ประชาชาติธุรกิจ -แกล็กโซสมิทไคลน์เทงบฯ 50 ล้านบาท หันทำตลาด 360 องศา เร่งสร้างแบรนด์พานาดอลชิงส่วนแบ่งยาบรรเทาปวดลดไข้ สำหรับเด็ก เป้า 5 ปีเบียดซาร่าขึ้นแท่นผู้นำตลาด พร้อมขยายเซ็กเมนต์เพิ่มไลน์สินค้าผู้ใหญ่ ชิงเค้ก 4.5 พันล้าน
นางสาวจรินี วงศ์กำทอง ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค บริษัท แกล็กโซสมิทไคลน์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ปีนี้มีแผนทำการตลาดผลิตภัณฑ์ยาบรรเทาปวดลดไข้ ภายใต้แบรนด์ "พานาดอล" อย่างจริงจังมากขึ้น หลังจาก อยู่ในตลาดมานานหลายปี ก่อนหน้านี้ เน้นกระจายสินค้าให้ครอบคลุม ผ่านช่องทาง โรงพยาบาลมีสัดส่วน 50% ร้านขายยา 40% อีก 10% เป็นช่องทางอื่น ๆ อาทิ ร้านสะดวกซื้อและร้านค้าทั่วไป (โชห่วย) ตั้งเป้า ส่วนแบ่งตลาดเพิ่มเป็น 10% ในสิ้นปีนี้
และตั้งเป้าอีก 5 ปีจะขยับส่วนแบ่งตลาด เพิ่มเป็น 35% ขึ้นเป็นผู้นำตลาด จากปัจจุบันบริษัทมีส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับ 4 โดยผู้นำตลาด คือ ซาร่ามีส่วนแบ่ง 35% เทมปร้า 17% ไทลินอล 15% ของตลาด ยาบรรเทาปวดลดไข้สำหรับเด็ก มูลค่าประมาณ 500 ล้านบาท เติบโต 7% คิดเป็นสัดส่วน 20% ของตลาดยาบรรเทาปวดลดไข้ โดยยาบรรเทาปวดลดไข้มี มูลค่ารวม 4,500 ล้านบาท แบ่งเป็น ยาแก้ปวดที่ใช้รับประทาน 2,800 ล้านบาท และยาแก้ปวดที่ใช้ทาภายนอก 1,700 ล้านบาท คิดเป็นอัตราส่วน 60 : 40
จากเป้าหมายดังกล่าว บริษัทวางแผนสร้างแบรนด์อะแวร์เนส สร้างการรับรู้แบรนด์และความไว้วางใจให้กับผู้บริโภค โดยปีนี้ได้เตรียมงบฯการตลาดไว้ 50 ล้านบาท ทำตลาดแบบ 360 องศา มีทั้งสื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์ทางโทรทัศน์ โดยมีแผน เปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาและพรีเซ็นเตอร์ คนไทยคนแรก คือ แบม-จณิสตา และลูกสาว นอกจากนี้ก็มีสื่อสิ่งพิมพ์ สื่อดิจิทัล สื่อ ณ จุดขาย และจัดทำคู่มือการดูแลเด็ก เมื่อเป็นไข้ตัวร้อน แจกให้กับผู้บริโภค เพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายโดยตรง พร้อมทั้ง สร้างความแข็งแกร่งผ่านช่องทางโรงพยาบาล
"ตลาดใหญ่ยาแก้ปวดเป็นกลุ่มผู้ใหญ่ แต่บริษัทเริ่มจากตลาดเด็ก เพราะคนที่ซื้อยาเข้าบ้านเป็นกลุ่มพ่อแม่ มีแบรนด์ลอยัลตี้ จึงต้องสร้างความเชื่อมั่น และความไว้วางใจในแบรนด์ เชื่อว่าเมื่อออกสินค้าผู้ใหญ่ ก็จะทำให้การตัดสินใจ ง่ายขึ้น ขณะนี้บริษัทสนใจจะนำเข้ามาทำตลาด คาดว่าจะเป็นปีหน้า ตอนนี้มีแค่ 1 รายการสำหรับเจาะกลุ่มผู้ใหญ่ คือ พานาดอล 500 มิลลิกรัม แต่ยังไม่ได้เริ่มทำตลาด มีส่วนแบ่งเพียง 1-2% แต่เชื่อว่าหลังจากเราเริ่มทำตลาดเด็กในปีนี้ เมื่อคนรู้จักแบรนด์มากขึ้น ก็น่าจะทำให้ส่วนแบ่งตลาดผู้ใหญ่เพิ่มขึ้น"
แบรนด์พานาดอลเป็นแบรนด์ใหญ่ที่สุดของบริษัทแม่ มีสินค้าหลากหลาย โดยเฉพาะยาแก้ปวดเฉพาะทาง อาทิ ปวดไมเกรน ซึ่งมองเห็นโอกาสที่จะทยอย นำเข้ามาทำตลาดในไทยด้วย ปัจจุบันตลาดยาแก้ปวดในไทย มีเฉพาะพาราเซตามอลเป็นหลักและไม่มีการทำตลาดครบวงจร ส่วนแบรนด์ใหม่ ๆ ที่เข้ามามีน้อย เพราะแบรนด์ที่มีอยู่เดิมค่อนข้างแข็งแกร่ง แต่ก็มองว่ายังมีช่องว่างทางการตลาดและมีศักยภาพที่จะแข่งขันได้
ภายใต้แผนกจีเอสเค คอนซูเมอร์ เฮลท์แคร์ ยังมีแบรนด์หลักคืออีโน และสก๊อต ขณะนี้ยังไม่มีแผนนำเข้าแบรนด์ใหม่เพิ่มเติม ทั้งนี้ จะใช้วิธีการนำเข้าเป็นหลัก เนื่องจากบริษัทแม่มีโรงงานกระจายทั่วโลก อาทิ มาเลเซีย และฟิลิปปินส์ ส่วนในไทยยังไม่มีแผนจะตั้งฐานการผลิตเอง แต่เชื่อว่าเมื่อเปิดเออีซีจะเอื้อในแง่ของต้นทุนลดลงและนำเข้าง่ายขึ้น
ที่มา: หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ ฉบับวันที่ 24 - 26 ก.พ. 2557
- 235 views