กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ตรวจพบสาร Aildenafil ปลอมปนในยาแผนโบราณที่อวดอ้างสรรพคุณเสริมสมรรถภาพทางเพศ สารนี้ไม่มีข้อมูลความปลอดภัย จึงไม่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นยา อาจส่งผลร้ายต่อผู้ใช้ดังนั้นผู้บริโภคควรระมัดระวังการซื้อยาแผนโบราณที่มีสรรพคุณเสริมสมรรถภาพทางเพศมารับประทาน
นายแพทย์อภิชัย มงคล อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า กระแสความนิยมการใช้ผลิตภัณฑ์จากสมุนไพร หรือยาแผนโบราณที่มากขึ้นเพราะผู้บริโภคคิดว่าปลอดภัย จึงทำให้มีการหลอกลวง มีการโฆษณายาแผนโบราณที่อวดอ้างสรรพคุณต่างๆ มากมาย โดยเฉพาะสรรพคุณที่เสริมสมรรถภาพทางเพศ ซึ่งสรรพคุณดังกล่าวอาจไม่ได้มาจากสมุนไพรที่เป็นองค์ประกอบในยาแผนโบราณ แต่มาจากการปลอมปนยาแผนปัจจุบันกลุ่มที่มีฤทธิ์เสริมสมรรถภาพทางเพศ สารกลุ่มนี้ที่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นยาแผนปัจจุบันในประเทศไทย มี 3 ชนิด คือ Sildenafil หรือที่รู้จักกันดีในชื่อการค้าของต้นแบบว่า “ไวอากร้า” Tadalafil และ Vardenafil ซึ่งทั้งหมดเป็นยาควบคุมพิเศษ ต้องสั่งจ่ายโดยแพทย์เท่านั้น
จากข้อมูลทางห้องปฏิบัติการเพื่อเฝ้าระวังการปลอมปนยาเสริมสมรรถภาพทางเพศในยาแผนโบราณที่ผ่านมา ตรวจพบการใช้ไวอากร้า ปลอมปนในยาแผนโบราณเป็นส่วนใหญ่ นอกจากนี้ยังตรวจพบการใช้ยา Tadalafil, Vardenafil หรือใช้ทั้ง 2 ตัวยาผสมกันบ้าง ซึ่งแนวโน้มการใช้สารในการปลอมปนนี้มีการเปลี่ยนแปลงตลอด เพื่อเลี่ยงการถูกตรวจพบ โดยเปลี่ยนไปใช้สารที่มีโครงสร้างใกล้เคียงกันซึ่งคล้ายกับสารในกลุ่มที่มีฤทธิ์เสริมสมรรถภาพทางเพศ ทั้งนี้สำนักยาและวัตถุเสพติด กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เคยตรวจพบสาร Aminotadalafil ซึ่งเป็นสารที่มีโครงสร้างคล้ายคลึงกับยา Tadalafil ในปี พ.ศ.2554 และล่าสุดในปี พ.ศ. 2557 นี้ ได้ตรวจพบสารใหม่ซึ่งไม่เคยตรวจพบในยาแผนโบราณที่จำหน่ายในประเทศ คือ Aildenafil ซึ่งเป็นสารที่มีโครงสร้างคล้ายคลึงกับยา Sildenafil
อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวต่ออีกว่า แนวโน้มของปัญหาการปลอมปนสารกลุ่มนี้ในยาแผนโบราณ จะมีการเลี่ยงที่จะไม่ใช้ตัวยาหลัก ที่มีการตรวจสอบเป็นประจำ คือ Sildenafil, Tadalafil และ Vardenafil แต่จะไปใช้สารตัวอื่นหรือสารที่มีโครงสร้งคล้ายคลึงกับสารกลุ่มนี้แทน ซึ่งมีฤทธิ์ในการเสริมสมรรถภาพ เพื่อเลี่ยงการถูกตรวจพบ สารดังกล่าวเหล่านี้ไม่มีข้อมูลความปลอดภัย จึงไม่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นยา ทำให้มีความเสี่ยงมากยิ่งขึ้นหากบริโภคยาแผนโบราณที่ปลอมปนด้วยสารดังกล่าว เพราะนอกจากอันตรายที่เกิดจากสารกลุ่มนี้ที่มีฤทธิ์ในการขยายหลอดเลือดแดงที่อวัยวะเพศชายแล้ว ยังมีการขยายหลอดเลือดที่บริเวณอื่นของร่างกาย ส่งผลให้เกิดอาการปวดศีรษะ ตาลาย หน้าแดง อาหารไม่ย่อย หายใจลำบาก อาจสูญเสียการได้ยิน หรือเกิดความผิดปกติของระบบประสาทตาได้ หรืออาจทำให้ผู้ป่วยมีความดันโลหิตต่ำรุนแรงจนถึงแก่ชีวิตได้ หากใช้ร่วมกับยาอื่นที่เสริมฤทธิ์ในการขยายหลอดเลือด และยังอาจเกิดความเป็นพิษอื่นๆ จากสารนี้ได้ เนื่องจากไม่มีข้อมูลความเป็นพิษของสารเหล่านี้ ดังนั้นเพื่อความปลอดภัย ประชาชนผู้บริโภคไม่ควรซื้อยาแผนโบราณที่อวดอ้างสรรพคุณเสริมสมรรถภาพทางเพศมารับประทานเพราะอาจมีการปลอมปนสารดังกล่าว
- 125 views