นสพ.กรุงเทพธุรกิจ : แมคโดนัลด์ คอร์ป มีแผนที่จะจำกัดการใช้ยาปฏิชีวนะในไก่ที่จัดหาให้กับบริษัทในตลาดสหรัฐ นับเป็นการเคลื่อนไหวที่อาจจะช่วยจุดชนวน ให้เกิดการตอบสนองเป็นวงกว้างจากอุตสาหกรรมอาหาร ต่อเรื่องเชื้อแบคทีเรียดื้อยา ที่กำลังสร้างความกังวลต่อวงการสาธารณสุขเพิ่มขึ้น เครือข่ายร้านอาหารจานด่วนรายใหญ่สุดของโลกรายนี้ ระบุว่า ในช่วง 2 ปีข้างหน้า บริษัทจะเลิกขายแมคนักเก็ต และผลิตภัณฑ์ไก่อื่นๆ ในสหรัฐ ที่ทำมาจากไก่ที่เลี้ยงด้วยยาปฏิชีวนะที่จะส่งผลกระทบต่อสุขภาพของคน แต่ยังจะอนุญาตให้ผู้จัดหาใช้ยาปฏิชีวนะที่ไม่ได้มีส่วนสำคัญต่อยาของคนแต่อย่างใด
แม้การเปลี่ยนแปลงนี้จะไม่ได้นำไปใช้กับผลิตภัณฑ์ประเภทแฮมเบอร์เกอร์ด้วย แต่การเคลื่อนไหวนี้ ทำให้แมคโดนัลด์กลายเป็นบริษัทรายใหญ่สุด ที่ออกมาให้คำมั่นเกี่ยวกับเรื่องการใช้ยาในปศุสัตว์ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้ จะครอบคลุมถึงสาขาต่างๆ ในสหรัฐมากกว่า 14,350 แห่ง และจะมีการเปลี่ยนแปลงในระดับที่น้อยกว่านี้ ตามร้านสาขาในต่างประเทศเกือบ 22,000 สาขา
แมคโดนัลด์ยังจะร่วมมือในด้านนี้กับบรรดาผู้จัดหาเนื้อไก่ รวมถึง ไทสัน ฟู้ดส์ อิงค์ ผู้ผลิตเนื้อสัตว์ตัดแต่งรายใหญ่สุดของสหรัฐ ที่เคยระบุก่อนหน้านี้ว่า มีการดำเนินมาตรการควบคุมการใช้ยาปฏิชีวนะในไก่ไปหลายขั้นตอนแล้ว
นางเกล เฮนเซน เจ้าหน้าที่อาวุโส จากพิว ชาริเทเบิล ทรัสต์ องค์กรที่วิจารณ์เกี่ยวกับการใช้ยาปฏิชีวนะของอุตสาหกรรมผลิตเนื้อสัตว์มาเป็นเวลานาน ระบุว่า เรื่องดังกล่าว ถือเป็นข่าวดีสำหรับสุขภาพของคนทั่วไป และว่า การเคลื่อนไหวของแมคโดนัลด์ จะทำให้ผู้ผลิตเนื้อสัตว์ ต้องปรับเปลี่ยนวิธีการเลี้ยงไก่ ทั้งยังมีแนวโน้มจะทำให้เป็นเรื่องง่ายขึ้นสำหรับผู้ผลิตอาหาร และร้านอาหารต่างๆ ที่จะทำตามแบบนี้
"เรื่องนี้จะส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง อาจกระทบทั่วทั้งอุตสาหกรรมอาหารเลยทีเดียว"
การประกาศข้างต้น ยังมีขึ้นเพียง 3 วัน หลังจากที่นายสตีฟ อีสเตอร์บรูค เข้ารับตำแหน่งหัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) แมคโดนัลด์ ซึ่งเขาได้ให้คำมั่นถึงการเปลี่ยนแปลงการดำเนินงานของยักษ์ใหญ่ด้านอาหารจานด่วนรายนี้ ที่ต้องเจอกับยอดขายย่ำแย่ต่อเนื่องมาถึง 2 ปี และเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ นายดอน ทอมป์สัน ซีอีโอคนก่อนหน้าเขา ตัดสินใจเกษียณอายุ
นายอีสเตอร์บรูค ยังเคยกล่าวต่อนักวิเคราะห์เมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อนหน้านี้ว่า เขามองตัวเองเหมือนกับเป็นนักเคลื่อนไหวภายใน ผู้มีแผนที่สร้างบริษัทแฮมเบอร์เกอร์ที่มีความทันสมัย และก้าวหน้า ซึ่งท่าทีของซีอีโอคนใหม่นี้ ยังทำให้บรรดานักสังเกตการณ์ ประเมินว่า มีความเป็นไปได้ที่บริษัทอาจมีการปรับเปลี่ยนส่วนผสมของอาการ เพื่อปรับปรุงภาพลักษณ์ของแมคโดนัลด์ ในสายตาของผู้บริโภคให้ดูดีขึ้น
แมคโดนัลด์ เผยด้วยว่า จะมีการขายผลิตภัณฑ์นมให้กับลูกค้า โดยเป็นนมที่ได้มาจากวัวที่ไม่ได้ใช้สารเร่งโต โดยการประกาศเหล่านี้ เกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกับที่แมคโดนัลด์ จัดประชุมใหญ่ในลาสเวกัส ที่ผู้ประชุม รวมถึง ผู้ซื้อแฟรนไชส์ในสหรัฐ ซัพพลายเออร์ และผู้ถือหุ้นรายอื่นๆ โดยเน้นหารือในเรื่องที่บริษัทระบุว่า เป็นเรื่องการปรับเปลี่ยนองค์กร
ปัจจุบัน มีบริษัทผลิตเนื้อสัตว์ และเครือข่ายร้านอาหารขนาดเล็กจำนวนมากขึ้น ที่หันมาใช้เนื้อสัตว์ที่ปราศจากยาปฏิชีวนะ และบางรายมีการดำเนินงานที่ไปไกลกว่าที่แมคโดนัลด์ลงมือทำ
ผู้ผลิตเนื้อจำนวนหนึ่ง รวมถึง เปอร์ดู ฟาร์ม อิงค์ ต่างยกเลิกการใช้ยาปฏิชีวนะมาหลายปีแล้ว เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภค
ขณะที่ไทสัน ซึ่งขายเนื้อไก่ และเนื้อวัว ปลอดยาปฏิชีวนะภายใต้แบรนด์ของตัวเอง ระบุว่า นับถึงเดือนต.ค.ที่ผ่านมา บริษัทเลิกใช้ยาปฏิชีวนะกับโรงเลี้ยงไก่ไปแล้ว 35 แห่ง แต่ยังมีการใช้ยาปฏิชีวนะที่ได้รับอนุญาตในสหรัฐเพียงจำนวนเล็กน้อยกับปศุสัตว์ของบริษัท เพื่อรักษา หรือป้องกันโรคที่เกี่ยวกับสัตว์ปีก
ที่มา : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ วันที่ 6 มีนาคม 2558
- 24 views