เดลินิวส์ - พี่ชายคนโตครอบครัว "ศรพรหม" สารภาพหมดเปลือกนาทีลั่นไกฆ่า"พ่อ-แม่-น้อง" วางแผนวางยานอนหลับก่อนหยิบปืนยิงเรียงตัว ก่อนยัดทูตมรณะใส่ มือน้องชายป้ายความผิด รับเหตุต้องปลิดชีพบุพการี เพราะแค้นถูกแม่ดุด่าเรื่องผลการเรียนตก ตำรวจแจ้งข้อหาหนักก่อนส่งตัวไปฝากขังด้านจิตแพทย์วิเคราะห์เด็กมีปัญหามานาน เตือนอย่าทำร้ายลูกทั้งทางวาจาและร่างกาย
จากกรณีพบศพ นายภานุวัตร ศรพรหม นางเยาวลักษณ์ ศรพรหม และนายสอง (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี พ่อแม่และบุตรชายถูกยิงเสียชีวิตภายในห้องนอนชั้น 2 ของบ้านพักภายในหมู่บ้านเมลาวิลล์ ถนนเสมา-ฟ้าคราม ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ซึ่งเบื้องต้นทางตำรวจสันนิษฐานว่า อาจเป็นการก่อเหตุของนายหนึ่ง (นามสมมุติ) อายุ 18 ปี บุตรชายคนโตของครอบครัว อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ได้นำตัวนายหนึ่งมาเค้นสอบปากคำ รวมทั้งพาไปค้นบ้านพักและคอนโดมิเนียม ภายในซอย ลาดพร้าว 17 เพื่อหาหลักฐาน กระทั่งนายหนึ่ง ยอมปริปากรับสารภาพว่าเป็นคนลงมือฆ่าคน ในครอบครัวตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
เกี่ยวกับความคืบหน้าในเรื่องดังกล่าวเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 11 มี.ค. ที่ สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุม ธานี พล.ต.ต.สมิทธิ มุกดาสนิท ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี พ.ต.อ.อำนาจ จันทร์เจริญ รอง ผบก. ภ.จว.ปทุมธานี พ.ต.อ.ตระกูล เกียวประเสริฐ ผกก.สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ร่วมกันแถลงผลการจับกุมนายหนึ่ง (นามสมมุติ) อายุ 18 ปี โดยนายหนึ่งรับสารภาพว่า ก่อนเกิดเหตุได้มาทวงสัญญากับพ่อและแม่เรื่องที่จะซื้อรถให้หากสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ แต่เรียนมาจะ 1 ปีแล้วก็ไม่มีวี่แววว่าจะซื้อให้ จึงทำให้โดนดุด่าเรื่องผลการเรียนตกไม่สนใจเรียน และเรื่องอื่น ๆ ทำให้รู้สึกโกรธแค้นอย่างมาก
นายหนึ่ง กล่าวอีกว่า จากนั้นจึงคิดวางแผนด้วยการวางยานอนหลับบิดาและมารดาแต่ไม่เป็นผล กระทั่งวันเกิดเหตุได้ไปซื้อยานอนหลับชนิดน้ำมาเตรียมไว้ เพื่อจะลงมือระหว่างกินหมูกระทะ แต่ขวดยานอนหลับกลับตกพื้นแตกเสียก่อน จากนั้นจึงแยกย้ายกันเข้านอนตามปกติ ต่อมาเวลา 03.00 น. ด้วยความโกรธจึงเดินขึ้นไปยังห้องเก็บของเห็นกล่องเก็บปืนของพ่อวางอยู่ในห้อง จึงได้หยิบปืนออกมาแล้วเดินไปที่ห้องนอนที่มีพ่อแม่และน้องชายนอนอยู่ ครั้งแรกคิดจะยิงแม่เพียงคนเดียว แต่เกรงว่าพ่อและน้องชายจะตื่นมาเจอ จึงได้ตัด สินใจยิงทั้ง 3 คน หลังลงมือด้วยความกลัวจะถูกจับจึงนำปืนมาวางไว้ข้างศพน้องชายเพื่อกลบเกลื่อนความผิด
หลังก่อเหตุได้ล็อกประตูห้องแล้วปีนออกมาทางห้องน้ำก่อนจะขับรถออกจากบ้านพักในเวลา 07.00 น. ไปอยู่ที่คอนโดมิเนียม แล้วโทรศัพท์ไปหาป้าว่าติดต่อพ่อไม่ได้ จากนั้นจึงย้อนกลับมาที่บ้านอีกครั้ง พร้อมป้าทำให้พบศพดังกล่าว ซึ่งในตอนนี้รู้สึกเสียใจที่ทำไปอย่างนี้ และขอโทษพ่อแม่และน้องและญาติทุกคน
จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวนายหนึ่งไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่จุดเกิดเหตุพร้อมแจ้งข้อหาฆ่าบุพการี และฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ก่อนจะพาไปฝากขังที่ศาลจังหวัดธัญบุรีตามขั้นตอนต่อไป ส่วนประเด็นการสังหารครั้งนี้เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าผู้ตายอาจจะถูกวางยาสลบก่อน ซึ้งต้องรอผลตรวจของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์อีกครั้ง
ด้าน พญ.วิมลรัตน์ วันเพ็ญ รอง ผอ. สถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์ กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า กรณีดังกล่าวต้องดูว่าเด็กป่วยเป็นโรคทางจิตเวชหรือไม่ การเลี้ยงดูเป็นอย่างไร ปล่อยปละละเลยหรือไม่ หรือโดนตามใจเกินไปหรือไม่นอกจากนี้ต้องดูว่าถูกเลี้ยงดูอย่างก้าวร้าวทั้งทางวาจาและกายหรือไม่ แต่การก่อเหตุดังกล่าวแสดงว่าเด็กมีปัญหามานาน
เมื่อถามว่าแสดงว่าพ่อแม่ไม่ควรไปจู้จี้กับลูกจนเกินไป พญ.วิมลรัตน์ กล่าวว่า ต้องดูแลให้ถูกต้องสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ไม่ทำร้ายกันด้วยวาจาหรือร่างกาย ทำดีก็ชมทำไม่ดีก็สอน ส่วนกฎระเบียบจำเป็นต้องให้ลูกรู้ว่าอะไรทำได้หรือทำไม่ได้ พ่อแม่ไม่ควรดุด่าแต่ควรพูดจาด้วยเหตุผล.
ที่มา--เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 13 มี.ค. 2557 (กรอบบ่าย)--
- 349 views