เครือข่ายบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข ทำจดหมายเปิดผนึกซ้ำ จี้ นายกรัฐมนตรี-ครม.รักษาการ เสียสละลาออกก่อนปัญหาลุกลาม แถมถามหาจริยธรรมรับผิดชอบ พร้อมเตรียมล่ารายชื่อแสดงให้ได้มากที่สุดเพื่อแสดงจุดยืน

 

ที่แพทยสภา กระทรวงธารณสุข – เมื่อเวลา 14:00 น. กลุ่มเครือข่ายบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข ประกอบด้วยคณบดีคณะแพทยศาสตร์ คณบดีคณะเภสัชศาสตร์ คณบดีคณะพยาบาลศาสตร์จากมหาวิทยาลัยต่างๆ นายกสภาวิชาชีพ และประชาคมสาธารณสุข ร่วมออกแถลงการณ์ “จดหมายเปิดผนึกถึงนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลรักษาการ โดยขอให้ลาออกจากตำแหน่งเพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อการบริหารประเทศที่ก่อให้เกิดความวุ่นวาย แตกแยก และสร้างความขัดแย้งอย่างรุนแรง”

นพ.สมศักดิ์ โล่ห์เลขา นายกแพทยสภา กล่าวว่า นับตั้งแต่รัฐบาลได้ผลักดันให้ พรบ.นิรโทษกรรมผ่านสภาฯ ได้ทำให้เกิดกระแสการต่อต้านอย่างรุนแรงจากประชาชนจนนำไปสู่การประกาศ พ.ร.ฎ.ยุบสภา และรัฐบาลรักษาการ ซึ่งจากสถานการณ์โดยรวมของประเทศจะเห็นได้ว่าทำให้เกิดความวุ่นวาย มีการแตกแยกและขัดแย้งอย่างรุนแรงในสังคมอย่างต่อเนื่องที่ส่งผลกระทบต่อประเทศ นอกจากนี้ที่ผ่านมารัฐบาลยังได้ถูกกล่าวหาเรื่องทุจริตโครงการจำนำข้าว ประกอบกับผลการเลือกตั้ง 2 กุมภาพันธ์ 2557 ยังไม่ได้แก้ปัญหาบ้านเมืองได้ ท่ามกลางกระแสเรียกร้องจากประชาชนที่ให้ปฏิรูปประเทศอย่างจริงจัง ด้วยสถานการณ์ที่เกิดขึ้น หากนายกรัฐมนตรีและ ครม.รักษาการ ยังคงบริหารประเทศต่อไป จะไม่สามารถแก้ไขปัญหาต่างๆ ได้

ดังนั้นเพื่อสร้างความสงบให้เกิดขึ้นในประเทศ จึงขอเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีและ ครม.รักษาเสียสละลาออกเพื่อเปิดโอกาสให้นายกรัฐมนตรีคนกลางที่เป็นที่ยอมรับจากทุกฝ่ายเข้าดำเนินการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า ซึ่งจะส่งผลให้ผู้ชุมนุมทุกกลุ่มยุติการชุมนุม ประเทศกลับคืนสู่ความสงบ ซึ่งข้อเสนอนี้สอดคล้องกับความเห็นนักกฎหมายและนักวิชาการทั้งภาครัฐและเอกชนว่าเป็นสิ่งที่สามารถกระทำได้ภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน    

“ที่เรามารวมตัวกันวันนี้เพื่ออยากสื่อถึงนายกรัฐมนตรี และอยากขอร้อง เพราะท่านเป็นคนเดียวที่จะแก้ไขปัญหานี้ หากท่านลาออกปัญหาทุกอย่างจบเลย แต่หากยังคงแบบนี้ปัญหาไม่ได้แก้ ประเทศเดือดร้อน และหากยิ่งยืดเยื้อนาน ประเทศก็จะยิ่งเดือดร้อน นอกจากนี้ยังเป็นเรื่องจริยธรรม เพราะหากเราถูกกล่าวหาอะไรและยังคงอยู่ในตำแหน่งก็จะมีเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน มีอำนาจอยู่ แต่หากเราบริสุทธิ์จริง คิดว่าไม่ได้โกงก็ควรเปิดให้คนกลางมาพิจารณา และเมื่อพิสูจน์ได้ว่าบริสุทธ์จึงกลับเข้ามาใหม่” นายกแพทยสภา กล่าวและว่า ทั้งนี้หากจะบอกว่าบุคลากรสาธารณสุขทำไมชอบออกมายุ่งเรื่องการเมือง เพราะบุคลากรทางการแพทย์ส่วนใหญ่เน้นเรื่องจริยธรรม จึงมีความรู้สึกไวต่อเรื่องนี้มาก

ด้าน รศ.นพ.ปรีชา วาณิชยเศรษฐกุล คณบดีคณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ตัวแทนคณบดีคณะแพทยศาสตร์จาก 9 สถาบัน กล่าวว่า บุคลากรทางการแพทย์เป็นกลุ่มที่เน้นเรื่องจริยธรรม ซึ่งเราเห็นว่ากลุ่มที่ควรมีจริยธรรมมากกว่าแพทย์คือกลุ่มผู้บริหารประเทศ ผู้ปกครองประเทศ เพราะประเทศไม่ได้ปกครองด้วยกฎหมาย แต่ปกครองด้วยจริยธรรมด้วย ดังนั้นเมื่อผู้ปกครองประเทศทำผิดจริยธรรมจึงรับไม่ได้ จึงได้เรียกร้องให้ลาออกมาตลอดและเรียกร้องมานาน แต่นายกรัฐมนตรีอาจไม่ได้ยินและคิดว่าเป็นแค่เสียงนกเสียงกา แต่เสียงนกเสียงกานี้จะทำให้สื่อมวลชนและประชาชนได้เห็นว่าอะไรเป็นสิ่งที่ถูกต้องและให้ร่วมกันออกมาแสดงเคลื่อนไหวเพื่อให้ประเทศเดินหน้า ทั้งนี้โรงเรียนแพทย์จะสนับสนุนการเคลื่อนไหวต่างๆ เพื่อให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้

พญ.อุทุมพร กำภู ณ อยุธยา ตัวแทนประชาคมสาธารณสุข กล่าวว่า ที่ผ่านมาทางประชาคมได้เรียกร้องมาตลอดตั้งแต่ก่อนมีการเลือกตั้ง และผลเลือกตั้งที่ออกมาได้แสดงให้เห็นว่าประชาชนไม่ได้ไว้ใจรัฐบาล อีกทั้งการปฏิรูปที่ทางรัฐบาลจะดำเนินการยังไม่ได้รับการตอบรับจากภาคส่วนต่างๆ ทำให้ไม่สามารถดำเนินการต่อไปได้ ดังนั้นจึงควรเปิดให้คนกลางเข้ามาปฏิรูปประเทศ ดังนั้นจึงขอเรียกร้องขอให้รัฐบาลรักษาการมองเห็นประโยชน์ประเทศชาติเป็นหลักเพื่อให้ประเทศก้าวต่อไปได้ ซึ่งมีหนทางเดียวที่ชัดเจน คือรัฐบาลต้องลาออกและเปิดโอกาสให้มีคนกลาง นายกฯ คนกลางเข้ามาแก้ไขปัญหา  

นพ.ธานินทร์ ลีวราภรณ์สกุล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา หนึ่งในตัวแทนประชาคมสาธารณสุข กล่าวว่า มาตรการจากนี้พวกเราจะส่งเสียงให้รัฐบาลทราบว่าจะต้องเสียสละเพื่อแก้ไขปัญหาสถานการณ์บ้านเมืองก่อนที่ปัญหาจะลุกลามไปมากกว่านี้ ดังนั้นรัฐบาลขณะนี้ควรฟังเสียงข้าราชการที่เป็นลูกจ้างรัฐ ซึ่งเราจะระดมรายชื่อพวกเราเพื่อให้รัฐบาลรู้ว่าเราคิดอย่างไร ทั้งนี้เราไม่ได้มีคนแค่นี้ แต่เรามีคนหลายแสนคน ดังนั้นจะหารายชื่อให้ได้มากที่สุดเพื่อที่จะแสดงจุดยืนไปยังรัฐบาล