เว็บไซต์โปรพับลิกา : รัฐบาลกลางสหรัฐฯ ตัดสินใจระงับการเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับ“การจ่ายค่าตอบแทนแพทย์” โดยก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุขได้ออกมายอมรับว่า ฐานของมูลดังกล่าวยังขาดฐานรายได้อีกหนึ่งประเภทจากทั้งหมด 3 ประเภท นั่นก็คือรายได้หรือค่าตอบแทนที่มาจากบริษัทยาและบริษัทเครื่องมือแพทย์
ขอบคุณภาพจาก http://lerablog.org/
หลังจากที่รัฐบาลกลางของสหรัฐอเมริกาได้กำหนดไว้ว่า ในวันที่ 30 กันยายนนี้จะมีการเผยแพร่ฐานข้อมูลการจ่ายค่าตอบแทนแพทย์ซึ่งจะมีการแสดงตัวเลขค่าตอบแทนของแพทย์ที่จ่ายโดยบริษัทยาและบริษัทเครื่องมือแพทย์ด้วยนั้น ล่าสุดกำหนดการเผยแพร่ข้อมูลดังกล่าวได้ถูกยกเลิกไปแล้ว โดยสองสัปดาห์ก่อนหน้านี้ ศูนย์บริการแผนสุขภาพเมดิแคร์และเมดิเซด (ซีเอ็มเอส) ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบระบบประกันสุขภาพของรัฐได้ออกมาชี้แจงว่า การวิจัยนี้ยังขาดข้อมูลการจ่ายค่าตอบแทนอีก 1 ประเภทจากทั้งหมด 3 ประเภท พร้อมทั้งยังกล่าวอ้างด้วยว่า รายงานค่าใช้จ่ายที่ส่งมาจากบริษัทยาและบริษัทเครื่องมือแพทย์นั้นตรวจพบว่ามีความไม่สอดคล้องกัน
ล่าสุด มีแหล่งข่าววงในเปิดเผยกับเว็บไซต์โปรพับลิกาว่า ซีเอ็มเอสจะยังไม่เผยแพร่ข้อมูล ค่าตอบแทนของแพทย์ที่จ่ายโดยบริษัทยาและบริษัทเครื่องมือแพทย์ เนื่องจากที่ผ่านมา บริษัทยาได้สนับสนุนทุนวิจัยให้แก่แพทย์โดยผ่านหน่วยงานกลาง เช่น การเซ็นสัญญากับองค์กรด้านการวิจัยต่างๆ ซึ่งตามข้อกฎหมายแล้ว แพทย์จะไม่มีโอกาสตรวจสอบหรือคัดค้านตัวเงินที่จ่ายเป็นค่าตอบแทนให้แก่พวกเขา อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จาก ซีเอ็มเอส ไม่ยอมเปิดเผยถึงรายละเอียดของชุดข้อมูลดังกล่าว และไม่ได้ตอบคำถามที่ว่า บันทึกทางการเงินที่เกี่ยวข้องมีจำนวนเท่าไหร่
“ข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อมูลที่สามารถเผยแพร่ไปสู่สาธารณชนได้ โดยเป็นไปตามบทบัญญัติใน The Physician Payment Sunshine Act ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกฏหมายประกันสุขภาพที่ประกาศใช้เมื่อปี ค.ศ. 2010” วุฒิสมาชิกชาร์ส กราสสลี่ย์ ในฐานะหนึ่งในแกนนำที่เสนอร่างกฎหมายดังกล่าว แสดงความไม่พอใจเกี่ยวกับปัญหาในการเปิดเผยผลการวิจัยในครั้งนี้
"ซีเอ็มเอส ใช้เวลามากกว่า 4 ปีในการทำงานวิจัยชิ้นนี้ มันช่างน่าผิดหวังและขาดความรับผิดชอบ เพราะทั้งๆที่อยู่ในช่วงท้ายของการทำงานแล้ว แต่กลับต้องมาถกเถียงกันในประเด็นพื้นฐานธรรมดาๆ อีก" วุฒิสมาชิกกลาสสลี่ย์ กล่าว
แนวคิดของการเปิดเผยฐานข้อมูลค่าตอบแทนของแพทย์นั้นค่อนข้างตรงไปตรงมา นั่นคือการเปิดเผยให้ผู้บริโภคได้รับทราบถึงความสัมพันธ์ ระหว่างสถานะทางการเงินของแพทย์ผู้สั่งใช้ยากับบริษัทยาและเครื่องมือแพทย์ ว่ามีความโปร่งใสหรือมีผลประโยชน์ทับซ้อนหรือไม่
อย่างไรก็ตาม ความพยายามในการเผยแพร่ข้อมูลค่าตอบแทนแพทย์ที่จ่ายโดยบริษัทยาและบริษัทเครื่องมือแพทย์ไปสู่สาธารณะ ได้ถูกเหตุปัจจัยหลายด้านทำให้ล่าช้าออกไป จริงๆแล้วบทบัญญัติ The Sunshine Act ได้กำหนดให้ซีเอ็มเอสนำเสนอข้อบังคับในการเปิดเผยข้อมูลตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2011 และกำหนดให้มีการเปิดเผยข้อมูลสู่สาธารณะก่อนสิ้นเดือนกันยายน 2013 แต่ในการปฏิบัติจริง กว่าซีเอ็มเอสจะประกาศข้อบังคับในเรื่องนี้ได้ก็ล่วงเข้าสู่เดือนธันวาคม 2011 แล้ว และยังทิ้งช่วงไปจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2013 กว่าจะมีการสรุปรูปแบบการจัดทำรายงานบันทึกค่าใช้จ่าย ซึ่งในช่วงนั้น ทางซีเอ็มเอสระบุให้บริษัทยาและบริษัทเครื่องมือแพทย์จัดทำรายงานชุดแรก โดยรวบรวมยอดค่าใช้จ่าย ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม – 31 ธันวาคม 2013 ทั้งที่เป็นการจ่ายเงินและการให้สิ่งของอื่นๆ แก่แพทย์ อาทิ การสนับสนุนทุนวิจัย การสัมมนาเพื่อส่งเสริมการขายยา การรับเป็นที่ปรึกษา การจัดเลี้ยงอาหาร การสนับสนุนค่าเดินทาง และการให้ของกำนัลต่างๆ ฯลฯ
มีจุดสังเกตหลายข้อที่แสดงให้เห็นถึงความบกพร่องของฐานข้อมูลชุดนี้ ซึ่งเจ้าหน้าที่จากซีเอ็มเอสก็ยังไม่ยอมออกมาตอบแม้กระทั่งข้อสงสัยพื้นฐานที่ว่า บริษัทยาและบริษัทเครื่องมือแพทย์ได้ส่งบันทึกการจ่ายเงินหรือให้สิ่งของเข้ามาเป็นจำนวนกี่รายการ และในจำนวนนี้มีข้อมูลที่คลาดเคลื่อนจนต้องระงับการเผยแพร่กี่รายการ
นอกจากนี้มีบริษัทที่รายงานข้อมูลผิดพลาดคลาดเคลื่อนจำนวนกี่บริษัท สรุปคือ ทางซีเอ็มเอสยังไม่ได้ระบุว่าข้อมูลในส่วนใดบ้างที่บกพร่อง และจะมีหนทางใดที่ประชาชนจะได้รับทราบข้อเท็จจริงหลังจากที่มีการยกเลิกการเผยแพร่ข้อมูลดังกล่าวไปแล้ว
ก่อนหน้านี้ แพทย์ในสหรัฐฯต่างได้รับบันทึกข้อความจากซีเอ็มเอสที่ระบุว่า ทางซีเอสเอ็มจะทำการลบบันทึกค่าตอบแทน หากพบว่ามีการระบุชื่อของแพทย์ หมายเลขประจำตัวประชาชน และเลขที่ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรม ไม่ตรงกับฐานข้อมูลของทางการ
ส่วนหนึ่งของบันทึกข้อความจากซีเอ็มเอสระบุด้วยว่า “ได้มีการกำหนดกรอบเวลาใหม่เพื่อให้บริษัทต่างๆแก้ไขและส่งข้อมูลเข้ามาอีกครั้ง รวมทั้งจะมีการกำหนดวันที่จะเผยแพร่ข้อมูลสู่สาธารณะขึ้นใหม่ด้วย สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับกระบวนการ และกรอบเวลาในการทำงานจะสรุปและแจ้งให้ทราบภายในต้นเดือนกันยายน 2014 ”
ทั้งนี้ซีเอ็มเอสได้ออกมาชี้แจงก่อนหน้านี้แล้วว่า การเผยแพร่ชุดข้อมูลซึ่งถูกระงับนี้ไปสู่สาธารณะ อาจจะต้องเลื่อนออกไปจนถึงเดือนมิถุนายน 2015
อย่างไรก็ตาม ในเวลาต่อมา ซีเอ็มเอสได้ส่งบันทึกข้อความไปยังแพทย์อีกครั้ง โดยระบุว่าภายในวันที่ 10 กันยายนนี้ ให้แพทย์ไปตรวจสอบบันทึกค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องและให้โต้แย้งทันทีหากพบปัญหา
นายจอห์น เมอร์ฟี่ย์ ผู้ช่วยที่ปรึกษาทั่วไปจากสมาคมผู้วิจัยและผลิตเภสัชภัณฑ์แห่งอเมริกา (พีเอชอาร์เอ็มเอ) กล่าวว่า บริษัทยาที่เป็นสมาชิกของสมาคมต่างระบุว่า ที่ผ่านมาได้รับทราบข้อมูลในเรื่องนี้น้อยมาก และไม่แน่ใจว่าจะดำเนินการต่ออย่างไร และการที่ซีเอ็มเอสตัดสินใจระงับการเผยแพร่ข้อมูลนั้น บริษัทยาต่างก็ไม่สามารถระบุได้ว่ามีข้อมูลใดบ้างที่ไม่สอดคล้องกันตามที่ซีเอ็มเอสกล่าวอ้าง
ด้าน เจนนิเฟอร์ วอลล์ โฆษกของสมาคมผู้วิจัยและผลิตเภสัชภัณฑ์แห่งอเมริกา กล่าวว่า “หลังจากที่ซีเอ็มเอสได้ลบข้อมูลบางอย่างออกไปจากรายงานการจ่ายค่าตอบแทนแพทย์ บริษัทของเราก็ยังคงตรวจสอบปัญหาของข้อมูลที่เกี่ยวข้องต่อไป แต่จนถึงวันนี้ ซีเอ็มเอสก็ยังไม่ให้รายงานฉบับเต็มที่ระบุมูลเหตุเบื้องหลังการตัดสินใจของพวกเขา ฉะนั้นมันจึงเป็นเรื่องยากสำหรับเราที่จะเข้าใจปัญหาในการตรวจสอบข้อมูลซึ่งเกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ อย่างไรก็ตาม เราจะพยายามดำเนินงานให้เสร็จทันภายในเดือนกันยายนตามที่ซีเอ็มเอสกำหนด"
ล่าสุด องค์กรที่เกี่ยวข้องหลายแห่ง รวมทั้งสมาคมการแพทย์อเมริกัน ได้ออกมาเรียกร้องให้ซีเอ็มเอส เลื่อนกำหนดการเผยแพร่ข้อมูลชุดนี้ออกไปอีก เนื่องจากยังมีความสับสนในหลายด้าน และยังขาดการประชาสัมพันธ์ข่าวสารไปยังกลุ่มแพทย์ที่เกี่ยวข้องอย่างทั่วถึง ในขณะเดียวกันเว็บไซต์ที่ซีเอ็มเอสจัดทำขึ้นเพื่อเปิดโอกาสให้แพทย์เข้าไปตรวจสอบข้อมูลของตัวเองก็ยังใช้งานได้ไม่ดีนัก
ผู้เขียน : ชารล์ ออร์นสเตอิน (Charles Ornstein)
- 3 views