สปสช.แถลงการใช้สิทธิของพนักงานส่วนท้องถิ่น

เดลินิวส์ - เมื่อเร็ว ๆ นี้ ที่ห้องศิริพานิช รพ.สระบุรี สำนักงานหลักประกันสุขภาพ สปสช. เขต 4 สระบุรี เชิญผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ และสื่อมวลชนเข้าร่วมรับฟังการแถลงข่าวการใช้สิทธิรักษาพยาบาลของข้าราชการ พนักงานส่วนท้องถิ่นและครอบครัว โดยไม่ต้องสำรองจ่าย

นพ.สุธนะ เสตวรรณ รอง ผอ.สปสช. เขต  4 สระบุรี กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลมีนโยบายจัดตั้งกองทุนกลางค่ารักษาพยาบาลข้าราชการพนักงานส่วนท้องถิ่นและครอบครัวเพื่อให้เกิดระบบคุ้มครองความมั่นคงด้านสิทธิการรักษาพยาบาล สำหรับข้าราชการ-พนักงานส่วนท้องถิ่น และครอบครัวให้ได้บริการที่เสมอภาคกับสิทธิอื่น ๆ และลดภาระความเสี่ยงขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นขนาดเล็ก ซึ่งสิทธิประโยชน์มีความเสมอภาคทัดเทียมระบบสวัสดิการค่ารักษาพยาบาลข้าราชการ โดยที่ผู้มีสิทธิไม่ต้องสำรองจ่าย สามารถรักษาที่โรงพยาบาลรัฐได้ทุกแห่ง ซึ่งคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการของร่างพระราชกฤษฎีกา กองทุนค่ารักษาพยาบาลข้าราชการท้องถิ่น เมื่อวันที่ 17 ก.ย. ที่ผ่านมา กำหนดให้พนักงานและลูกจ้างของ อปท.ใช้สิทธิ จ่ายตรงในการรับบริการสาธารณสุข ตามมาตรา 9 แห่ง พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2545 ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ต.ค. 57

โดยขณะนี้มีความพร้อมทุกด้านแล้ว ทั้งการจัดทำฐานข้อมูลทะเบียนของผู้ได้รับสิทธิ และผู้ใช้สิทธิร่วมของข้าราชการส่วนท้องถิ่นให้ถูกต้องครบถ้วน โดยการพัฒนาโปรแกรมขึ้นมา และให้ อปท.แต่ละแห่งคีย์ข้อมูลลงไปในโปรแกรม ปัจจุบันมียอดของผู้ใช้สิทธิมากกว่า 660,000 ราย จากองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) 76 แห่ง เทศบาล 1,900 แห่ง และ อบต. 5,693 แห่ง เหลือ อปท. 98 แห่งทั้งประเทศที่ยังให้ข้อมูลไม่ครบถ้วน ในส่วนของเขตพื้นที่ 8 จังหวัดภาคกลางตอนบนในความรับผิดชอบ ของ สปสช.เขต 4 สระบุรี คีย์ข้อมูลลงในโปรแกรมเต็มพื้นที่แล้ว 649 แห่ง ของ อบต.และเทศบาลในพื้นที่ทั้งหมด ปัจจุบันมียอดผู้ใช้สิทธิมากกว่า 55,959 ราย

สำหรับข้าราชการ อปท.ที่ยังไม่ได้ลงทะเบียน สามารถติดต่อลงทะเบียนได้ที่นายทะเบียนประจำ อปท.ที่สังกัดอยู่ โดยใช้ทะเบียนบ้าน ทะเบียนสมรส ใบรับรองบุตร โดยสิทธิจะเกิดภายใน 1 วัน หลังการบันทึกข้อมูลในการบริการ สำหรับผู้ที่ลงทะเบียนแล้วจะต้องไปสแกนนิ้วที่ รพ.ที่ใช้บริการ โดยไม่ต้องสำรองจ่าย เพียงแสดงบัตรประจำตัวประชาชนหรือบัตรอื่นที่ทางราชการออกให้มีเลข 13 หลัก กรณีเด็กอายุต่ำกว่า 7 ปี ใช้สูติบัตร ส่วนผู้ที่ยังไม่ได้ลงทะเบียน หากไปใช้บริการต้องสำรองจ่ายแล้วนำใบเสร็จไปเบิกจ่ายกับต้นสังกัด จะได้รับเงินคืนหลังจากตรวจสอบความถูกต้องของเอกสารแล้ว ดังนั้นจึงขอให้ผู้มีสิทธิไปลงทะเบียนโดยเร็วจะสามารถใช้บริการได้สะดวกกว่า ทั้งนี้หากมีปัญหาหรือต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถโทรฯสอบถามได้ที่สายด่วน สปสช.1330

ที่มา: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์  วันที่ 8 พฤศจิกายน 2556