‘กลุ่มเยาวชน’พบ‘รองนายกฯ’ร้องรบ.เดินหน้าพรบ.ยาสูบใหม่

น.ส.สุภาพรรณ์ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 8 เม.ย.ที่ผ่านมา เครือข่ายเยาวชนฯและภาคีหลายองค์กร ได้เข้ายื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ผ่านทางศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ เพื่อแสดงเจตนาสนับสนุน ร่างพ.ร.บ.ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ ฉบับใหม่ เนื่องจากปัจจุบันแนวโน้มการสูบบุหรี่ของเด็กและเยาวชนไทยเพิ่มสูงขึ้น และที่น่าห่วงคือผู้มีอายุ 15-24 ปี สูบบุหรี่มากถึง 1,670,000 ราย ขณะที่งานวิจัยชี้ว่าหากป้องกันเด็กไทยไม่ให้ติดบุหรี่ได้ 1 คน จะประหยัดค่ารักษาโรคและลดความสูญเสียทางเศรษฐกิจได้คนละ 156,000 บาท อีกทั้งพบข้อมูลว่าเยาวชน 70 เปอร์เซ็นต์ ซื้อบุหรี่แบบแบ่งขาย กลายเป็นนักสูบหน้าใหม่และเสี่ยงต่อการติดบุหรี่ ที่สำคัญต้องยอมรับว่ากฎหมายเดิม คือ พ.ร.บ.ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ และพ.ร.บ.คุ้มครองสุขภาพของผู้ไม่สูบบุหรี่ไม่สามารถบังคับใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพเพราะมีอายุมากกว่า 20 ปีขณะที่บริษัทบุหรี่ได้พัฒนาเทคนิคการตลาดใหม่ๆ รวมทั้งมีผลิตภัณฑ์ยาสูบชนิดใหม่ๆ ออกสู่ตลาด ทำให้มีผู้เสพติดบุหรี่รายใหม่เกิดขึ้นต่อเนื่อง

 

“เครือข่ายเยาวชนฯ เฝ้าติดตามร่างกฎหมายฉบับนี้มานาน จึงแปลกใจทำไมยังเลื่อนพิจารณาร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้ จนเป็นที่กังขาว่ามีบริษัทบุหรี่ข้ามชาติเข้ามาแทรกแซง หรือมีการว่าจ้างบริษัทลอบบี้ยีสต์ระดับโลกรวมถึงการจัดตั้งองค์กรหน้าฉากที่หลากหลาย มาเคลื่อนไหวคัดค้านกฎหมายที่จะคุ้มครองชีวิตคนไทย เพียงต้องการปกป้องผลประโยชน์ทางธุรกิจโดยไม่สนชีวิตคน ”น.ส.สุภาพรรณ์ กล่าว

 

น.ส.สุภาพรรณ์ กล่าวว่า ข้อเรียกร้องของเครือข่ายเยาวชนฯ มี 3 ข้อคือ 1.ขอให้รัฐบาลเร่งพิจารณาผ่าน ร่างพ.ร.บ.ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบฉบับใหม่ เพื่อปกป้องเด็ก เยาวชน และสังคมไทยจากภัยยาสูบ โดยเครือข่ายหวังเป็นอย่างยิ่งว่ากฎหมายฉบับนี้จะคลอดได้ในรัฐบาลชุดนี้ซึ่งไม่มีผลประโยชน์และพรรคการเมืองมาครอบงำ 2.เครือข่ายขอให้กำลังใจรัฐบาลในการสร้างสรรค์สิ่งดีๆเพื่อสังคมไทย รวมถึงการต่อสู้กับความพยายามแทรกแซงของอุตสาหกรรมบุหรี่ข้ามชาติ และ 3.เครือข่ายเยาวชนพร้อมสนับสนุนการทำงานของรัฐบาลในการลดปัจจัยเสี่ยงทุกรูปแบบ และยินดีช่วยเฝ้าระวังร่วมแจ้งเบาะแสเพื่อการป้องกันและแก้ไขปัญหาปัจจัยเสี่ยงที่กระทบต่อเด็ก เยาวชนและประชาชนทุกรูปแบบ

 

ด้านนายยงยุทธ กล่าวว่า ดีใจที่เยาวชนให้ความสำคัญเกี่ยวกับการป้องกันนักสูบหน้าใหม่ โดยพ.ร.บ.ที่จะออกมาจะทำให้การซื้อบุหรี่แบ่งขายเป็นไปได้ยากขึ้น และควบคุมการขายบุหรี่แก่เยาวชนจาก 18 ปี เป็น 20 ปี ทำให้การเข้าถึงของเยาวชนยากขึ้น ส่วนที่มีความเป็นห่วงว่าจะกระทบต่อผู้เพาะปลูกยาสูบและผู้ค้ารายย่อยนั้น พ.ร.บ.ฉบับใหม่นี้จะเน้นการป้องกันนักสูบหน้าใหม่มากกว่า จึงไม่กระทบกลุ่มดังกล่าวมากนัก

 

นายยงยุทธ กล่าวถึงการป้องกันปัญหาเมาแล้วขับในช่วงเทศกาลสงกรานต์ว่า ทางกระทรวงหาดไทยและเจ้าหน้าที่ตำรวจจะรักษากฎหมายอย่างเคร่งครัด ซึ่งปัญหานี้ก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นซ้ำซาก แต่หวังว่าประชาชนจะไม่ดื่มจนเกินเลย ถ้าดื่มมากเกินไปก็ไม่สนุก นอกจากนี้ทางกระทรวงสาธารณสุขก็เตรียมเจ้าหน้าที่อาสาสมัครคอยช่วยเหลือประชาชนหากเกิดอุบัติเหตุ และหากมีเหตุฉุกเฉินก็สามารถไปได้ที่ศูนย์การแพทย์ฉุกเฉินของกระทรวงสาธารณสุขที่เบอร์ 1669

 

ที่มา: www.komchadluek.net