มติชน - กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) รายงานผลการตรวจวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการเพื่อค้นหาเชื้อโคโรนาไวรัส 2012 จากผู้ที่กลับจากการแสวงบุญในพิธีฮัจย์ ประเทศซาอุดีอาระเบีย แม้เบื้องต้นยังไม่พบผู้ติดเชื้อดังกล่าว แต่ยังต้องเฝ้าระวังติดตามสุขภาพผู้แสวงบุญเป็นระยะเวลา 30 วัน นับจากเดินทางกลับจากประเทศซาอุดีอาระเบีย

นพ.อภิชัย มงคล อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เปิดเผยว่า กรมควบคุมโรครายงานว่ามีผู้ที่ไปร่วมแสวงบุญในพิธีฮัจย์กลับเข้ามาประเทศไทยครบถ้วน จำนวน 10,389 คน ตั้งแต่วันที่ 15 พฤศจิกายน 2556 จากการตรวจวิเคราะห์ผู้ป่วยที่เข้าข่ายเฝ้าระวังโรคโคโรนาไวรัส 2012 ระหว่างวันที่ 22 ตุลาคม-20 พฤศจิกายน 2556 ตัวอย่าง ไม่พบว่ามีผู้ติดเชื้อโรคดังกล่าว พบผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ ร้อยละ 25 แยกเป็น เชื้อไข้หวัดใหญ่ชนิด A (H1N1) ร้อยละ 55.55 ไข้หวัดใหญ่ชนิด A (H1N3) ร้อยละ 35.55 และไข้หวัดใหญ่ชนิด B ร้อยละ 8.90

ทั้งนี้ เชื้อไวรัสโคโรนาโดยทั่วไปเป็น กลุ่มของเชื้อไวรัสที่ทำให้เกิดการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ หรือระบบอื่นๆ ทั้งในคนและสัตว์ ส่วนใหญ่อาการไม่รุนแรง เช่น เป็นไข้หวัดธรรมดา หูชั้นกลางอักเสบ เป็นต้น ส่วนเชื้อไวรัสโคโรนา 2012 ที่เพิ่งค้นพบ และระบาดอยู่แถบประเทศทางคาบสมุทรอาระเบียน ผู้ป่วยส่วนใหญ่ที่เสียชีวิตมีอาการติดเชื้อระบบทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรงร่วมกับไตวาย ดังนั้น ผู้ที่เดินทางกลับจากพิธีฮัจย์ควรสังเกตอาการผิดปกติต่ออีก 30 วัน หากมีอาการไข้ ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก ควรพักผ่อนอยู่กับบ้าน และปฏิบัติตามมาตรการลดการแพร่เชื้อสู่คนรอบข้าง โดยสวมหน้ากากอนามัย และล้างมือบ่อยๆ

ที่มา--มติชน ฉบับวันที่ 28 พ.ย. 2556 (กรอบบ่าย)--