สปสช.ฟุ้งสิทธิประโยชน์ “กองทุนโรคไต” ช่วยผู้ป่วยเข้าถึงการรักษา ลดภาวะล้มลาย สบโอกาส “วันไตโลก” กระตุ้นประชาชนป้องกัน ลดปัจจัยเสี่ยงโรคไต หลังสถาบันโรคไตฯระบุมีผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มปีละ 10,000 คน คาดปี 2560 ต้องใช้งบดูแลถึง 17,000 ล้าน จากเดิมที่ใช้ 5 พันกว่าล้านบาท ชี้แม้มีระบบหลักประกันฯ รองรับ แต่หากจำนวนผู้ป่วยมากอาจเกิดอุปสรรคเข้าถึงบริการ เป็นภาระงบประมาณประเทศ
       
นพ.วินัย สวัสดิวร เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า จากข้อมูลล่าสุดพบว่า คนไทยป่วยด้วยโรคไตเรื้อรัง ร้อยละ 17.6 ของประชากร หรือประมาณ 8 ล้านคน จำนวนนี้เป็นผู้ป่วยไตเรื้อรังระยะสุดท้าย 2 แสนคน หากไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้องจะเกิดโรคแทรกซ้อนถึงเสียชีวิตได้ ซึ่งการรักษาคือการผ่าตัดปลูกถ่ายไต แต่ด้วยข้อจำกัด โดยเฉพาะการขาดแคลนผู้บริจาคไต นอกจากค่าผ่าตัดที่ยุ่งยากแล้ว ทำให้แต่ละปีทั่วประเทศสามารถปลูกถ่ายไตได้เพียงปีละ 400 รายเท่านั้น ขณะที่มีผู้ป่วยที่รอการเปลี่ยนถ่ายไตถึง 40,000 ราย ดังนั้น ผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังเหล่านี้จึงต้องทำการล้างไตเพื่อยืดอายุ ไม่ให้เสียชีวิต ซึ่งก่อนหน้าที่ระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าจะกำหนดสิทธิประโยชน์ผู้ป่วยโรคไตเรื้อรัง ค่าใช้จ่ายในการฟอกไตด้วยเครื่องไตเทียมสูงครั้งละ 1,500-2,000 บาท ฟอกสัปดาห์ละ 2 ครั้งตลอดชีวิต ทำให้มีผู้ป่วยโรคไตและครอบครัวไม่น้อยที่ต้องกู้หนี้ยืมสิน จนถึงขั้นล้มละลาย ส่วนค่าใช้จ่ายปลูกถ่ายไตนั้นอยู่ที่ 200,000 บาทต่อคน ไม่รวมถึงยากดภูมิคุ้มกันที่ต้องกินไปตลอดชีวิต นับเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการรักษา
       
นพ.วินัย กล่าวว่า หลังจากบอร์ด สปสช.กำหนดให้การรักษาโรคไตเรื้อรัง เป็นหนึ่งในสิทธิประโยชน์ พร้อมสนับสนุนการพัฒนาหน่วยบริการให้เพียงพอกับการดูแลผู้ป่วย และได้แยกบริหารจัดการเป็น “กองทุนผู้ป่วยโรคไต” ออกจากงบเหมาจ่ายรายหัว ตั้งแต่ปี 2551 ครอบคลุมตั้งแต่การรักษาทดแทนไตด้วยวิธีการผ่าตัดเปลี่ยนไต การล้างไตผ่านช่องท้องอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงการฟอกไตผ่านเครื่องที่กำหนดให้เฉพาะผู้ที่ไม่สามารถล้างไตผ่านช่องท้องได้ นอกจากช่วยผู้ป่วยเข้าถึงการรักษาเพิ่มขึ้นแล้ว ยังทำให้ภาวะการล้มละลายลดลง ทั้งนี้ จากการดำเนินการในช่วง 6 ปี ที่ผ่านมา สามารถลดอัตราการเสียชีวิตและยืดอายุผู้ป่วยให้ยืนยาวขึ้น โดยข้อมูลปี 2556 มีผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังในระบบหลักประกันฯ 27,210 ราย เป็นผู้ป่วยล้างไตผ่านหน้าท้องมากที่สุด 14,318 ราย ฟอกไตผ่านเครื่อง 11,964 ราย ได้รับการผ่าตัดปลูกถ่ายไต 90 ราย และผู้ป่วยปลูกถ่ายไตที่ต้องได้รับยากดภูมิ 838 ราย
       
“แม้ สปสช.จะได้จัดสรรงบประมาณเพื่อดูแลผู้ป่วยโรคไตวายเรื้อรัง โดยปี 2557 จัดงบประมาณไว้ที่ 5,178 ล้านบาท เป็นงบสำหรับบริการผู้ป่วยทดแทนไต 35,429 ราย เป็นเงิน 5,154 ล้านบาท และเป็นงบสนับสนุนและส่งเสริมการจัดบริการสำหรับผู้ป่วยไตวายเรื้อรัง 24.7 ล้านบาท แต่มีการคาดการณ์ว่าจำนวนผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังในประเทศจะเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจากการรายงานสถาบันโรคไตภูมิราชนครินทร์ พบผู้ป่วยโรคไตวายเรื้อรัง 8 ล้านคน มีผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้นปีละประมาณ 10,000 คน โดยในปี 2560 คาดว่าอาจจะต้องใช้งบประมาณในการดูแลผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังกว่า 17,000 ล้านบาท” เลขาธิการ สปสช.กล่าว
       
นพ.วินัย กล่าวว่า โรคไตวายเรื้อรังเกิดจากพฤติกรรมการบริโภค โดยเฉพาะอาหารรสเค็มจัด หรือมีโซเดียมคลอไลด์สูงเป็นประจำโดยไม่คำนึงถึงสุขภาพ ซึ่งวันพฤหัสบดีสัปดาห์ที่ 2 เดือน มี.ค.ของทุกปี เป็นวันที่ International Federation of Kidney Foundation และ International Society of Nephrology ได้กำหนดให้เป็น “วันไตโลก” โดยปีนี้ตรงกับวันที่ 13 มี.ค.จึงเป็นโอกาสดีในการรณรงค์ให้ประชาชนตระหนักในการป้องกันและช่วยลดจำนวนผู้ป่วยไตเรื้อรัง เพราะแม้ไทยจะมีระบบหลักประกันฯ มีสิทธิประโยชน์ครอบคลุม แต่หากจำนวนผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังมีจำนวนมากเกินไป ไม่เพียงจะกลายเป็นภาระงบประมาณในอนาคต ยังอาจส่งผลต่อการเข้าถึงการรักษาของผู้ป่วยเอง