รมว.สธ.เปิดงานสัปดาห์มอบของขวัญปีใหม่ 2558 ที่เขตสุขภาพที่ 9 จังหวัดนครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ และ สุรินทร์ โดยปีใหม่นี้ประชาชนไทยจะได้รับของขวัญด้านสุขภาพจาก กระทรวงสาธารณสุข 6 เรื่องฟรี ได้แก่ โครงการรากฟันเทียมพระราชทาน โครงการดูแลผู้สูงอายุ โครงการจัดทีมหมอประจำครอบครัว โครงการจัดบริการดูแลผู้ป่วยระยะท้ายของชีวิต โครงการป้องกันโรคร้ายด้วยวัคซีน และการผ่าตัดตาต้อกระจก สร้างรอยยิ้ม ประชาชนทุกวัยมีสุขภาพดี
12 ธ.ค.57 ที่โรงแรมสีมาธานี อ.เมือง จ.นครราชสีมา ศ.นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดงานสัปดาห์มอบของขวัญปีใหม่ พ.ศ.2558 ซึ่งจะมอบให้ประชาชนที่อยู่ในเขต สุขภาพที่ 9 เขตนครชัยบุรินทร์ ซึ่งประกอบด้วย 4 จังหวัด ได้แก่ นครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ และสุรินทร์ ซึ่งมีประชากรทั้งหมดรวม 6 ล้านกว่าคน หลังจากนั้นได้เดินทางตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลมหาราช นครราชสีมา เพื่อเยี่ยมชมงานบริการผ่าตัดตาต้อกระจก หน่วยบริการผู้ป่วยระยะท้ายของชีวิต และงาน ทันตกรรม ฝังรากฟันเทียมเพื่อใช้เป็นฐานยึดฟันเทียมให้แน่น ไม่มีปัญหาเลื่อนหลุดขณะใช้งาน
ศ.นพ.รัชตะ ให้สัมภาษณ์ว่า ในปีใหม่ 2558 นี้ กระทรวงสาธารณสุขได้จัดเตรียมงานบริการในด้านสุขภาพมอบเป็นของขวัญให้ประชาชนไทยทุกพื้นที่ทั่วประเทศ มีสุขภาพดีและมีรอยยิ้มทั้งครัวเรือนจำนวน 6 โครงการฟรี ได้แก่ 1.โครงการรากฟันเทียมพระราชทาน เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตั้งเป้าใส่ฟันเทียมให้ผู้อายุ 50 ปีขึ้นไป ที่ไม่มีฟันจำนวน 35,000 คน และฝังรากฟันเทียมให้ผู้ที่มีปัญหาฟันเทียมเลื่อนหลุดขณะเคี้ยวอาหาร จำนวน 8,400 คน ดำเนินการในโรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป ทั้งในและนอกสังกัด 200 แห่ง
2.โครงการคุ้มครองคนไทยจากโรคร้ายด้วยวัคซีนป้องกันโรคคอตีบ-บาดทะยัก แก่ประชาชนอายุ 20-50 ปี จำนวน 28 ล้านคน และฉีดวัคซีนป้องกันโรคหัดในเด็กอายุ 2 ปี 6 เดือน- 7 ปี รวม 3 ล้านกว่าคน ที่โรงพยาบาลในสังกัด ทุกระดับ และที่ศูนย์สุขภาพชุมชนเมือง รวมกว่า 10,000 แห่ง เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมายุครบ 60 พรรษา
3.โครงการตรวจคัดกรองผู้สูงอายุที่มี 9 ล้านกว่าคนทั่วประเทศ เพื่อจำแนกกลุ่มผู้สูงอายุที่ไม่สามารถดูแลช่วยเหลือตัวเองได้ ต้องพึ่งพิงบุคคลอื่นช่วยดูแล โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่ติดบ้านและติดเตียง โดยจะจัดทีมเจ้าหน้าที่ไปให้การดูแลถึงบ้าน 4.โครงการแก้ปัญหาผู้ที่สายตาพิการจากต้อกระจก โดยจะตรวจคัดกรองและผ่าตัดเปลี่ยนใส่เลนซ์ตาเทียมให้ผู้ป่วยกลับมามองเห็นตามปกติ ดำเนินการในโรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไปและโรงพยาบาลชุมชน 5.โครงการพัฒนาทีมหมอประจำครอบครัว 22 ล้านครัวเรือนทั่วประเทศ สร้างความใกล้ชิดการดูแลสุขภาพ ทุกครอบครัวจะมีหมอประจำ ทั้งให้การดูแลและเป็นที่ปรึกษาประดุจเป็นเครือญาติ และ 6.โครงการจัดตั้งหน่วยประคับประคองดูแลผู้ป่วยอยู่ในระยะท้ายของชีวิตทั้งในโรงพยาบาลและที่บ้าน เพื่อบรรเทาความทุกข์ทรมานผู้ป่วยก่อนเสียชีวิต เพิ่มขวัญกำลังใจแก่ญาติ ซึ่งจากการไปตรวจเยี่ยมที่เขตสุขภาพที่ 9 พบว่ามีความพร้อมที่จะให้บริการมอบเป็นของขวัญแก่ประชาชนแล้ว
นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 9 กล่าวว่า เขตสุขภาพที่ 9 ได้จัดเตรียมบริการเพื่อมอบเป็นของขวัญประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัด ประกอบด้วย 1.การจัดตั้งหน่วยประคับประคองดูแลผู้ป่วยอยู่ในระยะท้าย ของชีวิตทั้งในโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา รพ.บุรีรัมย์ รพ.สุรินทร์และรพ.ชัยภูมิ 2.จัดอบรมความพร้อมเจ้าหน้าที่ เป็นทีมหมอประจำครอบครัวแล้วทั้งเขต พร้อมดำเนินการได้ทันที กำหนดหมอครอบครัว 1 คน ดูแลประชาชน 1,250 - 2,500 คน เน้นดำเนินงานในลักษณะองค์รวม โดยประสานความร่วมมือกับทุกภาคีสุขภาพด้วย 3.โครงการคุ้มครองคนไทยจากโรคร้ายด้วยวัคซีนป้องกันโรคคอตีบ-บาดทะยัก ให้แก่ประชาชนอายุ 20-50 ปี เป้าหมายจำนวน 2,078,437 คน ขณะนี้ฉีดไปแล้วร้อยละ 62 และฉีดวัคซีนป้องกันโรคหัดในเด็กอายุ 2 ปี 6 เดือน - 7 ปี เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ขอเชิญชวนประชาชนติดต่อรับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคคอตีบ-บาดทะยัก ฟรี จนถึงวันที่ 31 ธันวาคมนี้ได้ที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล โรงพยาบาลชุมชน ศูนย์สุขภาพชุมชนเมืองและโรงพยาบาลทุกสังกัดที่อยู่ใกล้บ้าน
สำหรับอีก 3 โครงการ ดำเนินการในกลุ่มของผู้สูงอายุ โดยกำหนดจัดสัปดาห์มอบของขวัญปีใหม่แก่ผู้สูงอายุ ระหว่างวันที่ 15-19 ธันวาคม พ.ศ. 2557 บริการในโรงพยาบาลทุกระดับรวม 1,070 แห่งเต็มพื้นที่พร้อมกันทั้ง 4 จังหวัด โดยมีผู้สูงอายุทั้งหมด 258,000 คน หรือประมาณร้อยละ 12 ของประชากรทั้งหมด ได้แก่ 1.การตรวจคัดกรองสุขภาพเพื่อจำแนกกลุ่มผู้สูงอายุตามภาวะพึ่งพิง ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มติดสังคม ติดบ้าน และติดเตียง ซึ่งที่ผ่านมา ได้ขึ้นทะเบียนผู้สูงอายุติดบ้านแล้ว 18,890 คน และผู้สูงอายุติดเตียง ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ 4,153 คน 2.ตรวจฟันและสุขภาพช่องปาก ค้นหาผู้ที่จำเป็นต้องใส่ฟันเทียมและรากฟันเทียม โดยมีคัดกรองให้บริการที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล และจัดบริการในรพ. 15 แห่ง ได้แก่ รพ.มหาราชนครราชสีมา , รพ.เทพรัตน์ , รพ.ประทาย รพ.บัวใหญ่ สำนักงานสาธารณสุข จ.บุรีรัมย์ รพ.ลำปลายมาศ รพ.บุรีรัมย์ รพ.นางรอง รพ.สุรินทร์ รพ.ปราสาท รพ.ท่าตูม รพ.ลำดวน รพ.ชัยภูมิ รพ.บ้านเขว้า และรพ.ภูเขียว 3. ตรวจสายตา เพื่อค้นหาคัดกรองตาต้อกระจก ขึ้นทะเบียนผ่าตัดเปลี่ยนใส่เลนซ์แก้วตาเทียมที่โรงพยาบาล 11 แห่งได้แก่ รพ.มหาราชนครราชสีมา รพ.ปากช่องนานา รพ.บัวใหญ่ รพ.พิมาย รพ.ครบุรี รพ.บุรีรัมย์ รพ.นางรอง รพ.สุรินทร์ รพ.ปราสาท รพ.ชัยภูมิ และ รพ.ภูเขียว
- 13 views