดปรารถนาของอุตสาหกรรมยายักษ์ใหญ่และแก๊งค์โรงพยาบาลเอกชน เพราะความเข้มแข็งของระบบหลักประกันสุขภาพทำให้เกิดการต่อรองราคายาและค่ารักษาพยาบาลด้วยหลักฐานข้อมูลที่เป็นจริง ทุนเหล่านั้นจึงไม่สามารถแสวงหากำไรจากชีวิตประชาชนแบบบ้าเลือดได้

หากคณะรัฐประหาร/คณะรัฐมนตรียังคงโลกแคบและฟังแต่กลุ่มผลประโยชน์เหล่านี้ พวกท่านก็ไม่ได้ต่างจากนักการเมืองขี้ฉ้อที่ท่านได้กล่าวหาเขาจนหยิบมาเป็นข้ออ้างในการรัฐประหาร"

กรรณิการ์ กิจติเวชกุล

ปล. ยินดีพร้อมถูกเรียกเข้าไปปรับทัศนคติและเพิ่มพูนความรู้และมุมมองให้คณะรัฐประหารและคณะรัฐมนตรีค่ะ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นายกฯ ขอคนรวย หรือกลางๆ สละสิทธิ์ใช้ 30 บาท ยกให้คนยากจน ชี้เป็นกุศล

ยันสุขภาพเป็นสิทธิพื้นฐาน ไทยมาไกลเกินกลับไปเป็นสงเคราะห์

‘นพ.รัชตะ’ ชี้นายกฯ ห่วงงบรักษาพยาบาลเพิ่ม หนุนคนรวยบริจาคให้กองทุน 30 บาท