พบผู้เข้าเกณฑ์สอบสวนอีโบลา รายที่ 2 จากพื้นที่ระบาด ขณะนี้รับตัวไว้ในรพ.

กระทรวงสาธารณสุข พบผู้เข้าเกณฑ์สอบสวนโรครายที่ 2 มาจากพื้นที่ระบาด เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อเช้าวันที่ 10 กันยายน 2557 ขณะนี้รับตัวไว้รักษาในโรงพยาบาล และให้การดูแลตามมาตรฐานที่กำหนด มีการป้องกันการแพร่เชื้อขั้นอย่างเต็มที่ อาการผู้ป่วยวันนี้ มีไข้ เจ็บคอ ไอเล็กน้อย แพทย์เจาะเลือดตรวจหาเชื้อไวรัสอีโบลา จะทราบผลพรุ่งนี้

วันนี้ (11 กันยายน 2557) ที่กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์โสภณ  เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรค พร้อมด้วยนายแพทย์สุพรรณ  ศรีธรรมมา อธิบดีกรมการแพทย์ และผู้แทนกรมวิทยาศาสตร์ การแพทย์ ร่วมกันแถลงข่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขพบผู้เข้าเกณฑ์สอบสวนโรคอีโบลารายที่ 2 เป็นชาย เดินทางมาจากประเทศที่กำลังมีการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสอีโบลา เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม2557 ถึงสนามบินสุวรรณภูมิเช้าวันที่ 10 กันยายน 2557 ได้เข้ารายงานตัวที่ด่านควบคุมโรคติดต่อ ณ สนามบินสุวรรณภูมิ เจ้าหน้าที่ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย ไม่มีไข้ จากนั้นในคืนวันเดียวกัน เริ่มมีไข้สูง หนาวสั่น ปวดเมื่อยร่างกาย เจ็บคอ ไอเล็กน้อย จึงไปพบแพทย์ตามที่เจ้าหน้าที่ด่านควบคุมโรคของกระทรวงสาธารณสุขแนะนำ ขณะนี้ แพทย์รับตัวไว้รักษาในห้องแยกโรคในโรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุข เนื่องจากวัดไข้ได้ 38.9 องศาเซลเซียส และมีประวัติเดินทางมาจากพื้นที่ที่มีการระบาดของโรค ผู้เดินทางรายนี้จึงจัดเป็นผู้เข้าเกณฑ์สอบสวนโรคติดเชื้อไวรัสอีโบลา ขณะนี้แพทย์ได้เจาะเลือดส่งตรวจหาเชื้อไวรัสอีโบลา ที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์และคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จะทราบผลในวันพรุ่งนี้ และจะตรวจเลือดซ้ำอีกครั้งในวันที่ 5 นับตั้งแต่ผู้ป่วยเริ่มมีไข้ ซึ่งตรงกับวันที่15 กันยายน 2557

นายแพทย์โสภณกล่าวว่า เนื่องจากผู้เข้าเกณฑ์สอบสวนโรครายนี้ ไม่มีอาการไข้เมื่อเดินทางมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิ จึงไม่มีผู้สัมผัสโรคที่ร่วมเดินทางมาทางเครื่องบิน แต่เมื่อถึงประเทศไทยแล้วมีผู้สัมผัสโรคทั้งหมด 21 คน ในจำนวนนี้เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 6 คน ได้แยกไว้สังเกตอาการ ส่วนผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ กระทรวงสาธารณสุขจะติดตามอาการใกล้ชิดทุกวัน จนครบระยะเวลา 21 วัน ทั้งนี้ ในการรักษาผู้เข้าเกณฑ์สอบสวนโรครายนี้ เบื้องต้น ได้ให้การรักษาตามอาการ และวางแผนตรวจหาการติดเชื้อโรคอื่นๆที่มีอาการใกล้เคียงด้วย อย่างไรก็ตาม การตรวจพบผู้เข้าเกณฑ์รายนี้ แสดงให้เห็นถึงระบบการเฝ้าระวังที่กระทรวงสาธารณสุขวางไว้ ดำเนินการได้เป็นอย่างดี ขอให้ประชาชนติดตามข้อมูลและความคืบหน้าจากกระทรวงสาธารณสุขอย่างใกล้ชิด