มูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ เปิดเผยว่าอัยการ 45 รัฐในสหรัฐอเมริกา ร่วมกันเรียกร้องเมื่อวันที่ 27 มกราคมที่ผ่านมาให้สำนักผู้แทนการค้าตัดสินค้าบุหรี่ออกจากการเจรจาเขตการค้าเสรี TPP (Trans Pacific Partnership Agreement) หรือข้อตกลงหุ้นส่วนแปซิฟิก เพื่อป้องกันการที่บริษัทบุหรี่สามารถฟ้องร้องยับยั้งกฎหมายควบคุมยาสูบของรัฐต่าง ๆ
การเจรจาทีพีพีซึ่งมีอเมริกาเป็นโต้โผใหญ่เริ่มขึ้นตั้งแต่ พ.ศ.2548 มี 12 ประเทศเข้าร่วม อันประกอบด้วย อเมริกา แคนาดา เม็กซิโก ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ชิลี เปรู ญี่ปุ่น บรูไน เวียดนาม มาเลเซีย และสิงคโปร์ โดยตั้งเป้าหมายว่าจะเป็นเขตการค้าเสรีที่ใหญ่ที่สุด กำลังอยู่ในขั้นตอนสุดท้ายของการเจรจา ซึ่งเมื่อปีก่อนที่ประธานาธิบดีโอบามามาเยือนกรุงเทพฯ ได้เชิญชวนให้นายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร พิจารณาให้ประเทศไทยเข้าร่วมเจรจาด้วย ทั้งนี้ตามร่างเอกสารการเจรจาในปัจจุบันในหมวดการค้าและการลงทุน ยังคงมีสินค้ายาสูบอยู่ ซึ่งหากเป็นเช่นนี้ จะเปิดโอกาสให้บริษัทบุหรี่สามารถที่จะฟ้องทั้งรัฐบาลกลาง มลรัฐต่าง ๆ ของสหรัฐและรัฐบาลต่างประเทศที่ร่วมลงนามในข้อตกลงการค้าทีพีพี เพื่อยับยั้งมาตรการหรือกฎหมายควบคุมยาสูบ ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อปกป้องสุขภาพ แต่กระทบต่อผลกำไรของบริษัทบุหรี่ โดยบริษัทสามารถฟ้องร้องผ่านอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศ ซึ่งแม้ว่าสุดท้ายแล้วบริษัทบุหรี่จะถูกตัดสินให้แพ้คดีความ แต่ก็จะเป็นการสิ้นเปลืองงบประมาณและทรัพยากรของรัฐบาลอย่างมากในขบวนการต่อสู้คดีกับบริษัทบุหรี่ รวมทั้งทำให้เกิดความล่าช้า กว่าที่กฎหมายแต่ละฉบับจะผ่านออกมาได้ ทั้งนี้รัฐบาลมาเลเซียได้ยืนยันที่จะต้องมีการตัดสินค้ายาสูบออกจากข้อตกลงการค้าทีพีพี
ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ กล่าวว่า จะเฝ้าติดตามรัฐบาลไทยว่าจะเข้าร่วมการเจรจาทีพีพีตามคำเชิญของโอบามาหรือไม่ ถ้าเข้าร่วมจะต้องยืนยันที่จะให้ตัดสินค้ายาสูบออกจากข้อตกลง รวมทั้งจะยืนยันให้มีการตัดสินค้ายาสูบออกจากการเจรจาเอฟทีเอระหว่างไทยกับอียู ซึ่งกำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้
- 4 views