สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี กรมการแพทย์ ออกหนังสือวิงวอนทุกฝ่าย 3 ข้อ เพื่อเพิ่มความระมัดระวังหลีกเลี่ยงการละเมิดสิทธิเด็ก จากปมขัดแย้งทางการเมืองและความรุนแรงที่เกิดขึ้น โดยมีเด็กเข้าไปมีส่วนร่วม
จากกรณีที่มีการเสียชีวิตจากเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นบริเวณเวทีชุมนุมราชประสงค์ เมื่อวันที่ 23 ก.พ. 57 และเหตุการณ์ความขัดแย้งที่เด็กเข้าไปมีส่วนร่วม ทำให้หลายฝ่ายออกมาแสดงความเป็นห่วงต่อความปลอดภัยของเด็กที่กำลังได้รับอันตรายจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ หรือไม่เกี่ยวข้องใดๆเมื่อวันที่ 25 ก.พ. 57 สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินีจึงได้ออกมาแสดงความห่วงใยในประเด็นที่เกิดขึ้น โดยมีใจความดังต่อไปนี้
ท่ามกลางปมความขัดแย้งของบ้านเมืองที่ทวีความรุนแรงมากจนเขาสู่ภาวะวิกฤติและได้เกิดผลเป็นรูปธรรมต่อการสูญเสียชีวิตของเด็กที่ไร้เดียงสาสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ขอร่วมแสดงความเสียใจต่อผู้สูญเสียทุกครอบครัวในความเป็นพ่อและแม่ นี่คือการสูญเสียทุกอย่างของความเป็นครอบครัว หรือถ้าไม่เสียชีวิต ภาพของเด็กที่ต้องร้องไห้ เจ็บปวด จากการรักษาไม่ว่าจะผ่าตัด การทำแผล การฉีดยา หรือภาพของเด็กที่ร้องไห้ ไม่เข้าใจว่าทำไมตัวเองต้องพิการเดินไม่ได้เหมือนเดิม เป็นภาพที่ไม่เพียงแต่พ่อแม่ทุกข์ทรมานไปด้วย แพทย์พยาบาลที่ดูแลเด็กก็รู้สึกเช่นเดียวกัน
ข้อวิงวอนข้อแรก ขอทุกฝ่ายไม่ว่าท่านจะเป็นผู้กระทำหรือเป็นผู้ยั่วยุให้เกิดการกระทำ ท่านคือผู้ที่มีส่วนร่วมในการทำร้ายและทำลายชีวิตของผู้บริสุทธิ์ ขอให้หยุดการใช้ความรุนแรงในทุกกรณี ไม่ว่าจะเป็นการชุมนุมของฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดก็ตาม สิ่งที่พ่อแม่ไม่ควรมองข้าม คือการนำเด็กไปเข้าร่วมชุมนุม เพราะจะเป็นการนำเด็กเข้าไปอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่มีบรรยากาศของการใช้เสียง ใช้วาจา สีหน้า ที่สื่อถึงความเกลียดชัง เด็กต่ำกว่า 7 ปี ยังไม่สามารถเข้าใจเหตุผลได้ดีแม้แต่เด็กอายุ 12-13 ปี ซึ่งเราเข้าใจว่าน่าจะโตพอที่จะเข้าใจเหตุผล แต่ในความเป็นจริง เขายังขาดประสบการณ์ ในการวิเคราะห์คัดกรอง ดังนั้นเด็กมีสิทธิ์ รับ ''สาร'' ของการจงเกลียด จงชัง การทำลายล้าง ฯลฯ และ “สาร” นั้นย่อมมีผลต่อวิธีคิด บุคลิกภาพของเขาต่อไป อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ สถาบันฯ จึงข้อวิงวอนข้อที่สอง ไม่พาเด็กเข้าร่วมหรือไปอยู่ในสถานที่ใกล้การชุมนุมทางการเมืองเด็ดขาด
ในด้านสิทธิเด็ก เด็กๆ คงไม่เข้าใจว่า สิทธิแปลว่าอะไร และสำคัญกับเขาอย่างไรพ่อแม่เลี้ยงดู ให้อะไรเด็กก็จะรับตามนั้น เด็กยังคิดไม่เป็นว่าแบบนี้ไม่เอา แบบนี้ไม่ดี พ่อแม่อย่าทำนะ เด็กเล็กก็ยังพูดไม่ได้ เด็กโตก็ยังพูดไม่ค่อยเป็น พ่อแม่ต้องเป็นคนปกป้องดูแลให้เด็กได้รับสิทธิเด็ก ประเทศไทยของเรายอมรับปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิเด็กที่สหประชาชาติต้องการให้ทั่วโลกได้รู้และปกป้องเพราะเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของการเป็นเด็กทุกคน ไม่ว่าจะมีหรือจน ได้แก่
สิทธิในการมีชีวิตรอด
สิทธิในการได้รับการพัฒนาความสามารถและการเรียนรู้
สิทธิในการได้รับการปกป้องคุ้มครองให้พ้นจากอันตรายทุกรูปแบบ
สิทธิในการมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นหรือเสนอแนะความเห็นของตนเอง
เด็กต้องถูกปกป้องจากความขัดแย้งใดๆ ก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นทางการเมือง ทางสังคม ทางศาสนา เด็กต้องถูกกันออกจากความขัดแย้งทุกรูปแบบ ไม่นำเด็กไปใช้ในประเด็นทางการเมือง หรือเป็นเครื่องมือในการแสวงหาผลประโยชน์ แม้ว่าสถานการณ์ทางการเมืองตึงเครียดและขัดแย้งอย่างไร ก็ไม่ใช่เงื่อนไขที่จะกระทำใดๆ ที่จะละเมิดสิทธิเด็กข้อวิงวอนข้อ 3 ขอให้ทุกคนในสังคม พ่อแม่ผู้ปกครอง ร่วมด้วยช่วยกันปกป้องสิทธิเด็ก คุ้มครองเด็กให้พ้นจากอันตรายต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นอันตรายทางร่างกาย หรืออันตรายทางจิตใจที่อยู่ท่ามกลางความขัดแย้งต่างๆที่ปฏิบัติได้โดยง่ายคือ ไม่พาเด็กไปร่วมอยู่ในกลุ่มผู้ชุมนุม
- 13 views