แพทย์ชนบทออกโรงค้าน พรบ.นิรโทษกรรม ชวนติดป้ายหน้า รพ.!!

ชมรมแพทย์ชนบทชวนโรงพยาบาลชุมชนทั่วประเทศเป่านกหวีดต้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับสุดซอย เตรียมขึ้นป้ายคัดค้านในโรงพยาบาลทั่วประเทศ ด้าน รมว.สธ.กร้าว ห้ามใช้สถานที่ราชการมาเกี่ยวข้องกับการเมือง ยันไม่ห้ามมาชุมนุมแต่ต้องลาอย่างถูกระเบียบ และห้ามใช้ชื่อองค์กร สธ.

นพ.เกรียงศักดิ์ วัชรนุกูลเกียรติ ประธานชมรมแพทย์ชนบท กล่าวว่า ชมรมแพทย์ชนบทและโรงพยาบาลชุมชนได้ร่วมใจกันเป่านกหวีดต่อต้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม แบบเหมาเข่ง ทั้งจากการชุมนุมทางการเมือง และการคอร์รัปชัน เพราะไม่ถูกต้องและไม่ชอบธรรม กลุ่มแพทย์โรงพยาบาลชุมชนและชมรมแพทย์ชนบท จึงขอให้ทุกคนร่วมแสดงพลังต่อต้านการกระทำที่ไม่ชอบธรรม โดยพร้อมใจกันขึ้นป้ายคัดค้าน ซึ่งขณะนี้มีเครือข่าย รพ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี ได้ขึ้นป้ายคัดค้านแล้ว และต่อด้วยชมรมแพทย์ชนบทภาคใต้ ซึ่งจะดำเนินการอีก 20 แห่ง ตั้งแต่วันที่ 5 พ.ย.เป็นต้นไป จากนั้นก็จะทยอยขึ้นป้ายในโรงพยาบาลชุมชนทั่วประเทศ

"ขณะนี้ยังไม่มีการพูดคุยว่าจะไปร่วมชุมนุมที่กรุงเทพฯ หรือไม่ แต่มีการพูดว่าใครสะดวกให้เดินทางไปได้เลย โดยอาจเป็นวันหยุดที่ไม่ส่งผลกระทบต่องาน ส่วนที่ว่าจะเดินทางไปร่วมกับกลุ่มชุมนุมหรือไม่นั้น มีแน่นอน แต่ต้องหารือเพื่อรวมกลุ่มกันอีกครั้ง" ประธานชมรมแพทย์ชนบท กล่าว

ด้าน นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า การชุมนุมต้องแยกเป็น 2 เรื่อง คือ 1.พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ไม่ใช่เรื่องของรัฐบาล แต่เป็นเรื่องของสภาผู้แทนราษฎร รัฐบาลไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ และ 2.เรื่องการชุมนุมของบุคลากรทางการแพทย์ ถือว่าเป็นเรื่องที่แสดงออกได้ตามสิทธิที่มี แต่ต้องไม่นำองค์กรไปเกี่ยวข้อง เช่น ใช้ชื่อกลุ่มแพทย์จากกระทรวงสาธารณสุข หรือจากโรงเรียนแพทย์ต่างๆ เป็นต้น ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ไม่สมควร เพราะไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเป็นความเห็นของบุคลากรทั้งหมด จึงไม่ควรนำความเห็นส่วนตัวมาอ้างเป็นความเห็นขององค์กร ส่วนบุคลากรที่มาร่วมแสดงจุดยืนขอให้เป็นไปตามขอบข่ายของกฎหมายและระเบียบราชการ

"การขึ้นป้ายในสถานที่ราชการไม่ว่าจะเป็นการคัดค้านหรือสนับสนุน ผมก็ไม่เห็นด้วย เป็นเรื่องที่ไม่สมควรที่จะใช้สถานที่ราชการเข้าไปเกี่ยวข้องกับการเมือง เพราะสถานที่ราชการควรที่จะเป็นกลาง เรื่องนี้คงต้องกำชับไปยังผู้บังคับบัญชาของแต่ละหน่วยงานให้ไปทำความเข้าใจกับบุคลากรในแต่ละองค์กรว่า อย่าเอาองค์กรเข้าไปเกี่ยวข้อง และเมื่อมีการแสดงออกแล้วและสภาฯได้รับทราบความคิดเห็นผู้ชุมนุมก็ควรสลายตัว เพราะชุมนุมนานๆ จะส่งผลเสียกับสุขภาพได้" รมว.สาธารณสุข กล่าว

นพ.ประดิษฐ กล่าวอีกว่า การชุมนุมของบุคลากรทางการแพทย์ควรชุมนุมในสถานที่ที่จัดไว้และควรมีการลางานมาอย่างถูกต้องตามระเบียบของราชการ โดย สธ.จะกำชับให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ทั่วประเทศไปอธิบายให้ผู้ใต้บังคับบัญชารับทราบว่า สธ.ไม่ได้ห้ามการไปร่วมชุมนุม แต่เป็นการห้ามไม่ให้ใช้ชื่อของสถานที่ราชการไปใช้ในการชุมนุม เพราะทั้งหมดเป็นทรัพย์สินของส่วนกลาง

นพ.ประดิษฐ กล่าวด้วยว่า หากเกิดสถานการณ์รุนแรง สธ.ได้เตรียมพร้อมรับมือตลอด เหมือนกรณีการรับมือเขาพระวิหาร โดยในส่วนของการชุมนุมที่ กทม.นั้น สธ.ได้กำชับให้ศูนย์เอราวัณและศูนย์ต่างๆ เตรียมพร้อมอยู่ตลอดเวลา หากเกิดสถานการณ์รุนแรงก็สามารถเข้าช่วยเหลือได้ทันที อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าคงไม่เกิดสถานการณ์รุนแรงขึ้น เพราะการชุมนุมเป็นไปอย่างสงบ และรัฐบาลก็ไม่มีนโยบายที่จะใช้ความรุนแรงสลายการชุมนุม

ที่มา : www.manager.co.th