กระทรวงสาธารณสุข เผย ผู้ป่วยที่สันนิษฐานว่าถูกแมงมุมกัดบริเวณมือ ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี แพทย์ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด ล่าสุดอาการดีขึ้นแล้ว คาดว่า 2-3 วันจะกลับบ้านได้
นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข ประจำเขตสุขภาพที่ 11 กล่าวถึงกรณีข่าวของผู้ป่วยที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีที่สันนิษฐานว่าถูกแมงมุมกัดบริเวณมือซึ่งมีอาการไข้สูง ปวดแผล บาดแผลที่มือ อักเสบบวมเป็นถุงน้ำ มีอาการแน่นหน้าอกและหายใจติดขัด ขณะนี้เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี ว่า ได้รับรายงานจากผู้อำนวยการโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี ถึงความคืบหน้าของผู้ป่วย ว่ายังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด ว่าการอักเสบของแผลที่ส่งผลให้ติดเชื้อในกระแสเลือดนั้น เกิดจากถูกแมงมุมกัด หรือเป็นผลมากจากถูกเหล็กแหลม เนื่องจากอาการหากถูกแมงมุมกัด จะมีอาการในช่วงเวลานั้นเลย แต่ผู้ป่วยกลับแสดงอาการอักเสบ หลังถูกกัดไปแล้ว 3-5 วัน จึงคาดว่าไม่น่าจะเกิดจากแมงมุมกัดอย่างไรก็ตาม ได้ให้เจ้าหน้าที่ด้านระบาดวิทยา จากสำนักสาธารณสุขจังหวัดสุราษฎร์ธานี ดำเนินการสอบสวนโรค เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงโดยเร็ว
นพ.อดิเกียรติ เอี่ยมวรนิรันดร์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า อาการของผู้ป่วย ขณะมาถึงโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานีนั้น มีอาการอักเสบของแผลมาก แผลบวมแดง และเป็นหนองมาก รุนแรงถึงขั้นช็อก ทีมแพทย์พยาบาลได้ให้การรักษาและแพทย์ได้ผ่าตัดถุงน้ำที่หลังมือ ทำความสะอาดแผล ให้ยาฆ่าเชื้อให้พักรักษาตัวในห้องไอซียู ขณะนี้อาการดีขึ้นมากแล้วและเตรียมถอดเครื่องช่วยหายใจ คาดว่าผู้ป่วยจะนอนพักรักษาตัวอีกประมาณ 2-3 วัน ก็สามารถกลับบ้านได้ โดยทีมแพทย์ของโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี จะให้การรักษาอย่างเต็มที่จนกว่าคนไข้จะหายเป็นปกติ
นพ.อดิเกียรติ กล่าวต่อว่า ปัญหาของบาดแผลติดเชื้อพบได้ทั่วไปแม้จะเป็นบาดแผลขนาดเล็กน้อย ขอให้รีบล้างบาดแผลโดยใช้น้ำดื่มบรรจุขวดน้ำประปา หรือน้ำต้มสุกล้างและฟอกสบู่ ทำความสะอาด ชำระสิ่งสกปรกหากมีแอลกอฮอล์ให้เช็ดรอบๆ แผลและทายารักษาแผลสด เช่น โพรวิดีน เป็นต้น และดูแลบาดแผล อย่าให้แผลถูกน้ำเพื่อป้องกันการติดเชื้อเข้าสู่กระแสเลือดประการสำคัญไม่แนะนำให้รักษาบาดแผลด้วยวิธีการพอกสมุนไพรสด เนื่องจากกรรมวิธีอาจไม่สะอาดพอ ทั้งนี้ หากบาดแผลยังไม่ดีขึ้น เช่น แผลบวมแดงควรรีบพบแพทย์ หรือสถานพยาบาลใกล้บ้าน
ทั้งนี้ ในกรณีที่เป็นบาดแผลที่มีถูกของแหลมทิ่มตำ เช่น ตะปูที่มีสนิมถูกหนามตำ จะต้องระมัดระวังเป็นพิเศษการดูแลบาดแผลขอให้บีบเลือดออกจากแผลขณะล้างแผลด้วยน้ำสะอาด และทำความสะอาดแผล จากนั้นควรพบแพทย์ หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่อยู่ใกล้บ้านเพื่อฉีดวัคซีนป้องกันบาดทะยักด้วย
- 9 views