เดลินิวส์ - วันนี้ (25 ก.พ.)ที่ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) นางสาวสุภิญญา กลางณรงค์กสทช.และคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.)ด้านคุ้มครองผู้บริโภค กล่าวว่า ขณะนี้มีการร้องเรียนจากประชาชนถึงการโฆษณาผลิตภัณฑ์สุขภาพและเครื่องสำอางค์ที่โอ้อวดสรรพคุณเกินจริงและผิดกฏหมายในช่องการออกอากาศทางการเมืองเพิ่มมากขึ้นโดย กสท.ได้มีการแจ้งเตือนและเชิญช่องออกอากาศของการเมืองหารือเพื่อขอความร่วมมือและไม่ให้มีการนำโฆษณาที่ไม่ผ่านสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)มาออกอากาศอีก ทั้งนี้กสท.จะได้ไปแตะในด้านเนื้อหาการออกอากาศแต่จะควบคุมเฉพาะโฆษณาที่ผิดกฏหมายเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม จากการร่วมกับ อย.ในการเฝ้าระวังและปราบปรามการโฆษณาผลิตภัณฑ์สุขภาพและเครื่องสำอางค์ที่โอ้อวดสรรพคุณเกินจริงและผิดกฏหมายในเคเบิลทีวีทีวีดาวเทียมและวิทยุมาประมาณ 2 ปี มีแนวโน้มลดน้อยลง โดยล่าสุดได้เตรียมประสานสำนักงานกสทช.เขตทั่วประเทศและสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเป็นเครือข่ายช่วยเฝ้าระวังและมอนิเตอร์ตรวจสอบการโฆษณาผลิตภัณฑ์ที่ผิดกฏหมายอย่างใกล้ชิดทั้งในทีวีดาวเทียมระดับชาติและเคเบิล วิทยุในระดับท้องถิ่น คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ประมาณเดือนพ.ค.นี้ตลอดจนสนับสนุนการสร้างเครือข่ายภาคประชาชนในการร่วมมอนิเตอร์และเฝ้าระวังการโฆษณาอีกทางหนึ่งด้วยพร้อมฝากประชาชนสามารถร้องเรียนหากพบการโฆษณาที่ผิดกฏหมายมาได้ที่สายด่วน กสทช.1200 และสายด่วน อย.1556
ด้านเภสัชกรประพนธ์ อางตระกูล รองเลขาธิการ อย. กล่าวว่าผลิตภัณฑ์ที่พบการโฆษณาผิดฏหมายมากที่สุดในสื่อทุกประเภทคือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่เสริมสมรรถภาพทางเพศรองลงมาเป็นผลิตภัณฑ์ยารักษาโรคสารพัดชนิด ยาแผนโบราณที่โอ้อวดสรรพคุณเกินจริงหรือขึ้นทะเบียนเป็นอาหารและโฆษณาในเชิงรักษาโรคซึ่งขัดต่อกฏหมาย อย. อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า โทษของกฎหมายของอาหารและยาที่ผ่านมาไม่รุนแรงปรับเพียง 5000 บาท ทำให้ยังมีการฝ่าฝืนโฆษณาจำนวนมาก อย.จึงได้ร่วมกับกสทช.ในการร่วมกันปราบปราม โดย กสทช.สามารถใช้โทษทางปกครองในการดำเนินการซึ่งพบว่าในช่วง 2-3เดือนที่ผ่านมามีผู้ประกอบการสื่อและเอเจนซี่โฆษณาแจ้งว่าจะปรับปรุงการออกอากาศไม่ให้เนื้อหาผิดกฏหมายมากขึ้นด้วย
อย่างไรก็ตาม ในปีนี้อย.จะจัดทำโครงการตรวจเนื้อหาการโฆษณาในวิทยุกระจายเสียง 1 อำเภอ 1 คลื่นเพื่อร่วมปราบปรามการโฆษณาที่ผิดกฏหมายอีกทางหนึ่งด้วย
ที่มา: http://www.dailynews.co.th
- 4 views