บลจ.กสิกรไทย เผยธุรกิจกลุ่มเฮลธ์แคร์ทั่วโลกเติบโตอย่างต่อเนื่อง ชี้ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา อัตราการเติบโตขยายตัวสูงถึง 82% ส่งผลราคาหุ้นบริษัทในกลุ่มธุรกิจสุขภาพขยับขึ้นเหมือนเงาตามตัว มองเป็นโอกาสดีในการเข้าลงทุน สบช่องแต่งกองทุนใหม่ K-GHEALTH ลุยลงทุนในหุ้นกลุ่มสุขภาพชั้นนำทั่วโลก มั่นใจสร้างโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีต่อเนื่องระยะยาว
นายนาวิน อินทรสมบัติ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ.กสิกรไทย) หรือ KASSET เปิดเผยว่า แนวโน้มรายได้ของบริษัทจดทะเบียนใน กลุ่มธุรกิจสุขภาพทั่วโลกมีการเติบโตอย่าง ชัดเจน โดยในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา มีการ เติบโตขึ้นกว่า 82% โดยเฉพาะในประเทศ เกิดใหม่ที่เติบโตขึ้นเป็นเท่าตัว เนื่องจากประชากรหันมาใส่ใจดูแลสุขภาพมากขึ้น โดยมีผลสำรวจสนับสนุน พบว่าประชากร วัยสูงอายุ (60 ปีขึ้นไป) จากทั่วโลก จะมีจำนวนที่เพิ่มขึ้นกว่า 3 เท่า ในทุกๆ 50 ปี ส่งผลให้มูลค่าการใช้จ่ายด้านการดูแลสุขภาพมีแนวโน้มเติบโตตามไปด้วย
นอกจากนี้ในปี 2557 คาดว่าสัดส่วนการใช้จ่ายด้านสุขภาพต่อมูลค่าเศรษฐกิจโลก (GDP) มีสัดส่วนอยู่ที่ 10.5% และคาดว่าจะเติบโตต่อเนื่องโดยเฉลี่ยปีละประมาณ 5% ไปจนถึงปี พ.ศ. 2560 และหากนับมูลค่าการใช้จ่ายเฉพาะการซื้อเวชภัณฑ์ในปี 2560 คาดว่าจะสูงถึง 1.2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ที่มา: Deloitte, Global Healthcare Outlook, วันที่ 31 ก.ค. 57) นอกจากนี้นโยบายด้านการปฏิรูประบบสาธารณสุขในประเทศสหรัฐอเมริกา (Obama Care) ซึ่งสนับสนุนให้ประชาชนสามารถเข้าถึงประกันสุขภาพได้ง่ายขึ้น ส่งผลให้มีชาวอเมริกันที่สามารถเข้าถึงระบบรักษาพยาบาลได้เพิ่มขึ้นอีกกว่า 15 ล้านคน
จากปัจจัยที่กล่าวมา จึงส่งผลบวกต่อมูลค่าหุ้นและแนวโน้มระดับราคาหุ้นของบริษัทในกลุ่มธุรกิจดูแลสุขภาพ ให้สามารถเติบโตเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยปัจจุบันหุ้นในกลุ่มดังกล่าว มีมูลค่าตลาดประมาณ 4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 11% ของมูลค่าตลาดหุ้นโลก (MSCI World Healthcare Index, ณ 30 ก.ย. 57) และระดับราคา ปัจจุบัน ดัชนี MSCI World Healthcare มีอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิ (Forward P/E) ประมาณ 17.43 เท่า เทียบกับ ค่าเฉลี่ย 10 ปี ซึ่งอยู่ที่ 14.84 เท่า ซึ่งถึงแม้ว่าระดับราคาหุ้นปัจจุบันจะอยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูง แต่จากปัจจัยบวกที่ กล่าวมาข้างต้น บลจ.กสิกรไทย เชื่อมั่นว่า หุ้นในกลุ่มสุขภาพทั่วโลก จะยังสามารถเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในระยะยาว
ดังนั้นในระหว่างวันที่ 18-24 พฤศจิกายน 2557 บลจ.กสิกรไทย เตรียม เสนอขายกองทุนเปิดเค โกลบอล เฮลท์แคร์ หุ้นทุน (K-GHEALTH) มูลค่าโครงการ 5,000 ล้านบาท โดยกองทุน K-GHEALTH จะเน้นลงทุนในหุ้นกลุ่มสุขภาพในภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลก ผ่านกองทุน หลัก คือ JP Morgan Funds - Global Healthcare Fund, Class A (acc) ซึ่งกองทุนดังกล่าวบริหารจัดการโดย J.P. Morgan Asset Management หนึ่งในผู้จัดการกองทุนชั้นนำระดับโลก ที่มีสินทรัพย์ ภายใต้การบริหารกว่า 1.7 ล้านล้านดอลลาร์ สหรัฐ (ข้อมูล ณ 30 มิ.ย. 57) นอกจากนี้ กองทุนหลักยังได้รับการจัดอันดับ 5 ดาว จาก Morningstar และยังมีผลการดำเนินงานย้อนหลังที่สามารถเอาชนะเกณฑ์ มาตรฐานอย่างต่อเนื่อง โดยมีผลการดำเนิน งานย้อนหลังในรอบ 5 ปี เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 23.28% ต่อปี หรือคิดเป็นผล ดำเนินงานย้อนหลังสะสม 5 ปี อยู่ที่ ประมาณ 184.72% (ข้อมูล ณ 30 ก.ย. 57)
สำหรับนโยบายการลงทุนของกองทุนหลักนั้น จะเน้นลงทุนในหุ้นของบริษัทที่ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพทั่วโลก อาทิ เวชภัณฑ์ เทคโนโลยีชีวภาพ บริการด้านสุขภาพ และเทคโนโลยีการแพทย์ โดยให้น้ำหนักลงทุนในกลุ่มเวชภัณฑ์เป็นสัดส่วนมากที่สุดถึง 52% ขณะที่รองลงมาคือกลุ่มเทคโนโลยีชีวภาพ ในสัดส่วน 23.9% ซึ่งบริษัทส่วนใหญ่จดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกาถึง 60.3% ประกอบด้วยบริษัทชั้นนำระดับโลก เช่น บริษัท Johnson & Johnson ประเทศสหรัฐอเมริกา ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเวชภัณฑ์ เวชสำอาง และเครื่องใช้สำหรับโรงพยาบาล เจ้าของแบรนด์ชื่อดังอย่าง ไทลินอล (Tylenol), บริษัท Roche และบริษัท Novartis ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และบริษัท Biogen Idec ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นต้น
นอกจากนี้กองทุนหลักยังมีทีมงานจัดการลงทุนที่มีความเชี่ยวชาญในธุรกิจดูแลสุขภาพ ด้วยประสบการณ์เฉลี่ยยาวนานถึง 14 ปี โดยมีสำนักงานกระจายอยู่ในภูมิภาคต่างๆ เช่น นิวยอร์ก ลอนดอน และโตเกียว ทำให้มีความเชี่ยวชาญและสามารถเข้าถึงข้อมูลของบริษัทต่างๆ ได้อย่างเจาะลึกและแม่นยำ ทั้งนี้กองทุน K-GHEALTH เหมาะสำหรับนักลงทุนที่เชื่อมั่นต่อการเติบโตของหุ้นในกลุ่มสุขภาพ และคาดหวังผลตอบแทนที่สูงขึ้นในระยะยาว โดยสามารถยอมรับความเสี่ยงและความผันผวนที่สูงขึ้นจากการลงทุนในสินทรัพย์เฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรมได้
ทั้งนี้สำหรับผู้ลงทุนที่สนใจกองทุนเปิดเค โกลบอล เฮลท์แคร์ หุ้นทุน (K-GHEALTH) สามารถลงทุนได้ด้วยเงินลงทุนขั้นต่ำเพียง 5,000 บาท สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและขอรับหนังสือชี้ชวนเสนอขายได้ที่ธนาคารกสิกรไทยทุกสาขา หรือสอบถาม KAsset Contact Center 0-2673-3888
ที่มา : หนังสือพิมพ์ทันหุ้น วันที่ 13 พฤศจิกายน 2557
- 3 views