การเมือง-ขรก.ประจำประลองกำลัง ‘ธรรมาภิบาล’ กับศึกชิงดำผู้ตรวจ ‘ศุภกิจ-วันชัย’

2 พ.ย.57 ล่วงเลยเข้ามาจนถึงเดือนพฤศจิกายน ซึ่งถือเป็นเดือนที่ 2 ของปีงบประมาณใหม่แล้ว แต่กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ภายใต้การกุมบังเหียนของ 2 รมต.ใหม่ อย่าง ศ.นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รมว.สธ. และนพ.สมศักดิ์ ชุณหรัศมิ์ รมช.สธ. ก็ยังไม่สามารถเดินหน้าแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับ 10 ในระนาบผู้ตรวจราชการได้สำเร็จ เวลานี้ตำแหน่งผู้ตรวจราชการยังว่างอยู่ 2 ตำแหน่ง ขณะที่ตำแหน่งอื่นๆที่จะต้องตั้งเข้ามาทดแทน อย่างสาธารณสุขนิเทศก์ (จากพญ.ประนอม คำเที่ยง ที่ขยับขึ้นไปเป็นผู้ตรวจราชการ) และรองอธิบดีกรมควบคุมโรค (จากนพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ ที่ขยับขึ้นไปเป็นผู้ตรวจราชการ) ก็ยังว่างอยู่ นั่นจึงเท่ากับว่า นพ.สสจ.ที่จะขั้นมาแทนตำแหน่งเหล่านี้ก็ยังไม่มีใครรู้ว่าเป็นอย่างไรต่อไป

และนั่นจึงทำให้สธ. ณ เวลานี้อยู่ในภาวะของสุญญากาศ ผู้ตรวจราชการที่ถูกวางให้เป็น CEO เขตสุขภาพ ในบางเขตก็ว่างลงและชะงักงัน สิ่งที่เดินหน้าไปได้อย่างเดียวของสธ.ในเวลานี้คืองานประจำ ส่วนงานขับเคลื่อนนโยบายทั้งหลาย อยู่ในภาวะชะงักงัน รวมถึงนโยบายระยะสั้นอย่างของขวัญปีใหม่ ก็น่าจะทำสำเร็จได้ยาก

ตัวเก็งของผู้ตรวจราชการ 2 ตำแหน่งที่ว่างอยู่ระหว่างนี้นั้น มี 3 ชื่อเข้ามาเกี่ยวข้อง และเหตุที่ยังทำให้ตั้งไม่ได้ ก็ติดที่คำว่า ธรรมาภิบาล ที่ทั้งฝ่ายการเมือง(รมต.) และฝ่ายข้าราชการประจำ(ปลัด)ปักธงนำไว้ในการทำงาน และตอนนี้ได้กลายมาเป็นกับดักให้อีกฝ่ายหนึ่งจนไม่สามารถเดินหน้าได้

นพ.วันชัย สัตยาวุฒิพงศ์

ชื่อแรกที่แน่นอนว่าได้ขึ้นเป็นผู้ตรวจแล้วแน่นอนคือ นพ.สุเทพ วัชรปิยานันท์ จากระนาบผู้ช่วยปลัด ส่วนอีก 2 ชื่อที่ยังชิงกันอยู่ คือ นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ จากผู้ทรงคุณวุฒิ และ นพ.วันชัย สัตยาวุฒิพงศ์ จากระนาบของรองอธิบดี ในตำแหน่งรองอธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ซึ่งนพ.วันชัยแป้กอยู่ในตำแหน่งรองอธิบดีมากว่า 12 ปี แล้ว ถ้าดูเฉพาะกรณีนี้ ก็น่าจะเป็น นพ.วันชัยที่เหมาะสมกว่าในด้านอาวุโส

นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์

แต่หลักการแต่งตั้งข้าราชการระดับสูงของสธ.นั้น ใช้หลักของอาวุโสจากแต่ละสายขึ้นมา สำหรับในกรณีนี้ จะมี 4 สาย คือ ระนาบรองอธิบดี สาธารณสุขนิเทศก์ ผู้ช่วยปลัด และผู้ทรงคุณวุฒิ

รองอธิบดีที่ขึ้นสู่ผู้ตรวจไปแล้ว คือ นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ จากกรมควบคุมโรค ส่วนสาธารณสุขนิเทศก์ คือ พญ.ประนอม คำเที่ยง ซึ่งทั้ง 2 คนนี้เข้าสู่การแต่งตั้งผ่านครม.ไปแล้ว ยังเหลือ นพ.สุเทพ จากผู้ช่วยปลัด และนพ.ศุภกิจ ที่มาในสายตัวแทนของผู้ทรงคุณวุฒิ 

ดังนั้น เหตุที่ยังไม่ลงตัว เป็นเพราะโควต้าของรองอธิบดีถูกบายพาสจากคนที่ควรจะได้ขึ้นอย่าง นพ.วันชัย ไปสู่อาวุโสอันดับสองคือ นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ ที่ว่ากันว่ามีสายสัมพันธ์ใกล้ชิดกับรมช.สมศักดิ์ ดังนั้น หากครั้งนี้ จะให้โควต้าจากรองอธิบดี คือ นพ.วันชัย อีกคนได้ขึ้นเป็นผู้ตรวจ ก็จะเท่ากับว่า สายผู้ทรงคุณวุฒิปีนี้ไม่มีการเปลี่ยนแปลงเลย ซึ่งไม่เป็นผลดีแน่นอน

ดังนั้น เวลานี้ จึงยังต่อรองกันตรงตำแหน่งนี้ ขณะที่ปลัดสธ.ก็ยังยืนยันว่าต้องเป็นนพ.ศุภกิจ เพราะชอบธรรมกว่า และเป็นไปตามธรรมาภิบาล ส่วนฝ่ายการเมืองก็พลาดที่ละเมิดธรรมาภิบาลไปแล้วกับกรณีของ นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ และครั้นจะไม่ให้ นพ.วันชัยได้ขึ้น ก็ไม่รู้จะตอบคำถามคนในสธ.ได้อย่างไร

ด้วยประการฉะนี้ การแต่งตั้งโยกย้ายสธ.ปีนี้จึงยังชะงักงัน และเป็นสุญญากาศอย่างนี้ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะมีใครยอมถอยและตกลงกันให้ได้ ซึ่งใครที่กุมธรรมาภิบาลได้มากกว่า ก็จะเป็นฝ่ายได้เปรียบไปในที่สุด