จักษุแพทย์ เตือนประชาชนที่ชอบนอนดูโทรทัศน์ แม้จะสบายแต่อาจส่งผลอนาคต ขั้นคอเดี้ยง เนื่องจากกล้ามเนื้อเกร็ง และย้ำเตือนผู้ที่นอนตะแคงเล่นสมาร์ทโฟน แท็ปเล็ต จะเกิดปัญหาเดินคอเอียงไม่รู้ตัว รวมทั้งแนะผู้ที่มีอาการตาแห้ง แสบตาหลังดูจอมือถือหรือจอคอมพิวเตอร์ ไม่จำเป็นต้องหยอดตา วิธีแก้ไขที่ถูกต้องคือดื่มน้ำบ่อยๆ และหลับตาเพื่อพักสายตาจะช่วยได้
นายแพทย์ฐาปนวงศ์ ตั้งอุไรวรรณ จักษุแพทย์ประจำโรงพยาบาลพระนั่งเกล้า จังหวัดนนทบุรี ให้สัมภาษณ์ว่า ขณะนี้การใช้พฤติกรรมประจำวันของประชาชนน่าห่วง ผู้ที่อาศัยอยู่ในอพาร์ทเม้นท์ คอนโดมิเนียม ที่มีพื้นที่จำกัด มักชอบนอนดูทีวีและทีวีมักจะตั้งอยู่สูงกว่า การดูทีวีในลักษณะนี้ อาจก่อปัญหาโดยไม่รู้ตัว การนอนดูทีวีเพราะทีวีอยู่ข้างบน เป็นท่าที่ไม่ถูก จะมีผลเสียต่อกล้ามเนื้อที่คอ กระดูกคอ ทำให้เอ็นคออักเสบ และหากมีพฤติกรรมติดต่อกันไปนาน ๆ ในระยะยาว จะเกิดอาการคอเดี้ยงคือปวดต้นคอ กล้ามเนื้อเกร็งและอักเสบ ท่าที่ดีที่สุดในการดูทีวีคือ ท่าที่สบายที่สุด เช่นนั่งเอกเขนก และทีวีต้องอยู่ในระดับสายตา
นายแพทย์ฐาปนวงศ์ กล่าวต่อไปว่า เรื่องที่น่าห่วงอีกประการหนึ่ง ขณะนี้ประชาชนมักจะอยู่กับเครื่องมือสื่อสารเกือบตลอดเวลา โดยเฉพาะแท็บเล็ตและสมาร์ทโฟน และชอบนอนตะแคงดูข้อมูลหรือภาพหรือนอนตะแคงกดขอความส่งไลน์ การนอนดูข้างเดียว มือจะถือข้างเดียว เมื่อดูติดต่อกันนานๆ อาจจะมีผลต่อบุคลิกไม่รู้ตัว เด็กบางคนจะเดินคอเอียงๆ บางคนไม่รู้ตัว เคยพบมาแล้ว เป็นเด็กอายุ 7 ปี เดินคอเอียง เนื่องจากนอนเล่นแท็ปเล็ต ซึ่งพฤติกรรมเช่นนี้เกิดจากความเคยชิน เหมือนเช่นบางคนขณะอยู่เฉย ๆ แต่เคาะโต๊ะเล่น หรือเขย่าเท้าเล่น
นอกจากนี้ การใช้สายตาดูจอมือถือหรือดูคอมพิวเตอร์มากเกินไป จะเกิดปัญหาตาแห้ง ในช่วงหลังๆ มานี้จะพบผู้ป่วยมากขึ้นเรื่อยๆ คือมักไปด้วยอาการแสบตา เคืองตา ตาพร่ามัว แต่สายตาปกติ และผู้ป่วยมักจะนิยมไปพบจักษุแพทย์เพื่อขอยาหยอดตา เนื่องจากเข้าใจว่าตาติดเชื้อ นับว่าเป็นความเข้าใจผิด และไม่จำเป็นต้องรักษาด้วยยาดังกล่าว เนื่องจากสาเหตุที่ตาแห้งเกิดจากแสงจ้าจากจอมือถือและคอมพิวเตอร์ สายตาต้องเพ่งลงที่จอ ติดต่อเป็นเวลานาน นอกจากจะไม่ได้ผลแล้ว จะเกิดผลเสียในอนาคตคือปัญหาการดื้อยา วิธีแก้ไปอาการแสบตา เคืองตาหลังเพ่งจอมือถือหรือคอมพิวเตอร์ที่ถูกต้องคือให้ดื่มน้ำบ่อยๆ เพื่อให้น้ำไปหล่อเลี้ยงดวงตาทำให้ตาชุ่มชื้น หรือนั่งหลับตาพักสายตาชั่วครู่ประมาณ10-15 นาทีก็จะช่วยได้
“วิธีการป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพ เนื่องมาจากการใช้เทคโนโลยีการสื่อสารที่ไม่ถูกต้อง ขอให้ใช้เทคโนโลยี ใช้เมื่อจำเป็น หากไม่จำเป็น ก็อย่าใช้ โดยเฉพาะการใช้โทรศัพท์มือถือประเภทสมาร์ทโฟนขณะนี้ ถือว่าใช้มากเกินความจำเป็น” นายแพทย์ฐานปนวงศ์ กล่าว
- 435 views